การลงพื้นที่ตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะ และตรวจสอบความพร้อมพนักงานขับรถ ในช่วงก่อนงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเอกมัย นายสุรชัย มั่งนุกูล เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่จะเริ่มลงตรวจที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเอกมัยทุกวัน ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม-สิ้นเดือนตุลาคม โดยจะลงพื้นที่ตรวจเวลา 16.00-22.00 น. เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีผู้โดยสารใช้บริการทั้งขาเข้าและขาออกจำนวนมาก
โดยวันนี้เจ้าหน้าที่จะตรวจดูความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะ ว่ามีสภาพมั่งคงแข็งแรง สามารถรองรับประชาชนจำนวนมากที่จะเดินทางมาในช่วงพระราชพิธี ถวายพระเพลิง พระบรมศพหรือไม่ ตรวจสอบอัตราค่าโดยสาร ว่าจะมีการแอบขึ้นราคาในช่วงที่มีประชาชนใช้บริการจำนวนมากหรือไม่ แม้ว่าที่ผ่านมาบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารเอกมัยจะไม่มีปัญหาดังกล่าว แต่ก็ต้องตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น และตรวจสภาพร่างกายของผู้ขับรถ ทั้งในเรื่องการพักผ่อน รวมทั้งแอลกอฮอล์ในร่างกาย เบื้องต้นจากการตรวจสอบทั้งรถแท็กซี่ รถบัส รถตู้ ไม่พบผู้กระทำความผิด อีกทั้งบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารเอกมัย จะไม่มีผู้ร้องเรียนเข้ามา เพราะผู้โดยสารไม่หนาแน่นเหมือนสถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต และเส้นทางเดินรถจะเป็นภาคตะวันออกทั้งหมด
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้เน้นย้ำกับผู้โดยสารให้คาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง และทำความเข้าใจในเรื่องวิธีการคาดเข็มขัดนิรภัย เนื่องจากผู้โดยสารบางรายคาดเข็มขัดนิรภัยไม่เป็น จึงเข้าใจว่าเข็มขัดนิรภัยชำรุด ไม่สามารถใช้งานได้
นายสุรชัย ระบุว่า จากการตรวจรถแท็กซี่ ไม่พบปัญหาการขึ้นค่าโดยสารแพงกว่ามิเตอร์ ไม่พบการเรียกเก็บค่าโดยสารแบบเหมาจ่าย และไม่พบปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสาร โดยการตรวจรถแท็กซี่ เจ้าหน้าที่จะดูในเรื่อง ของอุปกรณ์ส่วนควบ ทั้งภายในและภายนอกรถ, การติดฟิล์มกระจก ที่จะต้องห้ามติดฟิล์มดำเด็ดขาด, การห้ามนำรถแท็กซี่ป้ายแดงมาขับรับผู้โดยสาร, การแต่งกาย, การปฏิเสธผู้โดยสาร, ใบขับขี่รถโดยสารสาธารณะ, ป้ายระบุข้อมูลของผู้ขับรถ ที่จะต้องมีติดที่หน้ารถและหลังเบาะข้างคนขับ, ป้ายทะเบียนรถที่จะต้องติดที่ด้านในประตู, การตรวจมิเตอร์, การเสียภาษีประจำปี รวมทั้งการห้ามนำรถอายุเกิน 10 ปี มาขับรับผู้โดยสาร
ส่วนการตรวจรถตู้ ปัจจุบันไม่ค่อยพบปัญหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แม้ว่าที่ผ่านมารถตู้ที่วิ่งสายภาคตะวันออกจะมีปัญหาเรื่องความเร็วก็ตาม แต่ปัจจุบันนี้มีการบังคับให้ติด GPS ควบคุมความเร็วแล้ว แต่ยอมรับว่าอาจจะมีส่วนน้อยมาก ที่แอบนำรถที่ไม่ติด GPS มาขับแล้วขับเร็ว หากประชาชนพบเห็นรถตู้ที่มีลักษณะฝ่าฝืน สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที ทั้งนี้ได้มีการเน้นย้ำผู้โดยสารให้คาดเข็มขัดนิรภัยด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่มีการตรวจสอบรถตู้ในเรื่องการห้ามรับผู้โดยสารเกิน 13 ที่นั่ง เบาะข้างคนขับห้ามมีผู้โดยสารนั่ง และประตูทางออกฉุกเฉินด้านหลัง จะต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง รวมทั้งต้องมีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง อุปกรณ์ภายในรถ ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก ต้องมีทุกคัน
สำหรับการตรวจรถบัสวันนี้ ก็ไม่พบผู้กระทำผิด โดยเจ้าหน้าที่ได้เน้นย้ำให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยเช่นกัน และจะดูอุปกรณ์ส่วนควบทั้งภายในและภายนอกรถ, ห้ามเจาะทะลุห้องเก็บสัมภาระผู้โดยสาร, การเสียภาษีประจำปี, ใบขับขี่รถโดยสารสาธารณะ เป็นต้น สำหรับความเคลื่อนไหวที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเอกมัยช่วงเย็น มีผู้ใช้บริการเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง และมีฝนตกลงมาเรื่อยๆ ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 19 คอยดูแลอำนวยความสะดวกให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวด้วย