น.ส.กฤษมา วัสวาณี ผู้สื่อข่าวสายธุรกิจประจำเอเชียของบีบีซีรายงานว่า ประเด็นสำคัญๆที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ของประเทศไทยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ จะพูดคุยกันในคืนนี้ประมาณ 23.40น. ตามเวลาในประเทศไทย น่าจะเป็นเรื่องที่อยู่ในความคิดและความสนใจของผู้นำสหรัฐฯในขณะนี้มากที่สุดคือ เรื่องเกาหลีเหนือและประเทศจีน แต่ก็อาจจะมีประเด็นอื่นๆด้วย เช่น ความสัมพันธ์ด้านการค้าและกลาโหม
สำหรับประเด็นเรื่องการค้า เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ พบปะกับนายทรัมป์ในวันนี้ ผู้นำของไทยคงจะมีโอกาสรับทราบโดยตรงว่า นโยบายการค้าของนายทรัมป์ที่เรียกว่า ผลประโยชน์สหรัฐฯต้องมาก่อนนั้นหมายถึงอะไร
ก่อนหน้านี้นายทรัมป์ถอนสหรัฐฯออกจากข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ประเทศไทยเองก็เกือบจะลงนามแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ ประเทศไทยจึงยังไม่ได้ลงนาม นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯพูดชัดเจนเช่นกันในเรื่องการขาดดุลการค้าระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐฯว่าสหรัฐฯต้องการจะให้ช่องว่างในเรื่องการขาดดุลการค้าแคบลงให้มากขึ้น
สหรัฐฯขาดดุลการค้าให้กับประเทศไทย 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเมื่อปีที่แล้ว แต่กระทรวงพาณิชย์ของไทยต้องการจะปรับความเข้าใจกับทางการสหรัฐฯให้ตรงกันว่าการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯต่อประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว ถือว่าต่ำมากคือเพียงร้อยละ 1.5 ส่วนใหญ่เป็นการขาดดุลการค้าจากปัญหาในเชิงโครงสร้างการค้า มากกว่าจะเป็นผลมาจากปัญหาเรื่องนโยบายการค้าที่ไม่เป็นธรรม
สำหรับประเด็นเรื่องการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ ก่อนหน้านี้นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯเคยเรียกร้องให้ประเทศไทย ช่วยตัดเส้นทางสนับสนุนทางการเงินไปยังเกาหลีเหนือ โดยผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้จัดหาสินค้ารายใหญ่จากเกาหลีเหนือในปี 2558 เพื่อจัดจำหน่ายให้กับลูกค้าในตลาดโลก ทำให้เกาหลีเหนือได้เงินตราจากต่างประเทศเข้าสนับสนุนโครงการขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์
แต่เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ของไทย ระบุว่า ในระยะหลังมานี้การค้าทวิภาคีระหว่างประเทศไทยกับเกาหลีเหนือลดลงมากถึงร้อยละ 90 ดังนั้นการที่ประเทศไทยจะรักษาสัมพันธ์ทางการค้ากับเกาหลีเหนือต่อไป คงจะไม่เกิดผลดีต่อประเทศไทยเมื่อต้องเผชิญกับท่าที่แข็งกร้าวจากสหรัฐฯต่อปัญหาเกาหลีเหนือ ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์ คงจะแสดงจุดยืนสนับสนุนทางการทูตให้กับประธานาธิบดีทรัมป์ในการแก้ไขปัญหาเกาหลีเหนือ แต่สหรัฐฯจะสามารถกวาดล้างธุรกิจผิดกฏหมายจากเกาหลีเหนือที่อยู่นอกประเทศได้จริงหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง นอกจากนี้คาดว่าผู้นำสหรัฐฯคงจะขอให้นายกรัฐมนตรีของไทยดำเนินการไปตามโรดแม็ปที่แถลงไว้ต่อสาธารณชนคือจัดให้มีการเลือกตั้งอย่างเสรีและเป็นธรรมและฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทยให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
ข้อมูลจากเว็ปไซต์ รัฐบาลไทย เปิดเผยกำหนดการที่สหรัฐฯของนายกฯ
วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม 2560
12.20 น. - นายกรัฐมนตรีเดินทางถึงทำเนียบประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา
12.40 น. - นายกรัฐมนตรีหารือข้อราชการกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ณ ห้อง Oval Office
13.00 น. - การหารือทวิภาคีเต็มคณะระหว่างนายกรัฐมนตรีกับประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา (Working Lunch) ณ ห้อง Cabinet Room
วันอังคารที่ 3 ตุลาคม 2560
09.30 น. - นายกรัฐมนตรีพบหารือกับคณะภาคเอกชนไทยที่ลงทุนในสหรัฐอเมริกา
12.00 น. - นายกรัฐมนตรีพบกับนายออร์ริน แฮทช์ ประธานที่ประชุมวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา เพื่อรับมอบสำเนาข้อมติวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ อาคารรัฐสภาสหรัฐอเมริกา
18.30 น. - สภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (U.S. - ASEAN Business Council: USABC) และสภาหอการค้าสหรัฐอเมริกา (U.S. Chamber of Commerce) เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำแก่นายกรัฐมนตรีและภริยา พร้อมด้วยคณะ
วันพุธที่ 4 ตุลาคม 2560
09.00 น. - นายกรัฐมนตรีพบปะกับชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกา
12.20 น. - นายกรัฐมนตรีและภริยา พร้อมด้วยคณะ เดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติดัลเลส กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
วันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคม 2560
21.55 น. - นายกรัฐมนตรีและภริยา พร้อมด้วยคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ทีมต่างประเทศ
CR:ภาพจากรัฐบาลไทย