นายแอนโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวในที่ประชุมสาธารณะของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ว่าชาวโรฮิงญาจากเมียนมากำลังเผชิญกับฝันร้ายทางมนุษยธรรม และต้องการให้รัฐบาลเมียนมายุติการใช้กำลังทหารเพื่อเปิดทางให้กลุ่มองค์กรด้านมนุษยธรรมเข้าไปในพื้นที่ขัดแย้ง รวมถึงการยินยอมให้ชาวโรฮิงญากลับบ้านได้เมื่อเหตุการณ์สงบลงแล้ว เขากล่าวว่าสถานการณ์ลุกลามเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินผู้ลี้ภัยเร็วที่สุดของการทำงานด้านมนุษยธรรมและเรื่องสิทธิมนุษยชน เมื่อผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญามากกว่า 500,000 คนเดินทางข้ามพรมแดนไปยังบังกลาเทศ และอีกนับล้านคนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นอยู่ในเมียนมา ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วันหลังจากวันที่ 25 สิงหาคมที่กลุ่มก่อการร้ายชาวโรฮิงญาโจมตีฝ่ายความมั่นคงของเมียนมา และเมียนมาตอบโต้ด้วยการเร่งปราบปรามและโจมตีหมู่บ้านชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่
เขากล่าวด้วยว่า สหประชาชาติได้รับรายงานเกี่ยวกับความรุนแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงรวมไปถึงการสังหารโดยไม่เลือกว่าเป็นผู้ที่มีอาวุธหรือไม่ และการใช้ความรุนแรงทางเพศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้และต้องจบลงทันที เพราะเหตุหากมีความไม่สงบเกิดขึ้นยาวนานจะกลายเป็นช่องว่างให้กลุ่มแนวคิดหัวรุนแรงเข้ามาแทรกแซงสถานการณ์ได้ และในวันที่ 9 ตุลาคมนี้สหประชาชาติ จะจัดการประชุมประเทศผู้บริจาคเพื่อรวบรวมความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนในรัฐยะไข่
...
F163