รัฐบาลตั้ง กอร.พระราชพิธีฯ งานพระบรมศพ/พ.ต.ท.พงศ์พร ทำงานวันแรกสานต่อทุจริตเงินทอนวัด/โปรดเกล้าฯ พ.ร.บ. งบฯ 2561

+++พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง  ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม. ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ให้เป็นหน่วยงานหลักในการจัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ของประชาชนในส่วนกลาง เพื่อความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ กทม.จึงได้จัดทำวีดิทัศน์ จำนวน 2 ชุด ประกอบด้วยวีดิทัศน์ขั้นตอนการปฏิบัติในการเข้าถวายดอกไม้จันทน์ตามซุ้มขนาดกลางและซุ้มขนาดใหญ่  และวีดิทัศน์ขั้นตอนปฏิบัติในพิธีถวายดอกไม้จันทน์ตามวัดต่างๆ โดยสาธิตขั้นตอนการปฏิบัติตั้งแต่การเตรียมการ วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ ยานพาหนะ การจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ รวมถึงวิธีการถวายดอกไม้จันทน์อย่างละเอียด เพื่อเป็นแนวทางให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานถวายดอกไม้จันทน์สามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง สวยงาม และสมพระเกียรติ อีกทั้งสามารถให้คำแนะนำแก่ประชาชนที่มาถวายดอกไม้จันทน์ได้อย่างถูกต้องอีกด้วย

ทั้งนี้ กทม.ได้จัดทำวิดีทัศน์ดังกล่าวเป็นดีวีดีมอบให้กระทรวงมหาดไทยเพื่อส่งต่อให้กับอีก 76 จังหวัดได้ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติได้อย่างถูกต้องตรงกัน

+++พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประชุมกองอำนวยการร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ การอำนวยความสะดวกประชาชนในเรื่องเส้นทางการเดินทางเข้าพื้นที่เพื่อถวายบังคมพระบรมศพ การถวายดอกไม้จันทน์ในวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ วันที่ 26 ต.ค.ให้มีความเรียบร้อย คณะอนุกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและการจราจร ได้จัดตั้งกองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (กอร.พระราชพิธีฯ) ขึ้น ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 2 อาคารศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเป็นหน่วยงานประสานงานให้กับหน่วยงานด้านการรักษาความปลอดภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเป็นคณะทำงาน อาทิ กระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ กระทรวงคมนาคม กรมประชาสัมพันธ์ การไฟฟ้า การรถไฟแห่งประเทศไทย การท่าอากาศยาน กรมทางหลวง ในการดำเนินดังกล่าว โดยกองอำนวยการร่วมนี้จะปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 1 – 30 ต.ค. 2560 ประชาชนสามารถสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ กองอำนวยการร่วมงาน พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โทร.1441

+++นายสมเกียรติ  ประจำวงษ์  รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงพระราชบัญญัติ (พรบ.)ทรัพยากรน้ำว่า  ขณะนี้ ยังไม่มีผลบังคับใช้ใดๆทั้งสิ้น ยังอยู่ในขั้นตอนของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พิจารณาเห็นชอบในหลักการเข้าสู่การพิจารณาวาระที่ 1 และแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพรบ.เท่านั้น ซึ่งมีทั้งหมด 100 มาตรา เพิ่งพิจารณาได้ 95 มาตรา และมีหลายมาตราที่ยังมีข้อทักท้วง โดยเฉพาะในมาตราที่เกี่ยวกับการเก็บค่าน้ำ คือ มาตรฐานที่ 39 และ มาตราที่ 47 ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง และปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมซึ่งต้องใช้ระยะเวลา และที่สำคัญจะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้องตามกระบวนของกฎหมาย หลังจากนั้น ถึงจะนำเสนอต่อที่ประชุมสนช.พิจารณาในวาระที่ 2 วาระที่ 3 ตามลำดับ ก่อนเสนอให้นายกรัฐมนตรี นำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อลงนามพระปรมาภิไธย 

