+++หุ้นไทย เมื่อวานนี้ปิดตลาดบ่าย 1,706.95 จุด บวก 14.73 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นที่ 81,464.26 ล้านบาท ดัชนีหุ้นไทยปิดปรับตัวเหนือระดับ 1,700 จุด ได้สำเร็จ ภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประกาศวันเลือกตั้งชัดเจน โดยดัชนีหุ้นที่ปิดเกิน 1,700 จุด นับเป็นสถิติสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี สิ่งที่ต้องติดตามต่อไปคือ แรงส่งครั้งนี้จะต่อเนื่องหรือไม่ ดัชนี มีท่าทีพร้อมจะปรับขึ้น เพียงแต่รอปัจจัยมากระตุ้นเท่านั้น การลงทุนในวันนี้ คาดหุ้นไทยมีโอกาสบวกต่อ แต่ยังจะเห็นการสลับหุ้นเก็งกำไร ที่กำลังเข้าใกล้ช่วงประกาศผลการดำเนินงานใน Q3/60 ซึ่งภาพรวมดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า
+++กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศจัดเลือกตั้งในเดือนพ.ย.2561 นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) เปิดเผยว่า ตามโรดแมป คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) จะส่งร่าง พ.ร.ป. 10 ฉบับให้ สนช.ภายในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ ซึ่ง 2 ฉบับสุดท้ายคือ ร่าง พ.ร.ป.การได้มา ซึ่ง ส.ว.จะส่งมาให้ สนช. 21 พ.ย.นี้ และร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส. ส่งมาวันที่ 28 พ.ย. สนช.มีเวลาพิจารณาให้เสร็จภายใน 60 วัน แม้จะมีการตั้ง กมธ.ร่วม หรือส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ โรดแมปการเลือกตั้งจะไม่เกินเดือน พ.ย. 2561 ตามที่นายกฯ ระบุไว้ ส่วนเงื่อนเวลา การเลือกตั้งจะกำหนดได้แน่ชัดเมื่อใด ต้อง รอกฎหมายลูกฉบับสุดท้ายแล้วเสร็จจึงจะรู้ว่า จะเลือกตั้งเมื่อใด เพราะต้องนับเวลาอีก 150 วัน ส่วนกระแสข่าวว่า สนช.จะมีการคว่ำร่างกฎหมายลูก เพื่อยื้อเวลานั้น ไม่น่าจะเกิดขึ้น ไม่รู้ว่าจะคว่ำด้วยสาเหตุใด ต้องมีเหตุผล ดูแล้วไม่น่าจะเกิดขึ้น
+++เรื่องปลดล็อกพรรคการเมืองให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวานนี้ ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด หลังจากที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.ป.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองได้ประกาศใช้แล้ว ที่ประชุมเพียงแต่รับรู้ และรับทราบว่ากิจกรรมที่พรรคการเมืองจะต้องทำมีอะไรบ้าง และจะพยายามประชุมหารือให้ได้ข้อสรุปที่ลงตัว หลังจากนี้ คสช.จะหาข้อยุติและจุดลงตัวในเรื่องนี้ให้ได้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ขอหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องก่อน จึงจะประกาศให้ทราบอย่างเป็นทางการ ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่าจะปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ในวันที่ 1 พ.ย. นั้น เป็นเพียงข่าว ของจริงไม่มี เพราะยังไม่มีการพูดคุยกัน
+++ความคืบหน้าโครงการรถไฟไทย-จีน หรือรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 1.79 แสนล้านบาท นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้ลงนามในสัญญา 1 งานออกแบบรายละเอียดโครงสร้างพื้นฐานด้านโยธา และสัญญาที่ 2 งานจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านโยธาแล้ว มองว่าโครงการดังกล่าวจะไม่ติดปัญหาอะไร ยังเดินหน้าต่อไปตามแผนงานที่กำหนด อยู่ระหว่างดำเนินงานเรื่องผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)
+++นายอาคม กล่าวว่า ขณะนี้ได้จัดอบรมและทดสอบวิศวกรจีนในโครงการรถไฟไทยจีน รุ่นที่ 1 เสร็จเรียบร้อยแล้ว 77 คน โดยจะทยอยจัดสอบและอบรมรุ่นที่ 2 ในวันที่ 11-16 ตุลาคมนี้ ก่อนดำเนินการไปจนครบ 400 คน ส่วนการส่งแบบก่อสร้างนั้นทางฝ่ายจีนจะส่งแบบก่อสร้างช่วงแรก 3.5 กิโลเมตร (กม.) มาให้ภายในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อตอกเสาเข็มก่อสร้างโครงการ ส่วนแบบก่อสร้างอีก 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 2 ปากช่อง-คลองขนานจิตร ระยะทาง 11 กม. ช่วงที่ 3 แก่งคอยโคราช ระยะทาง 119.5 กม. และช่วงที่ 4 แก่งคอย-บางซื่อ ระยะทาง 119 กม.ได้เร่งรัดให้ฝ่ายจีนเร่งออกแบบพร้อมส่งมาให้รัฐบาลไทยภายใน 6-8 เดือน
