+++สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชกระแสทรงขอบใจ ประชาชนชาวไทยที่ร่วมบำเพ็ญประโยชน์เป็นจิตอาสา และช่วยเหลืองานพระบรมศพและงานด้านต่าง ๆ อย่างเต็มกำลังความสามารถ เป็นการทำดีด้วยหัวใจ ส่วนงานพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบรอบ 1 ปี วันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สำนักพระราชวังแจ้งว่า ในวันที่ 13 ต.ค.เวลา 17.00 น. และวันที่ 14 ต.ค. เวลา 10.30 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จฯในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบรอบ 1 ปี วันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
+++ขณะที่ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จัดงาน ศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์ ณ โรงพยาบาลศิริราช น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 เริ่มตั้งแต่เวลา 05.30 น. พิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์ 199 รูป จากหอประชุมกองทัพเรือไปยังโรงพยาบาลศิริราช ถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กล่าวแสดงความอาลัย นำโดย ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภาคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล แล้ว ยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 89 วินาที
+++ส่วนช่วงค่ำเวลา 19.00 น. พิธีศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์ นำโดย ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลและบุคลากรศิริราชรวมทั้งสิ้น 420 คน และร่วมร้องเพลง ความฝันอันสูงสุด ประกอบแสง สี สื่อผสมในชุด ศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์ แสงแห่งแผ่นดิน ตราบนิจ นิรันดร์
+++ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันที่ 13 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพร้อมภริยา และคณะรัฐมนตรี จะประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลและร่วมทำบุญตักบาตร เพื่อถวายพระราชกุศลครบรอบ 1 ปี วันสวรรคต ที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า
+++นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม (วธ.) ให้การต้อนรับคณะทูตานุทูตจาก 65 ประเทศ เยี่ยมชมการจัดสร้างพระเมรุมาศ และอาคารประกอบพระเมรุมาศราชรถและพระยานมาศในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ นายวีระ กล่าวว่า คณะทูตานุทูตถือเป็นบุคคลสำคัญที่จะเข้าร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพและเป็นบุคคลสำคัญที่จะสื่อสารเรื่องราวกลับไปยังประเทศของตัวเอง กระทรวงวัฒนธรรม จึงจัดการบรรยายความรู้โบราณราชประเพณีถวายพระเพลิงพระบรมศพให้รับทราบ
+++นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ลงพื้นที่ตรวจความพร้อม การจัดตั้งศูนย์สื่อมวลชน (Main Press Center) หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ ประชุมคณะกรรมการฝ่ายจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และเวลา เวลา 17.00 น. รองนายกฯ ร่วมการซ้อมพิธียกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ ที่ท้องสนามหลวง ส่วนช่วงเช้า ที่โรงละครแห่งชาติ มีการซ้อมการแสดงมหรสพ ในงานพระราชพิธี
+++ส่วนประชาชนที่จะเข้าวางพวงมาลัย ดอกไม้สด เพื่อถวายสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หน้ากำแพงพระบรมมหาราชวัง ระหว่างประตูมณีนพรัตน์ และประตูวิเศษไชยศรี พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะรองโฆษกกองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (กอร.พระราชพิธี) กล่าวว่า ได้เริ่มเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะแล้วตั้งแต่เวลา 08.00 น. เมื่อวานนี้ และจะเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นวันที่มีการซักซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศฯ จะหยุดพัก และเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะ หลังเสร็จสิ้นการฝึกซ้อม ประชาชนสามารถเข้า-ออก ผ่านจุดคัดกรอง 2 จุด คือ บริเวณท่าช้าง และบริเวณสะพานหลังศาลหลักเมือง ซึ่งต้องผ่านถนนอัษฎางค์ ข้างกระทรวงกลาโหม
+++พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติปล่อยแถวจิตอาสาเฉพาะกิจ เพื่อปฏิบัติงานในพระราชพิธี โดยมี ตัวแทนจิตอาสา จากหน่วยงานต่างๆ ทั้ง ทหาร ตำรวจ เทศกิจ และประชาชน จากทุกภาคส่วน ร่วมพิธี จำนวน 2,568 คน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมกว่า 400 คัน จิตอาสา จะมีส่วนช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ในการรักษาความสงบเรียบร้อย และจัดการจราจร ในช่วงงานพระราชพิธี
+++สภาพอากาศในช่วงนี้ ยังต้องติดตามเรื่องของฝนและน้ำล้นตลิ่ง นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 12-16 ต.ค. บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่งในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้
+++นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นจึงจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากขึ้น ประกอบกับ กรมชลประทาน ได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อาจทำให้เกิดภาวะน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักโดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำ จึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย 6 จังหวัดพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา และริมแม่น้ำป่าสัก ได้แก่ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา เตรียมพร้อมรับมือผลกระทบจากปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น
+++สถานการณ์ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และน้ำน้อยและคลองสาขาต่าง ๆ ระดับสูงขึ้น ส่วนที่โบราณสถานวัดไชยวัฒนา เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร นำแผ่นบังเกอร์ระบบน็อกดาวน์ซึ่งมีขนาดความสูง 1 เมตร มาเตรียมที่จะติดตั้งเสริมจากแนวบังเกอร์เดิมที่มีความสูง 160 เมตร เพื่อเตรียมรองรับมวลน้ำที่ทางเขื่อนเจ้าพระยา
แฟ้มภาพ