+++นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เห็นชอบการปรับสิทธิประโชน์ของบอร์ดรัฐวิสาหกิจในรูปแบบการให้บริการพิเศษ รวมทั้งค่ารับรอง เพื่อให้บอร์ดใหม่ที่แต่งตั้งเข้าไปพิจารณา โดยรับเพียงเบี้ยประชุมและรายจ่ายประจำ เช่น การบินไทยยกเลิกการรับตั๋วฟรี ปรับลดงบลงทุนปี 2557 จำนวน 10 แห่ง เพื่อใช้เงินลงทุนอย่างคุ้มค่า โดยลดลงจาก 54,000 ล้านบาท เหลือ 46,333 ล้านบาท หรือลดลง 7,767 ล้านบาท
+++สำหรับแผนฟื้นฟูของรัฐวิสาหกิจที่มีปัญหา ซึ่งเสนอมาแล้ว 4 แห่ง คือ บมจ.ทีโอที บมจ. กสท.โทรคมนาคม ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ให้นำแผนฟื้นฟูกลับไปประเมินใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ข้อมูลทุกอย่างครอบคลุม และนำกลับมาเสนอพร้อมกับรายอื่นที่ยังไม่เสนอ คือ บมจ.การบินไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) โดยต้องส่งแผนมาให้พิจารณาภายใน 3 เดือน หลังจากนี้จะทยอยพิจารณาแผนพื้นฟูแต่ละรายว่าจะดำเนินการอย่างไร.
+++พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) บริษัทการบินไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการในปีนี้ คาดว่าจะคาดทุนประมาณ 1.2-2 หมื่นล้านบาท ซึ่งมากกว่าการขาดทุนปีที่ผ่านมา 1.2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากผลประกอบการในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีขาดทุนอย่างต่อเนื่อง เพราะแผนลดค่าใช้จ่ายและแผนเพิ่มรายได้
+++การจัดทำแผนฟื้นฟูวิกฤตการบินไทย พบว่า 4 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1 ปัญหาด้านการบริหารจัดการ 2 ด้านการดำเนินงาน 3 โครงสร้างทางการเงิน และ 4 ปัญหาด้านบุคลากร ส่งผลให้บริษัทการบินไทยมีผลประกอบการขาดทุนแผนการปรับลดพนักงานระยะ 5 ปี การบินไทยจะมีพนักงานประมาณ 1.8 หมื่นคน เทียบกับปัจจุบัน 2.4 หมื่นคน โดยมีเป้าหมายปรับลดพนักงานปีละ1,200 คน จำนวนกว่า 6,000 คน ซึ่งในปีนี้มีพนักงานสมัครใจเข้าร่วมโครงการเกษียณมากกว่าที่ตั้งเป้าไว้แบ่งเป็น กลุ่มเกษียณอายุ และสมัครใจลาออก 1,200 คน และกลุ่มที่มีปัญหาสุขภาพ 300 คน รวม 1,500 คน เบื้องต้นใช้งบประมาณ ราว 2,000 ล้านบาท
+++พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึง ความคืบหน้าเด็กอุ้มบุญ 9 คน ที่ตรวจพบในคอนโดในพื้นที่สน.ลาดพร้าว ที่มีนายมิตซึโตกิ ชิเกตะ ชาวญี่ปุ่นอายุ 24 ปี อ้างเป็นผู้ปกครองว่า พนักงานสอบสวน สอบปากคำพยานบุคคล ซึ่งเป็นแม่เด็กอุ้มบุญทั้ง 9 คน บางส่วนแล้ว ส่วนที่เหลือยังคงรอชายชาวญี่ปุ่นมาเข้าให้ข้อมูล ทั้งนี้ บช.น.จะประชุมคณะทำงานเพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าวอีกครั้งในวันพรุ่งนี้
+++นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา เปิดเผยว่า คณะกรรมการแพทยสภา ยังเห็นชอบให้แก้ประกาศแพทยสภา ที่เกี่ยวข้องกับการอุ้มบุญ โดยจะห้ามการจ่ายค่าตอบแทนแก่ผู้บริจาคเซลล์สืบพันธุ์หรือหญิงที่รับตั้งครรภ์ ในลักษณะที่อาจทำให้เข้าใจได้ว่าซื้อขายหรือรับจ้างตั้งครรภ์นอกจากนี้ ยังห้ามไม่ให้ดำเนินการเพื่อคู่สมรสที่เป็นเพศเดียวกันหรือไม่มีคู่สมรส และห้ามมิให้สถานพยาบาลหรือผู้ให้การรักษาด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์เป็นคนกลาง หรือร่วมกับนายหน้าจัดการ หรือนำเสนอ จัดหาหรือ นำเข้า/ส่งออก ไข่บริจาค หรือตัวอ่อนบริจาค หรือจัดหาสตรีเพื่อมารับตั้งครรภ์แทน โดยประกาศฉบับใหม่ จะมีผลทันทีในเดือน ก.