+++สำหรับพรบ.น้ำดังกล่าว จะบังคับใช้เฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทานเท่านั้น ในพื้นที่ชลประทานยังใช้ พรบ.ชลประทานหลวงบังคับใช้ ซึ่งจะไม่มีการเรียกเก็บค่าน้ำในภาคการเกษตร ไม่ว่ากรณีใดๆ แม้ว่าตามพรบ.ชลประทานหลวง จะกำหนดให้เก็บค่าชลประทาน ซึ่งไม่เรียกว่าค่าน้ำ จากภาคการเกษตรได้ในอัตราไม่เกิน 5 บาทต่อไร่ก็ตาม แต่ไม่เคยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คนไหนออกประกาศกระทรวงฯให้จัดเก็บค่าน้ำ จะจัดเก็บเฉพาะน้ำที่จัดสรรให้กับภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ และน้ำเพื่อการประปาเท่านั้น ในอัตราลูกบาศก์เมตรละ 50 สตางค์  ดังนั้นเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ชลประทานจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จาก พรบ.น้ำ ดังกล่าวอย่างแน่นอน

+++ส่วนเกษตรกรรายย่อยที่อยู่นอกเขตชลประทาน ที่พรบ.ทรัพยากรน้ำฉบับดังกล่าวจะเข้าไปดูแลนั้น ก็จะไม่ต้องจ่ายค่าน้ำเช่นกัน    เนื่องจากจะมีการกำหนดประเภทการใช้น้ำโดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ  ประเภทที่ 1  เพื่อการดำรงชีพ การอุปโภคบริโภค  ในครัวเรือน เกษตรหรือเลี้ยงสัตว์เพื่อยังชีพ  ประเภทที่ 2  เพื่อการเกษตรหรือเลี้ยงสัตว์เพื่อการพาณิชย์ อุตสาหกรรม ท่องเที่ยว  ผลิตพลังงานไฟฟ้า ประปา และกิจการอื่นๆ  และประเภทที่ 3 ใช้น้ำเพื่อกิจการขนาดใหญ่  ใช้น้ำมาก ซึ่งตามร่างพรบ.น้ำ จะจัดเก็บค่าน้ำเฉพาะประเภทที่ 2 และ 3  แต่ยังไม่มีการกำหนดว่าจะจัดเก็บเท่าไร  สำหรับเกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทานแทบทั้งหมดในปัจจุบันจะอยู่ในประเภทที่ 1 จึงไม่ต้องจ่ายค่าน้ำ

+++เกษตรกรทั้งที่อยู่ในเขตและนอกเขตชลประทาน สบายใจได้ว่า จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆจาก พรบ.ทรัพยากรน้ำ เพราะจะไม่มีการจัดเก็บค่าน้ำจากเกษตรกรรายย่อยเลย แม้จะมีการรวมกันทำการเกษตรแปลงใหญ่ตามนโยบายของรัฐบาลก็ตาม แต่ก็ยังเป็นเกษตรกรรายย่อยๆ มารวมกันหลายๆ คนเท่านั้นเอง ไม่จำเป็นจะต้องจ่ายค่าน้ำ  ในทางตรงข้าม พรบ.ดังกล่าวจะสร้างความเป็นธรรมในการใช้น้ำให้กับทุกภาคส่วน ภาคการเกษตรมีน้ำใช้อย่างพอเพียง ทำให้ประชาชนรู้คุณค่าน้ำมากขึ้น และใช้น้ำที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด  ช่วยกันรักษาคุณภาพน้ำ รักษาสิ่งแวดล้อม และเกิดความยั่งยืนในการใช้น้ำ

+++นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึง ร่าง พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ ว่า เมื่อร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนของ สนช.แล้ว คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ของสนช.สามารถจัดรับฟังความเห็นเพิ่มเติมอีกได้ เพื่อจะได้ทำความเข้าใจกับประชาชน พร้อมกับให้เขาเข้ามามีส่วนร่วม

