+++หลังจากที่นายคาร์ล ปุยเดอมองต์ ผู้นำแคว้นกาตาลุญญา เผชิญกระแสกดดันจากหลายฝ่ายรวมถึงรัฐบาลสเปน,เยอรมนี,ฝรั่งเศสและสหภาพยุโรป(อียู)เพื่อให้ล้มเลิกแผนประกาศเอกราช ล่าสุด สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปนว่าผู้นำแห่งแคว้นกาตาลุญญา ออกแถลงการณ์ต่อที่ประชุมรัฐสภาแห่งแคว้นกาตาลุญญา หลังประชาชนได้ออกมาลงคะแนนเสียงแสดงประชามติเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ต.ค. เพื่อต้องการให้แคว้นกาตาลุญญาประกาศเอกราชและแยกตัวออกมาจากประเทศสเปน ว่าขอน้อมรับอำนาจจากประชาชนชาวกาตาลันเพื่อให้แคว้นกาตาลุญญาเป็นสาธารณรัฐอิสระ แต่ขอให้รัฐสภาแห่งแคว้นกาตาลุญญา ระงับการประกาศเอกราชเอาไว้ก่อน เพื่อเริ่มต้นการเจรจาที่จะมีขึ้นในอีก 2-3สัปดาห์ที่จะถึงนี้
+++ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลสเปน ยอมรับการไกล่เกลี่ยในปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ต้องการที่จะคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดในกาตาลุญญา แต่การชุมนุมอย่างสงบยังสามารถดำเนินต่อไป หนทางข้างหน้าของกาตาลุญญาคือประชาธิปไตยและสันติภาพ แต่รัฐบาลสเปนกำลังแสดงท่าทีที่กร้าวร้าวในระหว่างการแสดงประชามติ และเรื่องของกาตาลุญญาเป็นเรื่องของทวีปยุโรปด้วย หลังเสร็จสิ้นการแถลงในที่ประชุมรัฐสภาแห่งแคว้นกาตาลุญญา ก็ได้รับเสียงปรบมืออย่างกึกก้องจากที่ประชุม
+++พล.ต.อิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าวหา สหรัฐฯว่าเสแสร้งสู้รบกับกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)และจงใจลดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในอิรัก เพื่อให้นักรบกลุ่มไอเอสเคลื่อนเข้าไปที่ซีเรีย สกัดการบุกของกองทัพซีเรียซึ่งได้รับการหนุนหลังจากรัสเซียในการยึดคืนพื้นที่คืนมาจากกลุ่มไอเอส นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ เขาตั้งคำถามว่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯและพันธมิตรควรจะชี้แจงในเรื่องนี้ว่าการเปลี่ยนแนวทางการสู้รบนี้มุ่งจะขัดขวางปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรติสของกองทัพซีเรียและรัสเซียหรือไม่ หรือเป็นเพียงยุทธการเพื่อขับไล่นักรบกลุ่มไอเอสออกจากอิรัก
+++สื่อเกาหลีใต้ รายงานว่า เกาหลีเหนือ เจาะระบบขโมยเอกสารลับสูงสุดทางทหารของเกาหลีใต้ เมื่อปีก่อน หนึ่งในนั้นมีรายละเอียดแผนกำจัดคณะผู้บริหารเกาหลีเหนือด้วย เว็บไซต์หนังสือพิมพ์โชซุน อิลโบ รายงานว่า แฮกเกอร์เกาหลีเหนือเจาะระบบของกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนปีก่อน นายรี โชล-ฮี ส.ส.เกาหลีใต้ ระบุว่า กลุ่มแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือได้โจมตีทางไซเบอร์ของกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ขโมยข้อมูลทางทหารจำนวน 235 กิกะไบต์ไปจากศูนย์ข้อมูลบูรณาการด้านกลาโหมของเกาหลีใต้ รวมถึงแผนการลอบสังหารนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ แผนปฏิบัติการร่วมทางทหารระหว่างกองทัพสหรัฐฯกับเกาหลีใต้กรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลี
+++นอกจากนั้นข้อมูลที่ถูกขโมยไป รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้งโรงไฟฟ้าสำคัญๆและที่ตั้งหน่วยทหารของเกาหลีใต้
+++ด้านรัฐบาลเกาหลีเหนือ ปฏิเสธข้อครหาดังกล่าวมาโดยตลอด กล่าวหารัฐบาลเกาหลีใต้ว่ากุเรื่องเท็จขึ้นเพื่อใส่ร้ายเกาหลีเหนือให้เสื่อมเสีย
+++สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอชซีอาร์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ป้องกันชายแดนของบังกลาเทศรายงานว่า ผู้อพยพมุสลิมโรฮิงญามากกว่า 11,000 คน ข้ามชายแดนจากเมียนมามายังบังกลาเทศ ซึ่งเป็นการเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากเกิดเหตุรุนแรงในรัฐยะไข่ของเมียนมา ถานการณ์ผู้อพยพทำให้ยูเอ็นเอชซีอาร์ต้องอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมขั้นสูงอีกครั้ง เนื่องจากผู้อพยพมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 11,000 คน และคาดว่าอาจจะมีผู้อพยพจำนวนมากข้ามชายแดนมายังบังกลาเทศอีก
+++โฆษกของยูเอ็นเอชซีอาร์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้ผู้อพยพกลับมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก
+++องค์การอนามัยโลก เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการให้วัคซีนเพื่อป้องกันอหิวาตกโรคแก้ผู้อพยพชาวโรฮิงญาที่เพิ่งเดินทางเข้ามายังบังกลาเทศและประชาชนในท้องถิ่นเพื่อป้องกันมิให้เกิดโรคระบาดขึ้น.
+++ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 1.34 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ ปิดที่ 56.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ซาอุดิอาระเบีย เปิดเผยว่า จะปรับลดการส่งออกในเดือนพฤศจิกายนลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7 เสริมความพยายามของโอเปกและชาติผู้ผลิตอื่นๆในการรักษาเสถียรภาพทางราคา
+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขยับขึ้น โดยดาวโจนส์ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล จากความคาดหมายทางในบวกของวอลมาร์ต ก่อนหน้าที่บริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆจะเผยแพร่รายงานผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3 ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 69.61 จุด ปิดที่ 22,830.68 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 5.91 จุด ปิดที่ 2,550.64 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 7.52 จุด ปิดที่ 6,587.25 จุด วอล-มาร์ต พุ่งขึ้นร้อยละ 4.5 หลังจากประมาณการว่ายอดขายประจำปีงบประมาณ 2019 จะเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 3 หรือมากกว่านั้น หลังขยับเข้าสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมากขึ้น
+++ขณะเดียวกันความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังแข็งแกร่งท่ามกลางความคาดหมายว่ารายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆจะออกมาแข็งแรง โดยฤดูกาลเผยแพร่ผลดำเนินงานจะเริ่มต้นในสัปดาห์นี้ เริ่มจากเจพีมอร์แกน เชส, เดลตา แอร์ไลนส์และอื่นๆ
+++ราคาทองคำ แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังดอลลาร์อ่อนค่าลงต่อเนื่อง ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 8.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,293.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
CR:BBC,Reuters