รองผบช.น.เร่งจับแก๊งปล้นเงิน60ล้านอีก 1 และเตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก2-3คน

การติดตามกลุ่มคนร้ายก่อเหตุปล้นเงิน 196 ล้านเยนหรือประมาณ 60 ล้านบาท ไปจากลูกน้องของนายภัทริศ หรือโตโต้ แต้รัตนชัย อายุ 34 ปี นักธุรกิจซื้อและขายทองคำแท่งและส่งออกเพชร ไปประเทศญี่ปุ่น พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยกับจส.100 ว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐาน ทำให้เจ้าหน้าที่ออกหมายจับคนร้ายทั้งหมด 7 คน เพียงสองวันเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวคนร้ายได้ 5 คน และเมื่อวานนี้ตอนบ่ายนายศรายุทธ หรือไก่ ฤทธิชัยนุวัฒน์ อายุ 31 ปี ประสานขอเข้ามอบตัวเนื่องจากชุดสืบสวนเข้าไปติดตามกดดัน  และในวันนี้ได้นำผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ไปขออำนาจศาลอาญา รัชดา ฝากขังผัดแรก ค้านการประกันตัว

ส่วนคนร้ายคนที่ 7 ที่ถูกออกหมายจับและยังหลบหนี คือนายนัฐพงศ์ หรือต้น ธันญะตุ่น อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่กำลังติดตามอยู่ ซึ่งนายนัฐพงศ์ เป็นคู่เขยกับคนร้ายที่จับได้แล้วคือ นายณรงค์ชัย หรือจั๊ว สวัสดิผล อายุ 32 ปี จากการสอบปากคำคนร้ายที่ถูกควบคุมตัวและการชี้จุดเกิดเหตุทำให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์  ระบุว่า นายนัฐพงศ์ ร้อนเงิน อาจมีปัญหาหนี้สินจึงรวมกันวางแผนปล้นเงิน และคาดว่าจะออกหมายจับเพิ่มอีก2-3วัน กำลังรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ จากเหตุการณ์นี้ เท่าที่ดูพฤติการณ์คนร้ายก่อเหตุครั้งแรก คนละกลุ่มกับเหตุที่บางรัก แต่ลักษณะคล้ายกันคือคนในเป็นคนก่อเหตุ

ทั้งนี้ คนร้ายที่ถูกควบคุมตัวและขออำนาจศาลฝากขังแล้ว ประกอบด้วย นายณรงค์ชัย นายชวลิต หรือริด เจริญผล อายุ 31 ปี นายพงษ์ศักดิ์ หรือคริส ปิตศิริพันธ์ อายุ 31 ปี นายกฤษดา หรือแวน อัตถาเวช อายุ 30 ปี นายสุรศักดิ์ หรือกิ๊ก ศรีฑะวงศ์ อายุ 35 ปี และนายศรายุทธ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาปล้นทรัพย์ โดยมีและใช้อาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรหรือร่วมกันรับของโจร นำตัว ส่งพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แฟ้มภาพ