เลขาฯคปภ.ลงพื้นทีชุมชนทำความเข้าใจ ผลประโยชน์คุ้มครองประกันภัย รับมือความเสี่ยง

การเปิดตัวโครงการ"คปภ.เพื่อชุมชน" ประจำปี2560 เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านประกันภัย  ลงพื้นที่ ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) เปิดเผยว่า หลังรัฐบาลกำหนดกลยุทธ์ที่มุ่งพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืน และสร้างความเข้มแข็งจากภายใน โดยใช้พลังประชารัฐในการขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตผ่านชุมชนต่างๆ ซึ่งสำนักงานคปภ.ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลและส่งเสริมธุรกิจประกันภัยและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านการประกันภัย จึงได้ดำเนินนโยบายและกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนกลยุทธ์ตามแผนพัฒนาการประกันภัยฉบับที่ 3 จัดทำโครงการคปภ.เพื่อชุมชน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน โดยสำนักงานคภปภ. จะลงพื้นที่ทำกิจกรรมให้ความรู้ด้านการประกันภัย เยี่ยมชมวิถีความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ เพื่อให้ชาวชุมชนมีความรู้ความเข้าใจเห็นคุณค่าและคุณประโยชน์ของประกันภัย สามารถนำระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงและเป็นหลักประกันความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินให้กับตนเองและครอบครัว รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของชาวชุมชน ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นต่อระบบประกันภัย และถือโอกาสที่สำนักงานคปภ.จะให้ภาคธุรกิจประกันภัย ทั้งบริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันวินาศภัย ตัวแทนนายหน้าประกันภัย เข้ามาร่วมทำประโยชน์ด้วย

สำนักงานคปภ.ได้คัดเลือก5ชุมชน ประกอบด้วย ชุมชนบ้านบางพลับ ตำบลบางพรม อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ,ชุมชนบางหลวง อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม, ชุมชนวัดจำปา เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ,ชุมชนบ้านต้นตาล อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี และชุมชนไทยพวน อำเภอบางพลี จังหวัดนครนายก เข้ามาเป็นชุมชนต้นแบบในโครงการ ซึ่งจะเริ่มทยอยลงพื้นที่แต่ละชุมชนตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคมหากโครงการนี้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนต้นแบบแล้วก็จะขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆต่อไป

ด้านตัวแทนภาคธุรกิจประกันภัยที่เข้าร่วมแถลงข่าวในวันนี้บางรายยอมรับว่า มีบ้างที่ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยทราบถึง วิถีชีวิตของชาวชุมชน ซึ่งโครงการคปภ.เพื่อชุมชนนี้ จะเป็นการเข้าถึงชาวชุมชนมากขึ้น อย่างตลาดน้ำก็จะมีอาชีพที่เกี่ยวข้องมากมาย เช่น อาชีพเรือแจว อาชีพเกษตรกร  ซึ่งอาชีพเหล่านี้ก็มีความเสี่ยงแตกต่างกันไป หลังจากนี้ภาคธุรกิจประกันภัยจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้สอดคล้องกับชาวชุมชนแต่ละแห่งมากขึ้น และจะเข้ามาทำความเข้าใจในเบื้องต้นให้ชาวชุมชนรู้ว่าการประกอบอาชีพของแต่ละคนมีความเสี่ยงอย่างไรและมีสิทธิเรียกร้องอะไรได้บ้าง