กองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (กอร.พระราชพิธี) แถลงถึงการเตรียมความพร้อม เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชน ที่จะเดินทางมางานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม เผยถึงความพร้อมทั้ง 3ด้าน ของกระทรวงคมนาคม ด้านแผนอำนวยความสะดวก มั่นคง และความปลอดภัย โดยจะดูแลการรับ-ส่งประชาชน ทุกระบบทั้งทางถนน ทางราง ทางรถไฟ ทางน้ำ และทางอากาศ
ทางถนน ได้จัดเตรียมรถ บขส. สายปกติ 25เส้นทาง เป็นรถโดยสารธรรมดา 404คัน (ให้บริการฟรี) รถปรับอากาศ 238คัน (เก็บค่าโดยสารปกติ) และเพิ่มรถ Shuttle Bus 21เส้นทาง จำนวน 490คัน ในจุดเดินรถใหญ่ๆ เช่นสนามบิน หรือจุดจอดรถต่างๆที่กำหนดไว้ เพื่อเดินรถในวันพระราชพิธี รับ-ส่ง 5จุด คือ แยกอรุณอัมรินทร์ สนามม้านางเลิ้ง แยกวิสุทธิกษัตริย์ บ้านมนังคศิลา และแยกเมอร์รี่คิงส์ โดยจะมีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ของพนักงานขับรถทุกคน ทุกเที่ยว ติดตั้งกล้องวงจรปิด และขอให้หลีกเลี่ยงการใช้รถบรรทุก เพื่อรองรับประชาชนที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ กรณีพื้นที่ชั้นในเต็ม จะเปลี่ยนเส้นทางเดินรถ Shuttle Bus ไปยังพระเมรุมาศจำลองรอบนอก ทั้ง 4จุด คือ สนามกีฬาธูปะเตมีย์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ไบเทคบางนา และพุทธมณฑล
ทางราง ในวันที่ 26ตุลาคม 2560 จะมีการเพิ่มตู้รถไฟชั้นสาม ขบวนพิเศษระยะสั้น(พระนครศรีอยุธยา, นครปฐม, ฉะเชิงเทรา) ขบวนพิเศษระยะยาว(เชียงใหม่, หนองคาย, อุบลราชธานี, อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา) โดยจะให้บริการประชาชนเที่ยวสุดท้าย เวลา01.30น. สำหรับระบบรถไฟฟ้าทั้งหมดจะเปิดให้บริการเวลา 05.30-02.00น. เพื่อป้องกันประชาชนตกค้างในพื้นที่
ทางน้ำ ทางเหนือจะมีเรือจากท่าน้ำนนท์ มายังท่าเรือปิ่นเกล้า และท่าเรือเทเวศน์ ทางใต้เดินทางจากท่าเรือสาทร มาที่ท่าเรือตลาดยอดพิมาน โดยได้รับความร่วมมือจากกลุ่มเรือร้านอาหารจะมีการเสริมเรือ ซึ่งเป็นเรือขนาดใหญ่รองรับประชาชนได้จำนวน 400-500คน โดยมีกรมเจ้าท่าเข้ามาดูแลเรื่องความปลอดภัย หากในพื้นที่สนามหลวงหนาแน่น จะหยุดเดินเรือทันที หรือไปส่งประชาชนในจุดวางดอกไม้จันทน์ที่ใกล้ที่สุด ทิศเหนือส่งที่ท่าเรือเกียกกาย และท่าเรือเทเวศร์ ทิศใต้ส่งที่ท่าเรือยอดพิมาน หรือท่าเรือสะพานพุทธ โดยเรือทั้งหมดจะให้บริการถึง 19.00น. เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ทางอากาศ มีการประสานงานทั้ง 2สนามบิน คือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งจะมีการเสริมเที่ยวบินเพื่อรองรับประชาชนที่เดินทางวันที่ 26ตุลาคม ที่สนามบินดอนเมืองรองรับประชาชน 66,123คน 351 เที่ยวบิน สำหรับที่สนามบินสุวรรณภูมิรองรับประชาชน 108,238คน 472 เที่ยวบิน โดยจะมีการเตรียมที่จอดรถ แนะนำการเดินทางที่ท่าอากาศยานต้นทาง รวมทั้งจัดตั๋วเที่ยวบินราคาพิเศษ นอกจากนี้จะห้ามใช้ Drone ในรัศมี 19กม. และห้ามอากาศยานบินผ่านบริเวณพระราชพิธี เว้นแต่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
ส่วนแผนเผชิญเหตุวิกฤติ ได้มีการเตรียมพร้อมในทุกระบบการขนส่ง ในทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม โดยมีการเร่งยกระดับความปลอดภัยในระดับสูง
สำหรับตอนนี้ทั้ง 3แผนของกระทรวงคมนาคม ถือว่าเตรียมพร้อมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขั้นตอนต่อไปจะทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ จะมีการประชาสัมพันธ์ คือ 1.ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ตามสถานีและจุดเชื่อมต่อ รวมทั้งบนรถโดยสารสาธารณะ 2.ทำป้ายประชาสัมพันธ์ขนาดใหญ่ ติดตั้งตามแยกสำคัญ 33จุด สำหรับเป็นป้ายบอกทางให้กับประชาชน 3.จัดทำแผ่นพับการเดินทางร่วมงานพระราชพิธี 4. Infographic แนะนำการเดินทาง และช่องทางออนไลน์ www.mot.go.th หรือสายด่วนกระทรวงคมนาคม 1356
ผสข. วริศรา ชาญบัณฑิตนันท์