สตช.รับคำสั่งเพิ่มเจ้าหน้าที่ และความเข้มงวดเพื่อรักษาความปลอดภัยงานพระราชพิธี

02 ตุลาคม 2560, 12:57น.


การดูแลรักษาความปลอดภัยงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชตลอดเดือนตุลาคมนี้ 


พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าตำรวจมีการดูแลอย่างเต็มที่ หลังพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมาแสดงความห่วงใย ยืนยันว่าที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานความมั่นคงทุกภาคส่วน มีการทำงานร่วมกันมาตลอด โดยเฉพาะการติดตั้งกล้องวงจรบริเวณรอบพระบรมมหาราชวัง ท้องสนามหลวง และบริเวณโดยรอบงานพระราชพิธี เข้มงวดจุดคัดกรองทุกจุดทั้งวงใน วงกลาง และรอบนอก พร้อมย้ำว่าการข่าวยังไม่พบเหตุบ่งชี้อะไรเป็นพิเศษ ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็มีมาตรการในการคัดกรองอย่างเข้มงวด เนื่องจาก พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจ ได้เน้นย้ำการปฎิบัติเจ้าหน้าที่ทุกนายให้ปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพราะเป็นงานพระราชพิธีที่สำคัญสูงสุด 


ส่วนความคืบหน้าการติดตามตัว นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีโครงการรับจำนำข้าว พันตำรวจเอกกฤษณะ เปิดเผยว่า หลังจากศาลออกหมายจับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการประกาศสืบจับไปยังตำรวจทั่วประเทศ ผ่านกองทะเบียนประวัติอาชญากร พร้อมเร่งรัดให้หน่วยงานต่างๆ สืบสวนติดตามจับกุมเป็นระยะ และเข้มงวดคัดกรองคนเข้าออกประเทศ พร้อมทำหนังสือประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีอำนาจในการออก และยกเลิกหนังสือเดินทาง มีการประสานการทำงานกับตำรวจสากลทั้ง 192 ประเทศ โดยส่งเรื่องไปยังองค์การตำรวจสากล ที่สำนักงานใหญ่ประเทศฝรั่งเศส ขอให้ออกหมายน้ำเงินรวมทั้งให้ติดตามตัว ว่าเป็นผู้ต้องหาที่ทางการไทยต้องการตัว คาดว่าจะมีการเร่งดำเนินการออกหมายน้ำเงินตามที่ทางการไทยร้องขอ และยกระดับขั้นตอนของกฎหมายหรือหมายแดงต่อไป ยืนยันว่าทางการไทยมีการติดตามทวงถามอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีสื่อต่างประเทศรายงานว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ อยู่ประเทศอังกฤษนั้น มีการประสานอยู่แล้ว แต่ทางอังกฤษก็ยังไม่ได้ตอบกลับมา


สำหรับข้าราชการตำรวจ 3 ราย ที่ช่วยเหลือนางสาวยิ่งลักษณ์ หลบหนี อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการสอบ ส่วนการดำเนินคดีอาญาในพื้นที่ สน.ปทุมวันมีการแจ้งข้อหาตามขั้นตอนแล้ว


สำหรับการจับกุมผู้ใช้รถยนต์ป้ายแดง หลังวันที่ 1 มกราคม 2561 พันตำรวจเอกกฤษณะ ยืนยันว่า ตำรวจจะมีการกวดขันจับกุมผู้ใช้รถยนต์ป้ายแดงอย่างจริงจัง ตั้งแต่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป ส่วนผู้ที่ซื้อรถตั้งแต่ 1 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2560 จะอนุญาตดำเนินการจดทะเบียนเป็นป้ายปกติหรือป้ายดำให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน โดยเจ้าหน้าที่จะมีการว่ากล่าวตักเตือนและใช้ดุลยพินิจในการพิจารณาอัตราโทษปรับขั้นต่ำไม่เกิน 1,000 บาท ส่วนตั้งแต่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไปหากยังฝ่าฝืนจะมีอัตราปรับไม่เกิน 10,000 บาท ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ กรมการขนส่งทางบก  ยืนยันว่าเป็นมาตรการเพื่อป้องกันอาชญากรรม เพราะคนร้ายมักใช้รถที่ยังไม่มีการจดทะเบียนไปก่อเหตุ และยังป้องกันกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแล้วไม่สามารถฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมด้วย


 


....


ผสข.ปภาดา พูลสุข 
ข่าวทั้งหมด

X