แม่เด็ก14 ปี ร้องมูลนิธิปวีณาฯ หลังลูกถูกเพื่อนแกล้งขังในห้อง-จุดไฟเผาเจ็บสาหัส

04 ตุลาคม 2560, 16:04น.


น.ส.กชพรรณ บุญทอง อายุ 42 ปี อาชีพหมอนวดแพทย์แผนไทย ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.อุทัยธานี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่ 15 ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ถนนรังสิต-นครนายก คลอง 7 ธัญบุรี ปทุมธานี กรณีเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 20 กันยายน ด.ช.ชนันชิศ บุญทอง หรือ น้องเอิร์ธ อายุ 14 ปี บุตรชาย ซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนประจำแห่งหนึ่งใน จ.ชัยนาท ได้ถูกเพื่อนและรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกันรวม 3 คน แกล้งปิดประตูใส่กุญแจขังไว้ในช่องเก็บของอาคารเรือนนอน แล้วฉีดยาฆ่าแมลงเข้าไปจนไม่มีอากาศหายใจ จากนั้นได้จุดไฟแช็คจนทำให้เกิดประกายไฟลุกท่วมภายในช่องเก็บของดังกล่าว ก่อนจะเผาไหม้ร่างกายของ ด.ช.ชนันชิศ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส



นางกชพรรณ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุครูที่โรงเรียนโทรมาแจ้งว่า ลูกชายเกิดอุบัติเหตุถูกไฟไหม้ตามร่างกายได้รับบาดเจ็บ โรงเรียนได้นำส่งรักษาที่โรงพยาบาลชัยนาท ตนและญาติจึงรีบเดินทางไปที่โรงพยาบาล เมื่อไปถึงพบสภาพลูกชายอยู่ในอาการหวาดผวา ที่แขนทั้งสองข้าง ขาข้างขวา และตามลำตัวเป็นแผลไหม้พุพอง จึงได้สอบถามลูกว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่ลูกชาย เล่าให้ฟังว่า เวลาประมาณ 16.00 น. หลังเลิกเรียน ลูกชายกำลังจะนำหนังสือเรียนไปเก็บในช่องเก็บของของตัวเองที่อยู่ใต้อาคารเรือนนอน ซึ่งขณะนั้นบริเวณหน้าช่องเก็บของได้มีเพื่อนและรุ่นพี่ 3 คน นั่งเล่นหมากเก็บอยู่ โดย 1 ใน 3 คน เอาหนังสือมาตีที่ศีรษะ แต่น้องเอิร์ธไม่เล่นด้วยจึงเดินหนี เมื่อน้องเอิร์ธเข้าไปในช่องเก็บหนังสือ เด็กคนหนี่งก็ได้เดินมาปิดประตูแล้วเอากุญแจคล้องไว้ เพื่อไม่ให้เปิดออกได้ จากนั้นก็ได้ยินเสียงเพื่อนอีกคนตะโกนบอกให้ไปเอากระป๋องยาฆ่าแมลงมา และได้ฉีดยาฆ่าแมลงเข้ามาให้ช่องเก็บของ ทำให้หายใจไม่ออก ซึ่งน้องเอิร์ธจึงตะโกนบอกให้หยุดฉีด หายใจไม่ออก แต่เพื่อนไม่ยอมหยุด กลับฉีดเข้ามามากกว่าเดิม พร้อมทั้งได้ยินเสียงจุดไฟและมีเปลวไฟพุ่งเข้ามาตามช่องประตูห้องเก็บของทำให้ถูกไฟไหม้ตามร่างกาย และมีเสียงระเบิดภายในช่องเก็บของที่ลูกชายติดอยู่อยู่ จึงทำให้เพื่อนตกใจจึงรีบเปิดประตูช่องเก็บของและเห็นว่าไฟไหม้ลูกชายของตัวเองและหนังสือ จึงได้ฉีดน้ำเพื่อดับไฟ และตามคุณครูมาที่เกิดเหตุ จากนั้นคุณครูจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล



เมื่อวันที่ 21 ก.ย. โรงเรียนได้เรียก นางกชพรรณและผู้ปกครองของเด็กทั้ง 3 คนที่ก่อเหตุเข้ามาเพื่อพูดคุย โดยโรงเรียนได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และเบื้องต้นตกลงกันว่าให้ผู้ปกครองของเด็กทั้ง 3 คน ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น เป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท แต่มีผู้ปกครองของเด็กเพียงคนเดียวที่ช่วยเหลือมา 3,000 กว่าบาทเท่านั้น แต่ผู้ปกครองของเด็กอีกสองคนแจ้งว่าไม่มีเงิน และโรงเรียนก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือ  ทั้งยังขอร้องไม่ให้ไปแจ้งความ ขณะนี้ลูกชายยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เพราะยังเดินไม่ได้ และแขนข้างหนึ่งก็อาจจะพิการ อีกทั้งแพทย์ก็ให้ระวังเรื่องการติดเชื้อ คาดว่าจะต้องใช้เวลาในการรักษาตัวอีกระยะหนึ่ง นางกชพรรณและญาติ จึงได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้วที่ สภ.เมืองชัยนาท และเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ



ด้านนางปวีณา กล่าวว่า ให้ความสำคัญในเรื่องการช่วยเหลือด้านการรักษา ด.ช.ชนันชิศ เป็นอันดับแรก และในวันที่ 5 ตุลาคม เวลา 13.00 น. จะเดินทางไปเยี่ยม ด.ช.ชนันชิศ ที่โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร เพื่อให้กำลังใจและสอบถามอาการจากแพทย์ที่รักษา เนื่องจากเบื้องต้นทราบว่า แขนข้างหนึ่งของ ด.ช.ชนันชิศ ไม่สามารถยืดออกได้ และขาที่เป็นแผลฉกรรจ์ ทำให้ไม่สามารถเดินได้ ถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็อาจจะพิการ ซึ่งมูลนิธิปวีณาฯ พร้อมที่จะประสานโรงพยาบาลเพื่อรักษาให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติสุข ขณะเดียวกันก็ได้ประสาน นายธีร์ ภวังคนันนท์ เลขาธิการคณะกรรมการสำนักงานพื้นที่การศึกษาหรือคุ้มครองนักเรียน เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว โดยนายธีร์ ได้รับปากที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทางโรงเรียน และจะเดินทางไปเยี่ยม ด.ช.ชนันชิศ พร้อมกันในวันพรุ่งนี้ด้วย



 



 

ข่าวทั้งหมด

X