ฝนตกในกทม.70%/นายกฯลงพื้นที่จ.สตูล/รายได้11เดือนแรก กว่า2ล้านล้านบาท/กทม.แชมป์จุดหมายปลายทางนทท.

29 กันยายน 2560, 08:27น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30  น.



++++สภาพอากาศในวันนี้ ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วยสำหรับบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง   กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง



+++การประชุมจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ 4 ต.ค.นี้ ในเวลา 13.30 น. ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยจะชี้แจงในทุกเรื่องต่อสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ทั้งเรื่องของการจราจร ข้อควรปฏิบัติของประชาชน การปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน เพื่อให้ชาวไทยและชาวต่างชาติได้รับทราบ สำหรับการเตรียมพระราชพิธีขณะนี้คืบหน้า ร้อยละ 98 แล้ว  ขอวิงวอนประชาชน ให้ร่วมพิธีในพื้นที่ของตัวเอง เนื่องด้วยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างพระเมรุมาศจำลองทั่วประเทศ และจะมีการถ่ายทอดสดตามเวลาจริง เพราะบริเวณพระราชพิธีในท้องสนามหลวงนั้น ประชาชนทั่วไปไม่ได้รับอนุญาตให้เข้า ซึ่งทาง กทม.ได้จัดเตรียมจอขนาดใหญ่หลายร้อยจอไว้ให้ประชาชนได้รับชม พร้อมประสานเอกชนที่มีจอเอลอีดีขนาดใหญ่ให้เผยแพร่ภาพช่วงถ่ายทอดสดด้วย ด้านการจัดการจราจรของถนนราชดำเนินออกเป็น 3 ส่วน 1.ถนนราชดำเนินช่องกลาง ที่จะเข้าสู่พระราชพิธี จะถูกแบ่งเป็นเส้นทางเสด็จ 2.ถนนราชดำเนิน ฝั่งขวา เป็นเส้นทางสำหรับประชาชน แต่ไม่สามารถเข้าถึงบริเวณท้องสนามหลวงได้ 3.ถนนราชดำเนิน ฝั่งซ้าย จะเป็นเส้นทางสำหรับกรณีฉุกเฉิน ส่วนกรณีที่มีการแชร์กันทางโซเชียลมีเดียว่า รัฐบาลมีคำสั่งห้ามจัดงาน เช่น งานศพ เป็นต้น ในวันที่ 26 ต.ค.นั้น ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง ขณะเดียวกันในข้อเท็จจริงแล้ว เชื่อว่าจะไม่มีการจัดงานตรงกับวันดังกล่าว เพราะถือว่าเป็นวันพระราชพิธีสำคัญของคนไทย



+++ไปแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. เดินทางเป็นประธานพิธีเปิดการใช้งานสถานีเคเบิลใต้น้ำ ที่จ.สตูล เพื่อประชาสัมพันธ์นโยบายของรัฐบาล นำประเทศไทยก้าวสู่ ประเทศไทย 4.0 โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รวมทั้งพบปะและรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนในพื้นที่ และมอบนโยบายแก่ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรส่วนท้องถิ่น ลงที่หาดใหญ่จากนั้นเดินทางต่อโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังที่ว่าการอ.ละงู จ.สตูล และเดินทางต่อโดยขบวนรถยนต์ไปมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา วิทยาเขตสตูล เพื่อเปิดพิธีส่งมอบเน็ตประชารัฐ จ.สตูล และร่วมพูดคุยผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เน็ตประชารัฐกับตัวแทนแต่ละภูมิภาค จำนวน 5 ภูมิภาค พร้อมส่งมอบให้กับตัวแทนประชาชนในพื้นที่



จากนั้นนายกฯจะมอบอุปกรณ์กีฬาให้กับนักเรียนโรงเรียนบ้านราไว อ.ทุ่งหว้า พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่นที่ประสบอุทกภัยและพบปะประชาชนในพื้นที่ เยี่ยมชมร้านค้าชุมชนที่ใช้เน็ตประชารัฐมาช่วยขายสินค้า ต่อมาเวลา 11.45 น. นายกฯเดินทางต่อไปยังสถานีเคเบิลใต้น้ำปากบารา เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดใช้บริการสถานีเคเบิลใต้น้ำปากบารา พร้อมเยี่ยมชมสถานีเคเบิลใต้น้ำปากบารา จากนั้นเวลา 14.45 น. นายกฯเดินทางกลับโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังกองบิน 56 และเดินทางกลับกรุงเทพฯในเวลาต่อมา