ย. นี้ อย่างไรก็ตาม ประกาศแพทยสภา จะสามารถเอาผิดได้เฉพาะแพทย์เท่านั้น หากผู้ที่กระทำผิดไม่ใช่แพทย์จะต้องใช้กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม คณะกรรมการแพทยสภา ยังได้เห็นชอบร่างประกาศ เรื่อง มาตรฐานในเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์เพื่อให้ทันความก้าวหน้าในทางการแพทย์” ตามที่ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยเสนอเพื่อควบคุมแพทย์ทั้งประเทศ
+++หุ้นไทย ปิดตลาด ลดลง 2.58จุด ดัชนีอยู่ที่1,541.97จุด มูลค่าซื้อขาย 56,334.39 ล้านบาท
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว ของญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 100.94 จุด ปิดที่ 15,314.57 จุด
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 88.98 จุด ปิดที่ 24,801.36 จุด
+++ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ประชุมป้องกันและแก้ไขปัญหาการอุบัติภัยจากอาคารถล่มและการดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัย ร่วมกับตัวแทน จ.ปทุมธานี กระทรวงมหาดไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กรมโยธาธิการและผังเมือง ผู้แทนกระทรวงแรงงาน สมาคมประกันวินาศภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ปัญหาที่พบคือ ปัญหาแรงงานที่มีทั้งแรงงานหญิงตั้งครรภ์ ที่ตามหลักแล้วไม่สมควรอนุญาตให้มาทำงานในลักษณะดังกล่าว หรือแม้กระทั่งเด็กเล็ก รวมถึงแรงงานต่างชาติที่ผิดกฎหมายและเกิดการสูญเสีย จากนี้ไปต้องเข้มงวดกวดขัน โดยท้องถิ่นจังหวัด และภูมิภาคต้องทำงานร่วมกัน และรวมถึงการหารือในมาตรการต่างๆ ให้ครอบคลุมการซื้อขายอาคารสูง คอนโดฯ เพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกใช้บริการบริษัทรับเหมาก่อสร้างได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
+++นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จะเน้นตรวจสอบด่านควบคุมโรคตามท่าอากาศยานนานาชาติทั้งหมด 5 แห่ง และด่านทางน้ำทั้งหมด 17 แห่ง พร้อมกับสั่งการให้โรงพยาบาลทุกแห่งทบทวนระบบ และซ้อมแผนการควบคุมโรค หากพบผู้ต้องสงสัย หากมีผู้ป่วยที่เดินทางมาจาก 4 ประเทศ ซี่งมีการระบาด มีอาการไข้ขึ้นสูง ต้องสงสัยว่าติดเชื้อไวรัสอีโบลาโดยสารมาในเครื่องบิน กัปตันจะมีการแจ้งมายังกระทรวงทันที ซึ่งหากได้รับแจ้ง จะมีการส่งรถพยาบาลไปรับที่ประตูเครื่องบิน และนำส่งไปยังโรงพยาบาลทันที ซึ่งหากผู้ป่วยเดินทางมากรุงเพมหานครฯ ได้เตรียมความพร้อมโรงพยาบาลบำราศนราดูร โรงพยาบาลราชวิถี และโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี เพื่อนำคนไข้จากสนามบินไปส่ง พร้อมกับดำเนินการตรวจวินิจฉัยโรคโดยด่วน
+++ นักเจาะระบบคอมพิวเตอร์ (แฮกเกอร์) ได้เจาะบัญชีทวิตเตอร์ของนายกรัฐมนตรีดมิทรี เมดเวเดฟของรัสเซีย แล้วทวีตข้อความขอลาออกและข้อความวิจารณ์ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน โฆษกรัฐบาลชี้แจงกับสำนักข่าวเรียโนวอสตีว่า บัญชีทวิตเตอร์ภาษารัสเซียของนายกรัฐมนตรีเมดเวเดฟ ถูกเจาะระบบ ข้อความหลายข้อความไม่ใช่ของจริงและเจ้าหน้าที่กำลังแก้ไขอยู่ ทำให้ยอดผู้ติดตามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอีก 10,000 คนเป็นกว่า 2.5 ล้านคน