หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการรับมือสถานการณ์น้ำ ที่พบว่าหลายเขื่อนพื้นที่ภาคกลางน้ำเริ่มเต็ม อีกทั้งมีการคาดการณ์กันว่าสัปดาห์นี้ถึงสัปดาห์หน้าจะมีพายุพาดผ่านภาคเหนือ-ภาคอิสาน ประมาณ 2 ลูก ว่า เรื่องนี้ส่วนตัวมีความกังวลมาโดยตลอด เนื่องจากประเทศไทยเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ และน้ำไหลสะสมจากภาคเหนือลงพื้นที่ต่ำ ดังนั้นจึงต้องแยกการบริหารจัดการน้ำเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงทั่วประเทศ และบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา ส่วนสถานการณ์พายุ ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งรัฐบาลได้สั่งการให้เผยแพร่ตัววิ่งตามสถานีโทรทัศน์เพื่อให้ประชาชนรับทราบแล้ว
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า หากสามารถบริหารจัดการน้ำจากเหนือลงทะเลได้ จะลดเรื่องความเสียหายไปได้มาก แต่ยังติดปัญหาเรื่องพื้นที่นอกคันกั้นน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งประชาชนก็ต้องเตรียมตัวเรื่องอยู่กับธรรมชาติด้วย
ส่วนที่ภาคเอกชน ร้องขอให้รัฐบาล ออกมาตรฐานกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี นายกรัฐมนตรีระบุว่า ทางรัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่องดังกล่าวอยู่ ซึ่งปัจจุบันทางรัฐบาลได้มีการขับเคลื่อนเรื่องการใช้จ่ายภาครัฐถึงร้อยละ 90 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย
ขณะที่การดำเนินการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย - จีน ได้มีการหารือและร่วมมือกันมาโดยตลอด ซึ่งในส่วนกระบวนการอบรมได้เดินหน้าไปแล้วในส่วนวิศวะกรไทย - จีน และในส่วนการเตรียมพื้นที่จุดแรกที่จะมีการก่อสร้าง เพื่อเป็นจุดเริ่มต้น ยังมีการต้องพูดคุยกับสถานประกอบการซึ่งเป็นสถานประกอบการปูนซีเมนต์ 3 แห่ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในช่วงไม่เกินเดือน พ.ย. นี้
ส่วนเรื่องการนำเข้าเนื้อหมูจากประเทศสหรัฐอเมริกา นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า เป็นเรื่องของคณะกรรมการร่วมไทย-สหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการตกลงเรื่องการนำเข้าแต่อย่างใด อีกทั้ง นายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ก็ไม่ได้พูดคุยโดยตรง ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นการหารือระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของทั้ง 2 ฝ่าย โดยตนเองได้สั่งการให้หารือร่วมกัน ซึ่งต้องหารือถึงกฎหมายระหว่างประเทศถึงเรื่องนี้ เพราะกฎหมายของไทย และสหรัฐบางเรื่องไม่ตรงกัน
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการดูและประชาชนระดับฐานราก โดยยืนยันรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ พร้อมขอบคุณทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ช่วยกันดูแลและอำนวยความสะดวกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แม้จะเป็นเงินจำนวนไม่มาก แต่สามารถแบ่งเบาภาระประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่เคยทำมาก่อน พร้อมยืนยันรัฐบาลดูแลทุกเรื่อง ทั้ง ผู้สูงวัย และผู้มีรายได้น้อย สำหรับที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการเน้นย้ำเรื่องการจัดทำแผนงานโครงการต่างๆของทุกหน่วยงาน และ ทุกกระทรวง โดยให้เกิดการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ พร้อมสั่งการให้จัดหาบุคลากรที่มีคุณภาพเข้ามาปฏิบัติงาน
ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ออกมาโพสต์ทวิตเตอร์ ว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องข้อความจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมในการพิจารณาว่าผิดหรือไม่ผิดอย่างไร เพราะตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้