การจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุปล้นเงินสกุลเงินเยน196 ล้านเยน คิดเป็นเงินไทย 60ล้านบาท ของนายภัทริศ แต้รัตนชัย อายุ 34 ปี นักธุรกิจจิวเวอร์รี่ เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ช่วงบ่ายนี้ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง5คนที่ตำรวจจับกุมได้เมื่อคืนนี้ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง5คนปิดบังใบหน้ามิดชิด เข้ามาก่อเหตุปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกายกลุ่มผู้เสียหายที่บริเวณคอนโดรัชดาพาวิเลี่ยน จากการก่อเหตุของคนร้ายได้เงินสดสกุลเงินเยนไปจำนวน 196 ล้านเยน ก่อนจะใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ดสีส้ม ทะเบียน ส5179 กรุงเทพมหานคร ของนายภัทริศ ขับหลบหนีไปด้วย ซึ่งการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนข้อมูลแผนประทุษร้าย ทำให้เชื่อว่าเป็นบุคคลใกล้ชิด เพราะทราบเส้นทางการเงินเป็นอย่างดี จึงได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญา รัชดา ออกหมายจับผู้ต้องหา 7 คน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้ 5 คน คือ นายณรงค์ชัย สวัสดิผล ,นายชวลิต เจริญผล ,นายสุรศักดิ์ ศรีฑะวงศ์,นายพงษ์ศักดิ์ ปิตศิริพันธ์ ,นายกฤษดา อัตถาเวช ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน ที่ยังหลบหนีคือ นายไก่ (ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล) และนายณัฐพงษ์ อยู่ต้น พี่เขยของนายณรงค์ชัย
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การว่ามีการขนเงินให้กับนายภัทริศในจำนวนดังกล่าวมาหลายครั้งแล้ว ยอมรับว่า นายภัทริศเป็นคนดี แต่ตัวผู้ต้องหามีปัญหาเรื่องเงิน จึงร่วมมือกันวางแผนและก่อเหตุดังกล่าวขึ้น หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของคนร้าย รวมถึงของผู้เสียหายด้วยว่าเงินดังกล่าวเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาหรือไม่ เบื้องต้นจะมีการแจ้งข้อหาปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน ,ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง,ร่วมกันพาอาวุธไปในเมืองฯ,ร่วมกันรับของโจร
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุได้เรียกประชุมทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง โดยได้กำหนดกรอบเวลา7วัน แต่ฝ่ายสืบสวนสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุภายใน 2 วัน ถือว่าประสบความสำเร็จในการติดตามคนร้ายและจะมีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุในวันพรุ่งนี้เวลา10.00น. ซึ่งในการแถลงข่าวในวันนี้ เจ้าหน้าที่ไม่ได้นำผู้ต้องหาทั้ง5คนมาแถลงข่าวด้วย แต่ได้นำเงินของกลางที่คนร้ายปล้นไปมาแสดงด้วย พร้อมทั้งรถกระบะคันเกิดเหตุ
ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้นนายภัทริศ ได้เดินทางมามอบดอกไม้ ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอบคุณที่สามารถจับคนร้ายและติดตามทรัพย์สินของตัวเองกลับมาได้ แต่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่าหลังจากนี้พนักงานสอบสวนอาจขอหมายจับคนร้ายเพิ่มเติมอีก เพราะแนวทางสืบสวนเชื่อว่ายังมีผู้ร่วมก่อเหตุกว่า 10 คน ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุครั้งนี้ เกิดจากนายณัฐพงษ์ พี่เขยของนายณรงค์ชัย มีปัญหาเดือดร้อนเรื่องเงิน จึงเริ่มวางแผนกันปล้นเงินโดยมีการพูดคุยกันนับ 10 ครั้ง
ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