รองนายกรัฐมนตรี ย้ำการทำความเข้าใจประชาชนเรื่องการรักษาความปลอดภัยระหว่างงานพระราชพิธีฯ

09 ตุลาคม 2560, 13:09น.


หลังการประชุมภาพรวมกองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (กอร.พระราชพิธีฯ) พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ในการประชุมวันนี้ ได้ย้ำให้ตัวแทนที่มาประชุมทำความเข้าใจในหน่วยงานของตนเอง และให้มีการเตรียมความพร้อมดูแลความปลอดภัยให้ดีที่สุด ร่วมด้วยการสร้างความเข้าใจกับประชาชน เพื่อให้การเดินทางมีความสะดวก ทั้งทางบกและทางน้ำ 


ส่วนการจัดการซักซ้อมย่อยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ นั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า ต้องมีการปิดพื้นที่ ซึ่งผลการซ้อมย่อยที่ผ่านมา รู้สึกพอใจ ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ก็จะมีการซักซ้อมอีก 3-4 ครั้ง และประชาชนสามารถเข้าร่วมรับชมได้ 


นอกจากนี้ พลเอกประวิตร ยังกล่าวถึงการเฝ้าระวังเหตุที่อาจมีกลุ่มต่างๆ เข้ามาก่อความไม่สงบ ว่าไม่ขอพูดถึง เพราะสามารถดูแลจัดการได้เรียบร้อยแล้ว


ส่วนประเด็นทางการเมือง พลเอกประวิตร กล่าวถึงการปลดล็อคพรรคการเมือง ว่าแม้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง จะประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2560 แต่ยืนยันว่า ไม่มีการปลดล็อกพรรคการเมือง หรือให้ทำกิจกรรมทางการเมืองได้ เพราะยังมีกฎหมายประกอบอีกหลายฉบับที่ยังร่างไม่เสร็จสิ้น จึงยังไม่สามารถให้ทำกิจกรรมได้ อีกทั้งยังมีเวลาเหลืออีกปีกว่า ส่วนจะปลดล็อกในวันประกาศวันเลือกตั้งหรือไม่ ยังไม่ทราบ และไม่รู้ว่าจะเลือกตั้งเมื่อไหร่


สำหรับความคืบหน้าการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 4 ฉบับ เพื่อให้เกิดการเลือกตั้ง ขณะนี้ มีร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศใช้แล้ว ยังคงเหลืออีก 2 ฉบับคือ ร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งคาดว่า จะสามารถนำส่งฉบับร่างให้กับสมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.)  ได้ในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ ส่วนร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. คาดว่าจะนำส่งให้สนช. ได้ในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้


และกรณีที่องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ไอเคโอปลดธงแดงประเทศไทย ออกจากรายชื่อประเทศที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยการบินพลเรือน หลังติดธงแดง กว่า 2 ปี พลเอกประวิตรกล่าวว่า เป็นผลงานจากการปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ของข้าราชการและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่จะถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของรัฐบาลนี้หรือไม่นั้นไม่ทราบ พร้อมยืนยัน ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีนายกรัฐมนตรี พบประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นเดือน 



ส่วนกรณีทางอเมริกาหวังให้ไทยร่วมกดดันเกาหลีเหนือนั้น ไทยปฏิบัติตามมติสหประชาชาติอยู่แล้ว ทั้งมีจุดยืนชัดเจนว่า จะเป็นมิตรกับทุกประเทศ 


และกรณีผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา จะเข้าพบในวันที่ 11 ตุลาคมนี้ พลเอกประวิตร คาดว่าจะไม่มีการหารือประเด็นชาวโรฮิงญาเพราะเป็นเรื่องภายในประเทศของเมียนมา


 


 



..


ผสข.ปภาดา พูลสุข 
ข่าวทั้งหมด

X