รักษาการอธิบดีกรมชลประทาน เร่งระบายน้ำ รับมือน้ำท่วม/รอผลปลดธงแดง/ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้ลี้ภัยการเมืองอังกฤษ/กสทช.ครบวาระ

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30  น.

+++การรองรับปริมาณน้ำ นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ยังมีฝนตกหนักต่อเนื่อง 2-3 วัน โดยจะมีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เข้ามาปะทะกันแนวภาคเหนือตอนล่าง จ.กำแพงเพชร พิจิตร จ.นครราชสีมา มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ทำให้มีปริมาณฝนตกมากกว่า100 มม. เช่นที่จ.กำแพงเพชร ได้แจ้งประสานผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานในพื้นที่เฝ้าสถานการณ์เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน ตามคาดการณ์อีก 1 สัปดาห์ ปริมาณน้ำเหนือจากแม่น้ำปิง แม่น้ำยม แม่น้ำน่าน ไหลเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยา คาดว่าระดับสูงสุด ที่จ. นครสวรรค์ 2.2 พันลบ.ม.ต่อวินาที จากตอนนี้อยู่ที่ 1.9 พันลบ.ม.ต่อวินาที  โดยในวันจันทร์ ที่ 9 ต.ค.นี้ จะลงพื้นที่เขื่อนเจ้าพระยา เพื่อดูสถานการณ์ปริมาณน้ำหลากมากขึ้น 300-400 ลบ.ม.ต่อวินาที มาสู่ลุ่มเจ้าพระยาตอนข้างล่าง โดยจะควบคุมการระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ไม่ให้เกิน 1.5 พันลบ.ม.ต่อวินาที ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 1.4 พันลบ.ม.ต่อวินาที หากระบายเพิ่มจะท่วมพื้นที่เดิม 14 จุด เช่นพื้นที่นอกคัน จ.พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี จากที่ระดับระบายสูงสุดไม่เกิน 2.8 พันลบ.ม. โดยใช้การบริหารน้ำเข้าคลองซ้าย-ขวาสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ผันเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำแก้มลิง 12 ทุ่งมีพื้นที่หลังเก็บเกี่ยว 1.15 ล้านไร่ ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี นำน้ำเข้าประมาณ 800-900 ล้านลบ.ม. จากที่เต็มศักยภาพ 1.5 พันล้านลบ.ม. เพื่อมีช่องว่างไว้รับน้ำฝนได้อีก ซึ่งยังไม่สิ้นสุดฤดูฝน ให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวังลุ่มเจ้าพระยา ตั้งแต่นครสวรรค์ ลงมากรุงเทพ ยืนยันว่าน้ำเหนือไม่ล้นแม่เจ้าพระยา เข้ากระทบพื้นที่กทม. ซึ่งปริมาณน้ำมาถึงอีก 1 สัปดาห์ ขณะนี้ ได้บริหารน้ำออกก่อนเข้าปริมณฑล เช่น ผันน้ำเข้าทุ่งแก้มลิง ระบายน้ำออกอ่าวไทย แนวตะวันออกของกรุงเทพ ใช้ระบบชลประทานลงแนวคลองชายทะเล จ.สมุทรปราการ และระบายผ่านแม่น้ำท่าจีน สำหรับพื้นที่ภาคใต้ จะเรียกประชุมทุกหน่วยงานวันที่ 14 ต.ค. เตรียมมาตรการรองรับ แนวร่องฝนเลื่อนลงประมาณปลายเดือนต.ค. ย้ายเครื่องมือ เครื่องสูบน้ำจากภาคอีสาน ภาคเหนือ ไว้ลงภาคใต้ก่อน

+++ลุ้นกันต่อไป พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงความคืบหน้าการแก้ปัญหาการบินพลเรือนว่าตัวแทนองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้ส่งคณะกรรมมาตรวจสอบการแก้ปัญหาของไทย เมื่อ 20-27 ก.ย.ซึ่งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนของไทย ชี้แจงความคืบหน้าการออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่(AIC)ว่า มีสายการบินที่ผ่านการรับรองจำนวน 10 สายการบิน ตรวจสอบสถานีหลักและการตรวจสอบภาคอากาศ เสร็จแล้ว 5 สายการบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน 6 สายการบิน การแก้ปัญหาทั้งหมดยังทำอยู่อย่างต่อเนื่องตามขั้นตอน เพื่อเตรียมความพร้อมในการยื่นขอปลดธงแดงของไทย  ส่วนผลการตรวจสอบการแก้ไขข้อบกพร่องที่เป็นนัยสำคัญต่อความปลอดภัยทางด้านการบินพลเรือนของประเทศไทย อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการของไอเคโอ ที่จะแจ้งผลภายในเวลา 30 วัน คาดว่าจะทราบผลภายในเดือนต.ค.นี้ ว่าไทยจะได้รับการปลดธงแดงหรือผ่านมาตรฐานการบินของICAO หรือไม่

