ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.
+++การอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นางเสาวรีย์ อัมภสุวรรณ์ ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร กล่าวว่า สำหรับประชาชนที่ต้องการเดินทางมาบริเวณท้องสนามหลวงในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จะต้องผ่านจุดคัดกรอง 9 จุด ประกอบด้วย บริเวณแยกสะพานมอญ ท่าช้าง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แม่พระธรณีบีบมวยผม ถนนกัลยาณไมตรี แยกสะพานช้างโรงสี แยกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ท่าพระจันทร์ ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า โดยจะต้องเตรียมบัตรประจำตัว ประชาชน และนำสิ่งของมาเท่าที่จำเป็นเท่านั้นโดยจุดที่ประชาชนสามารถรอชมริ้วขบวน ได้คือบนฟุตบาทฝั่งตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง บริเวณถนนมหาราช ถนนสนามไชย และบริเวณศาลหลักเมือง พร้อมถ่ายภาพจากโทรศัพท์มือถือตามความเหมาะสม และอยู่ในความสำรวมในช่วงพระราชพิธี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะเริ่มนำประชาชนในพื้นที่ท้องสนามหลวงออก ในวันที่ 24 ตุลาคม และเปิดจุดคัดกรองให้ประชาชนเข้ามา ในเวลา 05.00 น. ของวันที่ 25 ตุลาคม
+++ขณะที่สถานบันเทิงร้านอาหาร ในวันที่ 25-29 ตุลาคม ขอความร่วมมืองดงานรื่นเริง และปฏิบัติเหมือนกับในช่วงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 สวรรคต ทั้งนี้ ตามที่สำนักพระราชวังได้ประกาศ ให้วันที่ 5 ตุลาคม เป็นวันสุดท้ายของการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพในเวลา 24.00 น. เจ้าหน้าที่จะปิดพื้นที่การต่อแถว ในเวลา 24.00 น. ซึ่งประชาชนที่ยังต่อแถวรอกราบถวายบังคมพระบรมศพ ภายในเวลา 24.00 น. จะยังสามารถเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพได้ จนกว่าจะสิ้นสุดกลุ่มสุดท้าย ที่มารอเข้าแถว ก่อนเจ้าหน้าที่จะปิดทางเข้า
+++ในช่วงค่ำ เวลา 21.55 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางถึงประเทศไทย หลังเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการ จับตานายกฯ จะแถลงผลสำเร็จของการเยือนสหรัฐ ภารกิจของพล.อ.ประยุทธ์ ได้หารือกีบภาคเอกชนไทย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงภาพรวมการหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐว่า การหารือเป็นไปด้วยความราบรื่น ด้วยความเป็นมิตรที่ดีต่อกัน และยินดีสนับสนุนการดำเนินงานของภาคเอกชนทั้งสองประเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการค้าและการลงทุน และจัดตั้งศูนย์ข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางและทิศทางการค้าการลงทุนเป็นเอกภาพ
+++หลังการหารือนายกลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า ว่า เอสซีจีเตรียมลงนามซื้อถ่านหินจากภาคเอกชนสหรัฐ 2 ฉบับ รวม 155,000 ตัน เพื่อใช้ในการผลิตปูนซีเมนต์และทดแทนการซื้อถ่านหินจากอินโดนีเซีย ที่ปัจจุบันอินโดนีเซียมีความต้องการใช้ถ่านหินสูงขึ้น เอสซีจีจึงต้องมองหาแหล่งถ่านหินใหม่ ซึ่งถ่านหินจากสหรัฐมีคุณภาพดีและคุ้มค่าต่อการลงทุน
+++นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในเรื่องวงเงินสวัสดิการในบัตร ผู้มีรายได้น้อย ขณะนี้คงยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะเพิ่งเริ่มใช้บัตรได้ไม่กี่วัน ขณะที่ในส่วนของ กทม.ยังไม่ได้เริ่มรับบัตร โดยจะเริ่มรับบัตรในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ซึ่งวงเงินใช้สำหรับสวัสดิการต่างๆ เป็นการคำนวณมาจากวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรมา ดังนั้นในปีงบ 2561 คงยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงใดๆ เพราะจะกระทบต่องบประมาณ วงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่ใช่แค่ 200 บาทต่อเดือน บางรายได้รับ 300 บาทต่อเดือน หากมีรายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาทต่อปี โดยวงเงินดังกล่าวเป็นการเพิ่มจากเดิมจะให้เพียง 