+++การกลับมาทำหน้าที่ของพ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เดินทางเข้าทำงานวันแรก หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้กลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง พ.ต.ท.พงศ์พร ยืนยันว่า จะทำหน้าที่ต่อไป ไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง โดยจะทำตามกฎหมาย และอำนาจหน้าที่ต่อไป กรณีทุจริตงบประมาณอุดหนุนวัด พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าวว่า ต้องให้ไปสอบถามข้อมูลทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยขณะนี้ทางกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ยังไม่ได้มีการประสานงานขอข้อมูลการตรวจสอบการทุจริตงบประมาณอุดหนุนวัดในรอบที่ 3 ส่วนกรณีที่กลับเข้ามารับตำแหน่ง ผอ.พศ.อีกครั้ง จะเกิดกระแสกดดันจากกลุ่มพระสังฆาธิการหรือไม่ ไม่กังวล และจะทำงานตามหน้าที่

+++เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 โดยระบุว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 โดยให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2560 เป็นต้นไป งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ให้ตั้งเป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 2.9 ล้านล้านบาท โดยงบประมาณรายจ่ายงบกลาง ในความควบคุมของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ให้ตั้งเป็นจำนวน 9.76 หมื่นล้านบาท

+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดบ่าย ปรับตัวขึ้น 15.48 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,688.64 จุด มูลค่าการซื้อขาย 62,026.90 ล้านบาท         

+++ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียวญี่ปุ่น ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีในวันนี้ ปรับตัวขึ้น 44.50 จุด ปิดที่ 20,400.78 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค. 2558

+++ความคืบหน้าเหตุมือปืนบุกเดี่ยวกราดยิงใส่คนบริเวณลานแสดงดนตรีแนวคันทรีในเวทีกลางแจ้งของโรงแรมมัณฑะเลย์ เบย์ รีสอร์ทและคาสิโนในเมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐฯเมื่อเวลา 22.30 น.เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นของวานนี้ มีคนเสียชีวิตเพิ่มเป็น 50 ศพ บาดเจ็บมากกว่า 200 คน

+++ส่วนเรื่องตัวคนร้าย ตำรวจเมืองลาสเวกัส ระบุว่า ชื่อ นายสตีเฟน แพ็ดด็อค อายุ 64 ปี เป็นคนในท้องถิ่น ก่อเหตุเพียงคนเดียวและถูกตำรวจวิสามัญเสียชีวิต

+++ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างนายไบรอัน แซนโดวัล ผู้ว่าการรัฐเนวาดา ว่าตำรวจ พบ น.ส.มาริลู แดนลีย์ แฟนของคนร้ายแล้วและจะสอบปากคำ หลังมือปืนดังกล่าวบุกเดี่ยวกราดยิงจากชั้นที่ 32 ของโรงแรม ลงไปยังลานแสดงคอนเสิร์ต ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่เจสัน อัลดีน นักร้องแนวคันทรีชื่อดังกำลังทำการแสดง ต่อจากนักร้องแนวคันทรีอีกคนคือนายเจค โอเว่น

+++ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ปรากฏว่ามีตำรวจที่ออกเวรแล้วหลายคนอยู่ในกลุ่มที่เสียชีวิต นอกจากนี้มีตำรวจบาดเจ็บ 2 คน ในจำนวนนี้ รายหนึ่งอาการสาหัส ส่วนอีกคนบาดเจ็บเล็กน้อย

+++ด้านคนดังในวงการบันเทิงของโลก ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในเมืองลาสเวกัส รวมถึงมารายห์ แครี่ย์,เซลีน ดิออนและแบรด เพสลีย์ นักร้องชื่อดังชาวอเมริกา ต่างทวีตข้อความแสดงความรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและขออวยพรให้ผู้บาดเจ็บมีอาการดีขึ้น

+++เฟซบุ๊ก เปิดใช้งานระบบเซ็ฟตีเช็คเพื่อให้ผู้ใช้ในรัฐเนวาดา สามารถใช้งานเฟซบุ๊ก และติดต่อสอบถามญาติของพวกเขาว่าปลอดภัยดีอยู่หรือไม่ พร้อมทั้งรายงานความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและรวบรวมข้อเสนอต่างๆจากคนในท้องถิ่นที่เสนอช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย เช่นการให้ขึ้นรถไปด้วยกันกรณีเดินทางไปในเส้นทางเดียวกัน การแจกอาหาร ที่พักอาศัยชั่วคราวและอื่นๆเท่าที่พอจะช่วยเหลือกันในยามเดือดร้อนเช่นนี้