+++การติดตามตัว อดีตนายก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ว่า ขณะนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้รับการชี้แจงจาก พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผบก.น.5 ไปแล้ว และอยู่ระหว่างรอผลตรวจดีเอ็นเอของผู้หญิงภายในรถยนต์คันที่พาน.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนี เพื่อเทียบเคียงกับของใช้ส่วนตัวในบ้านพักซึ่งหากผลตรวจตรงกัน ก็จะดำเนินคดีทางอาญา แต่หากไม่ตรงจะต้องดำเนินคดีทางวินัย ส่วนจะมีนายตำรวจระดับสูงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ยังไม่มีข้อมูลดังกล่าว แต่มอบหมายให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.)สืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่อยู่แล้ว

+++การประสานงานกับต่างประเทศในการช่วยติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ส่งเรื่องให้ตำรวจสากลออกหมายน้ำเงินในการติดตามตัวอยู่แต่จะสามารถขอให้ออกหมายแดงได้หรือไม่ ต้องตรวจสอบแหล่งที่พักอาศัยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้ชัดเจนเสียก่อน ส่วนกระแสข่าวลือว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีอยู่ในประเทศอังกฤษ หากพบว่า เป็นความจริง ทางการไทยก็จะสามารถขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนตามสนธิสัญญาที่ไทยมีอยู่ได้  พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับการประสานจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เข้าไปในนครดูไบ และเดินทางออกมาตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน โดยเดินทางไปยังสหราชอาณาจักร ซึ่งขณะนี้ได้ประสานไปยังสหราชอาณาจักรแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำตอบอย่างเป็นทางการว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ที่นั่นหรือไม่ ตอนนี้จึงยังรอข้อมูลที่ชัดเจนจากอังกฤษ แต่ก็ได้เร่งรัดให้ดำเนินการออกหมายแดงให้ได้เพื่อจับกุม เพราะถือว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้ต้องหาที่ศาลออกหมายจับแล้ว และเชื่อว่าอันนี้เป็นการผิดคดีอาญาทุจริตต่อหน้าที่ ไม่ใช่คดีการเมือง ก็น่าจะเข้าเงื่อนไขในการออกหมายแดงได้ ส่วนจะใช้เวลาเท่าไหร่ ไม่สามารถตอบได้เป็นเรื่องของตำรวจสากล  ส่วน ผลดีเอ็นเอ คงทราบผลวันที่ 7 ตุลาคมนี้

+++แหล่งข่าวจากหน่วยข่าวด้านความมั่นคง เปิดเผยว่าขณะนี้ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ได้ทำเรื่องขอลี้ภัยที่ประเทศอังกฤษ ไม่เหมือนนายทักษิณที่ขอสัญชาติมอนเตเนโกร ไม่ได้เป็นสถานะผู้ลี้ภัย เพราะจะเป็นอุปสรรคในการติดต่อทำธุรกิจระหว่างประเทศ ทั้งนี้ แม้ประเทศใหญ่ๆ เช่น อังกฤษ จะมีขั้นตอนพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ก่อนจะให้ใครลี้ภัยทางการเมือง และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกลงโทษคดีอาญา แต่คาดว่าไม่ได้เป็นปัญหาและด้วยคอนเน็กชั่นทางธุรกิจของนายทักษิณในการที่จะทำให้เรื่องของ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นการเมือง เพราะนายทักษิณ ได้รับโทษจากคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช่นเดียวกัน ก็สามารถไปชี้แจงจนเชื่อได้ว่าถูกกลั่นแกล้งจากการรัฐประหาร ปี 2549 มีการประเมินสถานการณ์อันใกล้นี้ว่า อาจใช้เรื่องการลี้ภัยเพื่อแสดงบทบาททางการเมืองได้ด้วย สิ่งที่ทำได้ก็คือ รัฐบาลพลัดถิ่น เช่นเดียวกับแกนนำพรรคเพื่อไทยหลายคน บางคนยังมีความผิดมาตรา 112 ด้วยต่างดำเนินการอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา และยุโรป