100 บาทต่อเดือน แต่ทางรัฐบาลและกระทรวงการคลังเห็นว่า 100 บาท อาจน้อยเกินไปจึงเพิ่มให้อีก โดยวงเงินที่ให้นั้นเป็นการช่วยเหลือค่าครองชีพ คงไม่สามารถให้จนพอใจได้ทุกฝ่ายเพราะต้องดูงบประมาณด้วย ซึ่งครั้งนี้ใช้งบประมาณไปกว่า 4 หมื่นล้านบาท ถ้าเทียบเป็นรายปีในส่วนของเงินที่ได้รับซื้อของในร้านธงฟ้า ผู้มีรายได้ 3 หมื่นบาท-1 แสนบาทสามารถใช้จ่ายได้ 200 บาทต่อเดือนนั้นคิดเป็นเงิน 2,400 บาทต่อปี ส่วนที่ได้รับวงเงินผ่านบัตร 300 บาทต่อเดือน คิดเป็นเงิน 3,600 บาทต่อปีต่อคน ตรงนี้ยังไม่รวมกับค่าเดินทางคนเมือง 1,500 บาทต่อเดือน หรือ 18,000 บาทต่อปี และ 1,000 บาท ของคนต่างจังหวัด หรือ 12,000 บาทต่อปี ถ้าดูในภาพรวม กระทรวงการคลังคิดว่าน่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนค่าครองชีพของประชาชนรายได้น้อยพอสมควรแล้ว
+++กรมสรรพากรย้ำว่า การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ยังคงจัดเก็บในอัตรา 7% จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2561 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจให้กับภาคเอกชนเพื่อให้การบริโภคและการลงทุนของประเทศขยายตัวอย่างต่อเนื่องและมั่นคงยิ่งขึ้นส่วนที่ระบุว่าเป็นการลดอัตราภาษีลงมานั้น เนื่องจากกฎหมายปัจจุบันกำหนดให้กรมสรรพากรจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 10% รวมภาษีท้องถิ่น (ภาษีมูลค่าเพิ่ม 9% และภาษีท้องถิ่น 1%) จึงจำเป็นต้องออกพระราชกฤษฎีกาเพื่อลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มลงมาที่อัตรา 7%
+++ในวันนี้ จะมีการแถลงข่าวคดีกลุ่มโจร 6 คน สวมไอ้โม่งพร้อมอาวุธปืนครบมือบุกลานจอดรถคอนโด มิเนียมหรูรัชดาพาวิลเลี่ยน ซอยรัชดาภิเษก 30 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ปล้นเงินสกุลเยนญี่ปุ่น 196 ล้านเยน หรือเป็นเงินไทย 60 ล้านบาท ขณะลูกน้องของ นายภัทริศ หรือโต้โต้ แต้รัตนชัย เสี่ยนักธุรกิจซื้อขายทองคำแท่งและส่งออกเครื่องเพชรไปญี่ปุ่น ขับรถกระบะฟอร์ดเรนเจอร์สีส้ม ทะเบียนป้ายแดง ส 5179 กรุงเทพ มหานคร นำเงินเข้าไปในคอนโดฯ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รรท.ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าของคดีนี้ว่า ขณะนี้ชัดเจนแล้วว่ามูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุคือคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์ ชุดสืบสวนกำลังสอบปากคำผู้ต้องสงสัยรายนี้อย่างละเอียด พร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว
+++เมื่อเวลา 22.30 น. ชุดสืบสวนของ บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.สส.บก.น.2 ได้นำกำลังเข้าจับกุมนายณรงค์ชัย หรือจั๊ว สวัสดิผล หนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายสำคัญและลูกสมุนในทีมปล้นอีกหนึ่งราย จากนั้น ยังพบว่า คนร้ายร่วมก่อเหตุ 7 คน จับกุมได้แล้ว 4 คน เหลืออีก3 ที่ยังหลบหนี โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ทราบตัวคนร้ายทุกคนแล้วจะติดตามจับกุมได้ สำหรับนายณรงค์ชัย เป็นลูกน้องคนสนิทของเสี่ยโต้โต้และยังเป็นคนหิ้วเงินมาจากญี่ปุ่น โดยจับได้ภายในบ้านพักใน กทม. ซึ่งในการจับกุม สามารถค้นพบของกลางเป็นเงินจำนวน 196 ล้านเยน ในกระเป๋าเดินทางแบบลาก และได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่สน.พหลโยธิน และยังพบรถฟอร์ดคลุมผ้าใบทั้งคัน โดยเป็นรถที่คนร้ายใช้หลบหนีจอดอยู่ที่แยกผังเมือง
+++วันนี้ เครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ พร้อมด้วยตัวแทนภาคประชาชนกว่า 100 องค์กร จะยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันนี้ เวลา 11.00 น. ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้เร่งปฏิรูปตำรวจตามเสียงเรียกร้องของประชาชน
ชาวเกาะคานารี สเปน ร่วมประท้วงปัญหาการท่องเที่ยวเชิงปริมาณ
...
รัสเซียยึดเรือบรรทุกน้ำมันกรีกหลังออกจากท่าเรือเอสโตเนีย
...
เอฟบีไอเผยเหตุระเบิดที่คลินิกในปาล์มสปริงส์ เป็นก่อการร้าย
...
ข่าวทั้งหมด