+++กระทรวงการคลังเผยยอดเก็บรายได้ 11 เดือนแรกปีงบประมาณ 2560ทำได้กว่า 2 ล้านล้านบาท เหตุจากการจัดเก็บรายได้ของส่วนราชการอื่น การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ และการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตสูงกว่าประมาณการ ได้แก่ ภาษีน้ำมัน ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีเบียร์ อย่างไรก็ตามรายได้นำส่งคลังต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ 2559จำนวน 59,084 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 2.8) ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากรายได้พิเศษจากการประมูลคลื่นความถี่ 3G4G และเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาต TV Digital ในปีก่อน แต่หากไม่รวมรายได้พิเศษดังกล่าว รายได้นำส่งคลังปีนี้จะสูงกว่าปีก่อน จำนวน 77,677 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.9 ส่วนการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้นจำนวน 2,679,296 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ  93.3 ของงบประมาณประจำปี 2560 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลจำนวน 462,681 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2560 มีจํานวนทั้งสิ้น 315,392 ล้านบาท ทั้งนี้ เงินคงคลังในปัจจุบันที่มีจำนวนกว่า 315,000  ล้านบาท และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ 2559 อยู่ประมาณ 12,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงฐานะการคลังที่เข้มแข็งและพอเพียงสำหรับการดำเนินนโยบายการคลังเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงต่อไป



+++พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมพนักงานสอบสวน สน.ประเวศคุมตัว นายกราคยาน พาเวล สแตนิช เซวสกี้ อายุ 38 ปี ชาวโปแลนด์ ผู้ต้องหาคดี วางระเบิดตู้ ATM ธนาคารกรุงเทพ บริเวณห้างโลตัส ย่านถนนกรุงเทพกรีฑา เพื่อชิงเงินสดกว่า 3 แสนบาท  เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 กันยายนทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จุดแรก บริเวณหน้าห้างโลตัส ที่ผู้ต้องหา นำกระเป๋าใส่บอลลูนอัดแก๊ส มาวางระเบิดบริเวณตู้เอทีเอ็ม แล้วนำเงินสดในตู้ใส่กระเป๋าสีดำ ขี่รถจักยานยนต์ มายังที่รกร้างในซอยกรุงเทพกรีฑา 15/1 เพื่อทำลายหลักฐาน ต่างๆ อาทิ เสื้อผ้า หมวกกันน็อค ที่ใช้ก่อเหตุมาโยนทิ้งบ่อน้ำ โดยตอนแรกตั้งใจจะใช้พลั้วขุดแล้วฝังดิน แต่ไม่สำเร็จเพราะดินบริเวณนี้แข็งเกินไป พลตำรวจโทศานิตย์ ระบุว่า จากการสอบสวนขยายผลถึงขณะนี้ ยังน่าเชื่อว่าผู้ต้องหาก่อเหตุเพียงคนเดียว และเตรียมก่อเหตุซ้ำอีก เนื่องจากพบพยานหลักฐานในห้องพัก ส่วนผู้ต้องหามีความเชี่ยวชาญพื้นที่นั้น ผู้ต้องหาอ้างว่า ออกมาตกปลาบริเวณนี้บ่อยครั้งซึ่งพอรับฟังได้ สำหรับภรรยาผู้ต้องหาที่เป็นชาวกัมพูชา ตำรวจยังไม่ได้สอบปากคำเนื่องจากเจ้าตัวเดินทางกลับประเทศไปแล้ว พร้อมฝากเตือนผู้ประกอบการเพิ่มมาตรการณ์เฝ้าระวังการก่อเหตุโดยเฉพาะยามวิกาลให้มากขึ้น



