น.ส.โอเดรย์ อาซูเลย์ อดีต รมว.วัฒนธรรมฝรั่งเศส ได้รับแต่งตั้งเป็น ผอ.องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก โดยเฉือนเอาชนะนายฮามัด บิน อับดุลอาซิซ อัล-คาวารี อดีต รมว.วัฒนธรรมกาตาร์ไปได้อย่างหวุดหวิด 30 ต่อ 28 คะแนน ท่ามกลางการแทรกแซงทางการเมืองระหว่างประเทศอย่างดุเดือด หลังจากกลุ่มประเทศรอบอ่าว โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบีย ซึ่งประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับกาตาร์ ไม่ยอมลงคะแนนให้กาตาร์ แม้เป็นชาติอาหรับด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม น.ส.อาซูเลย์ วัย 45 ปี ซึ่งจะดำรงตำแหน่งต่อจากนางอิรินา โบโกวา ชาวบัลแกเรีย และเป็นผู้หญิงคนที่ 2 ที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุมัติรับรองแต่งตั้งจากประเทศสมาชิก 195 ประเทศในวันที่ 10 พ.ย. สำหรับปัญหาท้าทายสำคัญของ ผอ.ยูเนสโกคนใหม่ ได้แก่ การปฏิรูปองค์กรเก่าแก่ 70 ปี และการเกลี้ยกล่อมสหรัฐฯ และอิสราเอลมิให้ถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิก
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจะลาออกจากยูเนสโกด้วยข้ออ้างว่าองค์กรมีอคติต่ออิสราเอล ต่อเนื่องจากกรณีที่รัฐบาลสหรัฐฯ สมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ระงับการให้เงินทุนแก่ยูเนสโก เนื่องจากไม่พอใจยูเนสโกลงมติรับปาเลสไตน์เข้าเป็นสมาชิก เพราะถือเป็นการรับรองปาเลสไตน์เป็นประเทศ จนทำให้อิสราเอล ประเทศคู่พิพาทไม่พอใจมาก
ทั้งนี้ สหรัฐเคยถอนตัวจากยูเนสโก สมัยอดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน เมื่อปี 2527 ด้วยข้อกล่าวหาว่า ยูเนสโกบริหารการเงินผิดพลาด มีนโยบายเป็นอคติต่อสหรัฐฯ จนในสมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช จึงได้กลับมาเป็นสมาชิก เมื่อปี 2545 เพราะเห็นว่ายูเนสโกสามารถเป็นกลไกในการปราบปรามลัทธินิยมความรุนแรง
CR:AFP,Reuters