โฆษกท่าอากาศยานนานาชาติแม็คคาแรน แถลงความคืบหน้าการสืบสวนกรณีคนร้ายสาดกระสุนจากโรงแรมระฟ้าในนครลาสเวกัสใส่ฝูงชนที่กำลังชมคอนเสิร์ตเมื่อวันที่ 1 ต.ค. จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 58 คน ว่า 1 ในกระสุน 2 นัดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุได้เจาะถังเก็บเชื้อเพลิงเครื่องบินขนาดใหญ่ใกล้ท่าอากาศยาน โชคดี ไม่เกิดการระเบิดหรือเพลิงลุกไหม้ เนื่องจากตำแหน่งของถังเชื้อเพลิงอยู่ห่างจากคอนเสิร์ตกลางแจ้งราว 335 เมตร และหน้าต่างโรงแรมแมนดาเลย์ เบย์ ชั้นที่ 32 ชั้นก่อเหตุ ราว 2,000 ฟุต บ่งบอกให้เห็นเจตนาของคนร้ายที่ตั้งใจพุ่งเป้าไปที่ถังเก็บเชื้อเพลิงปริมาณ 43,000 บาร์เรล
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่การท่าอากาศยาน ปฏิเสธที่จะยืนยันว่า คนร้ายมีเจตนายิงถังเก็บเชื้อเพลิงเครื่องบิน เพราะเชื้อเพลิงดังกล่าวไม่ใช่ของเหลวที่ระเบิดได้ง่ายโดยการใช้ปืนยิง ซึ่งความเห็นดังกล่าว ก็สอดคล้องกับที่ปรึกษาการบินในรัฐโคโลราโด ทั้งนี้ สหรัฐฯ เผชิญเหตุนองเลือดครั้งใหญ่ เมื่อคนร้ายวัย 64 ปี เปิดฉากกราดยิงผู้คนจากโรงแรมในนครลาสเวกัสเข้าใส่ฝูงชนที่กำลังชมคอนเสิร์ตเพลงคันทรี จนกลายเป็นโศกนาฏกรรมสังหารหมู่ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของสหรัฐฯ และปลุกกระแสเรียกร้องกฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดขึ้นอีกครั้ง
ตำรวจกำลังเร่งหาเบาะแสและแรงจูงใจในการก่อเหตุของคนร้าย ซึ่งไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมและอาการทางจิต ขณะที่เจ้าหน้าที่พบปืนทั้งสิ้น 47 กระบอก กระสุนอีกหลายพันนัด จากการตรวจค้นสถานที่ 3 แห่ง ได้แก่ ห้องพักในโรงแรม บ้านของคนร้าย ทั้งที่เมืองเมสคีต และเมืองรีโน มลรัฐเนวาดา เฉพาะที่โรงแรมพบมากถึง 23 กระบอก และมีอยู่ 12 กระบอกที่ติดตั้งอุปกรณ์ “บัมพ์สต็อก” ซึ่งช่วยในการยิงรัวต่อเนื่องได้เหมือนปืนกล โดยอุปกรณ์ตัวนี้ยังหาซื้อได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วย
ทีมต่างประเทศ
CR:Reuters