+++ด้านรายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้สถานะเป็นผู้ลี้ภัยการเมืองในประเทศอังกฤษ จากเหตุผลที่ประเทศไทยยังถูกปกครองด้วยรัฐบาลทหาร และมีการกวาดล้างฝ่ายตรงข้ามที่มาจากการเลือกตั้งมาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทล็อบบี้ยิตส์ของ นายทักษิณ เป็นผู้เดินเรื่องต่างๆ ดำเนินการยื่นคำร้องต่อหน่วยงานของประเทศอังกฤษ ก่อนที่จะมีคำพิพากษาคดีจำนำข้าวจากศาลสูงสุดสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

+++นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2560 มีการประชุมคณะกรรมการกสทช. (บอร์ด) ชุดที่มี พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี เป็นประธานกสทช. ครั้งสุดท้าย และวันนี้ 5 ตุลาคม ประธานกสทช.จะครบวาระเกษียณ อายุครบ 70 ปี ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งในวันที่ 5 ตุลาคม ส่วนวันที่ 6 ตุลาคม กรรมการ กสทช.ทั้งชุดครบวาระดำรงตำแหน่ง 6 ปี แต่สามารถทำงานตามที่จำเป็นไปพลางก่อน จนกว่า กรรมการกสทช.ที่ได้รับแต่งตั้ง ตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมพ.ศ. 2560 (พ.ร.บ.กสทช.ฉบับใหม่) มารับตำแหน่ง ส่วนการยกร่างเพื่อประมูลคลื่น ทั้ง 900 MHzและ 1800 MHz จะเป็นการทำล่วงหน้าไปก่อนระหว่างรอกรรมการกสทช.ชุดใหม่ เข้ามารับรองและประมูลต่อไป สำหรับคณะกรรมการ สรรหาบอร์ดกสทช.ชุดใหม่ น่าจะประกาศได้ในเดือนพฤศจิกายน 2560 นี้ พร้อมคาดว่าจะได้ตัวกรรมการกสทช.ประมาณต้นปี 2561

+++พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ร้องทุกข์ที่กองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกลุ่มบริษัทและห้างร้านที่มีพฤติการณ์เกี่ยวพันกับคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ 29 แห่ง ในความผิดตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 และ พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 ซึ่งกระทบต่อนักท่องเที่ยว ระบบเศรษฐกิจ และความมั่นคง พนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาไปแล้ว ต่อมาศาลอาญา มีคำพิพากษายกฟ้องคดี ขณะนี้ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายละเอียดต่างๆ ในสำนวนคดีเพิ่มเติม จึงมีการพิจารณาเข้าร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีบริษัทห้างร้านที่ร่วมกระทำผิดเพิ่มเติมดังกล่าว

+++น.ส.กชพรรณ บุญทอง อายุ 42 ปี อาชีพหมอนวดแพทย์แผนไทย ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.อุทัยธานี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ถึงกรณีที่ลูกชายด.ช.ชนันชิศ บุญทอง หรือ น้องเอิร์ธ อายุ 14 ปี บาดเจ็บสาหัส หลังถูกเพื่อนและรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกันรวม 3 คน แกล้งปิดประตูใส่กุญแจขังไว้ในช่องเก็บของอาคารเรือนนอน แล้วฉีดยาฆ่าแมลงเข้าไปจนไม่มีอากาศหายใจ จากนั้นได้จุดไฟแช็คจนทำให้เกิดประกายไฟลุกท่วมภายในช่องเก็บของดังกล่าว ก่อนจะเผาไหม้ร่างกายของ ด.ช.ชนันชิศ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งในวันนี้ นางปวีณาจะเดินทางมาเยี่ยมน้องที่บาดเจ็บ พร้อมกับนายธีร์ ภวังคนันนท์ เลขาธิการคณะกรรมการสำนักงานพื้นที่การศึกษาหรือคุ้มครองนักเรียน ที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทางโรงเรียน