กราดยิงที่ลาสเวกัสมีผู้เสียชีวิตแล้ว59ศพ/ทางการสเปนเดินหน้าค้านกาตาลุญญาแยกประเทศ

03 ตุลาคม 2560, 06:12น.


ความคืบหน้าเหตุกราดยิงภายในงานเทศกาลดนตรีเพลงคันทรี รูท 91 ฮาร์เวสต์ ซึ่งจัดขึ้นใกล้กับโรงแรมกาสิโนมัณฑะเลย์เบย์ ในนครลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 1 ตุลาคม ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐฯซีเอ็นเอ็นระบุว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 59 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 527 คน ส่วนมือปืนที่ก่อเหตุฆ่าตัวตายในเวลาต่อมา และเชื่อว่าไม่มีมือปืนรายอื่นที่ร่วมก่อเหตุอีก แต่ขอให้ประชาชนไม่เข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุ



สำหรับเหตุกราดยิงในครั้งนี้เกิดขึ้นในระหว่างการแสดงในคืนสุดท้ายของงานเทศกาลดนตรีที่จัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ขณะที่ เจสัน อัลดีน นักร้องเพลงคันทรีชื่อดัง กำลังร้องเพลงอยู่บนเวที และมีผู้ชมมากถึง 22,000 คนเมื่อเกิดเหตุขึ้นการแสดงบนเวทีต้องหยุดลง จากนั้นโพสต์อินสตาแกรมว่า เขากับทีมงานปลอดภัย เหตุการณ์นี้เป็นยิ่งกว่าความน่ากลัวและเขารู้สึกเจ็บปวดที่เกิดเรื่องนี้ในคืนแห่งความสนุกสนาน



นายอำเภอ โจเซฟ ลอมบาร์โด จากสำนักงานตำรวจลาสเวกัส เปิดเผยว่า คนร้ายคือนายสตีเฟน เคร็ก แพดด็อค อายุ 64 ปีเป็นชาวเมืองเมสกีเต รัฐเนวาดา ก่อเหตุกราดยิงลงมาจากชั้น 32 ของโรงแรมกาสิโน มัณฑะเลย์เบย์ มือปืนรายนี้ไม่มีประวัติอาชญากรรมใดๆ ทั้งไม่มีการติดต่อกับกลุ่มก่อการร้าย แต่มีประวัติป่วยทางจิต เช็คอินเข้าพักที่โรงแรมตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดี เจ้าหน้าที่กำลังตามหาตัวหญิงชาวเอเชียที่ชื่อว่า แมรีลู แดนลีย์ อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนของมือปืน คาดว่าขณะนี้เธอจะอยู่ที่กรุงโตเกียว ส่วนการตรวจสอบห้องพักพบปืนยาวอย่างน้อย 10 กระบอก เหตุการณ์นี้เป็นเหตุกราดยิงซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของสหรัฐฯ



ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความแสดงความไว้อาลัยและความเสียใจต่อผู้บาดเจ็บและครอบครัวของผู้เสียชีวิต ทั้งเห็นว่าคนร้ายรายนี้เป็นปีศาจที่แท้จริง และเขาจะลงพื้นที่ลาสเวกัสในวันพุธนี้  



ส่วนเหตุก่อการร้ายที่ฝรั่งเศส กลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลามหรือ ไอเอส อ้างเป็นผู้ลงมือสังหารหญิงสาว 2 คนที่ในสถานีรถไฟหลักในเมืองมาร์กเซย์ของฝรั่งเศส จากนั้นคนร้ายรายนี้ก็ถูกทหารยิงเสียชีวิต อย่างไรก็ตามทางการฝรั่งเศสยังไม่ระบุว่าเหตุการณ์นี้เป็นเหตุก่อการร้าย โดยคนร้ายเป็นชายอายุ 30 ปี มีรูปพรรณสันฐานคล้ายชาวแอฟริกาเหนือ มีประวัติอาชญากรรม และใช้ชื่อปลอมหลายชื่อ



ที่แคนาดา ตำรวจจับกุมตัวนายอับดุลลาอี ฮาซาน ชารีฟ ผู้ลี้ภัยชาวโซมาเลียเป็นผู้ต้องสงสัยก่อเหตุขับรถพุ่งชนตำรวจแล้วใช้มีดแทงซ้ำ ทำให้มีผู้บาดเจ็บรวม 5 คนที่เมืองเอ็ดมอนตัน รัฐแอลเบอร์ตา โดยคนร้ายรายนี้มีชื่ออยู่ในบัญชีบุคลลที่มีแนวคิดรุนแรง ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า และก่อการร้ายรวม 5 กระทง



นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดว์ แห่งแคนาดาประณามการก่อการร้ายครั้งนี้และว่า เป็นการก่อเหตุจากความเกลียดชังที่แคนาดายังต้องเฝ้าระวัง



ส่วนการที่แคว้นกาตาลุญญา เตรียมประกาศแยกประเทศออกจากสเปนภายใน 1 สัปดาห์ โดยอ้างผลการลงประชามติที่ระบุว่า ประชาชนมากถึงร้อยละ 90 สนับสนุนให้แยกประเทศ นายราฟาเอล กาตาลา รัฐมนตรียุติธรรมสเปน เปิดเผยว่า รัฐบาลสเปนจะใช้กระบวนการทางกฎหมายเพื่อขัดขวางการแยกประเทศ



ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีมาริอาโน ราฮอย ของสเปน ยืนยันว่า การทำประชามติไม่มีผลทางกฎหมาย แต่นักวิเคราะห์หลายคนแสดงความเห็นว่า การที่ทางการสเปนใช้ความรุนแรงต่อประชาชนในกาตาลุญญา จะยิ่งทำให้ต่างชาติสนับสนุนกาตาลุญญามากขึ้น



ศาลชามอาลัม ชานกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เปิดการพิจารณาคดีลอบสังหารนายคิม จองนัมพี่ชายต่างมารดาของนายคิม จองอิล ผู้นำเกาหลีเหนือ เมื่อวานนี้  โดยมีนางสาว สีติ ไอชาห์ ชาวอินโดนีเซีย วัย 25 ปี และดออ่าน ถิ เฮือง ชาวเวียดนามวัย 28 ปี เป็นผู้ต้องหา ซึ่งทั้ง 2 คน ปฏิเสธข้อกล่าวหาฆาตกรรม และคาดว่าการไต่สวนจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 30 พฤจิกายนนี้



ภูเขาไฟซินาบุง ในจังหวัดสุมาตราเหนือ บนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย มีการปะทุรุนแรงมากขึ้น ทำให้ต้องอพยพออกจากพื้นที่เชิงเขาแล้วมากกว่า 30,000 คน



ขณะเดียวกันภูเขาไฟอากุง เกาะบาหลี ของอินโดนีเซียเช่นกัน ก็ปะทุอย่างรุนแรงมากขึ้น ทำให้ต้องอพยพประชาชนมากกว่า 140,000 คน อพยพออกจากพื้นที่



ยังมีภูเขาไฟมานาโร วูอี บนเกาะแอมแบ ของวานูอาตูที่ปะทุรุนแรงจนรัฐบาลต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และอพยพประชาชนทั้งหมดราว 11,000 คน ออกจากพื้นที่ โดรัฐบาลออสเตรเลียส่งเจ้าหน้าที่ทหารมาให้ความช่วยเหลือในการอพยพประชาชน



คณะกรรมการควบคุมการเงินเกาหลีใต้ประกาศห้ามการระดมทุนด้วยการขายเงินดิจิทัล หรือ ICO (Initial Coin Offering) ทุกรูปแบบ เนื่องจากพบการฉ้อโกงมากขึ้น เช่นเดียวกับ ธนาคารกลางจีน ที่สั่งห้ามการซื้อขายเงินดิจิทัลเมื่อเดือนกันยายน เพราะมีความเสี่ยงที่จะนำไปสู่ภาวะฟองสบู่



น้ำมันขยับลงต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ เมื่อสมาชิกกลุ่มโอเปกลดกำลังผลิตและค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 67 เซนต์ ปิดที่ 56.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 152.51 จุด หรือร้อยละ 0.68 ปิดที่ 22,557.60 จุด



เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 9.76 จุด หรือร้อยละ 0.39 ปิดที่ 2,529.12 จุด



แนสแดค เพิ่มขึ้น 20.76 จุด หรือร้อยละ 0.32 ปิดที่ 6,516.72 จุด



...



 

ข่าวทั้งหมด

X