+++แม้ว่า บริษัทซีพีออลล์ จะประกาศยุติการทดลองจำหน่ายเบียร์สดผ่านตู้กดอัตโนมัติแล้ว แต่ นายบุญอยู่ ขอพรประเสริฐ อนุกรรมการพิจารณาความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ระบุว่า ถือว่าความผิดเกิดขึ้นและสำเร็จแล้ว ดังนั้นอนุกรรมการฯ จึงมีมติว่ามีความผิดฐานจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยวิธีต้องห้ามตามกฎหมาย มาตรา 31 (1) และเนื่องจากมีการติดยี่ห้อชัดเจนจึงถือว่าผิดตามมาตรา 32 เรื่องการโฆษณาด้วย จากนี้จะส่งมติดังกล่าวไปยังคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พิจารณาต่อไป
+++ส่วนร้านแฟมิลี่มาร์ท ซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อของอีกบริษัทหนึ่ง ที่ประชุมพิจารณาเช่นเดียวกัน โดยให้รวบรวมข้อมูล หลักฐานเพิ่มเติม และให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องกลพิจารณาลักษณะการขายว่าเข้าข่ายใช้เครื่องจำหน่ายอัตโนมัติหรือไม่ หลังจากที่บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด ได้ทำหนังสือแจ้งยุติการจำหน่ายเบียร์สดในร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ทเช่นกัน
+++กรณี พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผกก.4 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุมนางสุภัตทา จันทรรังษี ประธานกรรมการ บริษัทฮัจยี กรุ๊ป จำกัด (ไทย) และนายโกสินธ์ หรือเบียร์ จินาอ่อน บก.นิตยสารท้องถิ่น หลังรับร้องเรียนมีขบวนการหลอกลวงบรรดาพ่อค้า นักธุรกิจชาวไทย ให้ร่วมลงทุนเมกะโปรเจกต์ สร้างสนามบินและสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ที่ประเทศเมียนมา พร้อมออกหมายจับนายกอว์ มิน อู หรือนายเทพโยธิน มหาทุน ผู้ต้องหาชาวเมียนมาที่อยู่ระหว่างหลบหนี แอบอ้างเป็นเชื้อสายเจ้ารัฐมอญ นอกจากนี้ยังพบข้อมูลขบวนการดังกล่าวแอบอ้างชื่อศูนย์ประสานงานบรรเทาภัยพลเมือง มูลนิธิอาสาบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สาขามีนบุรี มีเหยื่อหลายสิบรายทยอยเข้าแจ้งความเอาผิด
+++พ.ต.ต.สุริยาเปิดเผยว่า พบพฤติกรรมผู้ร่วมขบวนการข่มขู่ผู้เสียหายผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์กลุ่ม ระบุหากผู้เสียหายแจ้งความจะดำเนินการฟ้องร้องกลับ ขอชี้แจงกับผู้เสียหายทั้งหมดว่าไม่ต้องกลัวการฟ้องกลับ เนื่องจากดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษและมีหลักฐานชัดเจน ผู้เสียหายควรเข้าให้ข้อมูลและแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ ส่วนการตามจับกุมนายกอว์ มิน อู เตรียมประสานทางการเมียนมาให้จับกุม พร้อมแจกหมายจับผู้ต้องหารายนี้ให้ตำรวจทั่วประเทศแล้ว
+++ส่วนนางสุภัตทา ยังถูกทหารควบคุมตัวสอบสวนไว้ที่ มทบ.11 เนื่องจากพบพฤติกรรมเกี่ยวกับความมั่นคง เตรียมนำตัวนางสุภัตทามาส่งให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ในวันที่ 11 ต.ค. เวลา 14.00 น. เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม
+++ปิดท้ายกันที่สถานการณ์ไฟไหม้ เป็นบริเวณกว้างทางตอนเหนือของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯทางการท้องถิ่นได้ประกาศอพยพประชาชนบางส่วนไปพักยังพื้นที่ที่เตรียมไว้ จนถึงวันที่ 10ต.ค.มีผู้เสียชีวิต 11ศพ สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ประสานงานกับสมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคเหนือและชุมชนไทยในพื้นที่ใกล้เคียงทราบว่า มีคนไทยและคนไทยอเมริกันจำนวนหนึ่งได้รับผลกระทบต้องอพยพไปสู่ที่ปลอดภัย แต่ยังไม่ได้รับข้อมูลที่ชัดเจน
+++สถานกงสุลใหญ่ฯ จึงขอประกาศให้คนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวแจ้งสถานการณ์และความต้องการความช่วยเหลือได้ที่โทรศัพท์สายด่วน (Hotline) (123) 580-4222 และคนไทยในพื้นที่ที่สามารถให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ประสบเหตุได้ โดยเฉพาะที่พักอาศัยชั่วคราว ขอให้แจ้งความจำนงค์ได้ที่โทรศัพท์สายด่วนของสถานกงสุลใหญ่ฯ เช่นเดียวกัน สถานกงสุลใหญ่ฯ จะประสานงานความช่วยเหลือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชุมชนไทยในพื้นที่ต่อไป
แฟ้มภาพ