+++นายวสุรัตน์ โรจน์รุ่งรังสี ผู้ประกอบการ บริษัทให้เช่ารถบัสนำเที่ยวแห่งหนึ่ง เข้าร้องทุกข์กับพลตำรวจตรีสุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.)ให้ดำเนินคดีพันตำรวจเอกสุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว และพันตำรวจโทธรรมรักษ์ เรืองดิษฐ์ พนักงานสอบสวน สน. พญาไท เจ้าของคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ ในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีที่ตนและพวกรวม 13 คน ถูกดำเนินคดีข้อหา ผิดพ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 , อั้งยี่และฟอกเงิน  ถูกคุมขังและไม่ได้ประกันตัวทำให้ธุรกิจเสียหาย ครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียง และตกเป็นจำเลยสังคม  ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเมื่อ 25 สิงหาคมนายวสุรัตน์ ระบุว่า  หลังถูกดำเนินคดี มีคนในครอบครัวถูกคุมขังในเรือนจำนานร่วม 5 เดือน สูญเสียอิสรภาพ และตระกูลเสื่อมเสียชื่อเสียง ที่สำคัญธุรกิจได้รับความเสียหายอย่างไม่สามารถประเมินได้  อีกทั้งกระทบชีวิตของพนักงานบริษัทนับพันคน  จึงมาร้องทุกข์ แม้คู่กรณีจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่เชื่อมั่นกองปราบจะดำเนินการด้วยความเป็นธรรมสำหรับคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ  เป็นคดีที่ตำรวจท่องเที่ยวดำเนินการตรวจสอบกลุ่มบริษัททัวร์ที่ดำเนินกิจการเข้าข่ายผิดต่อพ.ร.บ.ธุรกิจท่องเที่ยว  ซึ่งทำให้ประเทศไทยสูญเสียรายได้จากการเรียกเก็บภาษีประกอบกิจการไปจำนวนมาก



+++ขโมยล็อตเตอรี่ที่นายวิทยา ธนทรัพย์สิน และนางขวัญศิริ ธนทรัพย์สิน สองสามีภรรยา ชาว ต.สระคู อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกระบุว่านำสลากที่ถูกรางวัลไปขึ้นเงิน ยืนยันว่า ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเอง ขณะไปรับประทานอาหารที่ร้านตำแหลกในตัวอำเภอตรงข้าม ร.พ.นางรอง แต่ไม่ได้ไปลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพราะไม่อยากเป็นข่าวเนื่องจากกลัวความไม่ปลอดภัย ยืนยันว่า ล็อตเตอรี่ที่ถูกรางวัลงวดดังกล่าวเป็นของตนที่ซื้อเอง และไม่เคยรู้จักกับนายพันธุ์ศักดิ์ ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ที่แจ้งความอ้างว่าสลากหาย รวมทั้งเด็กผู้ชายอายุ 15 ปี ที่ถูกสงสัยว่าเป็นคนขโมยสลาก ก็ยืนยันว่าไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า กรณีที่เกิดขึ้นอยากฝากสังคมและผู้ที่ติดตามข่าวสาร ขอให้ฟังข้อมูลให้รอบด้านอย่าเพิ่งตัดสินว่าใครผิดใครถูก เพราะหลังจากมีการนำเสนอข่าวในทำนองที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ทำให้ตนและครอบครัวได้รับความเสียหาย ซึ่งตนพร้อมพิสูจน์ความจริงทุกอย่าง



++++ปิดท้ายพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยินดีที่กรุงเทพมหานครสามารถครองแชมป์เมืองจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 2 จากผลการสำรวจสุดยอดจุดหมายปลายทางโลกของมาสเตอร์การ์ด ประจำปี 2560 (Mastercard Global Destinations Cities Index – GDCI 2017) ซึ่งได้สำรวจต่อเนื่องกันมาแล้ว 7 ปี และกรุงเทพฯ ยังติดอันดับ 1 ใน 5 ของเมืองจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวใช้จ่ายมากที่สุดอีกด้วย สำหรับ 10 อันดับของเมืองจุดหมายปลายทางที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวค้างคืนมากที่สุดในโลกในปีที่ผ่านมา ได้แก่ 1. กรุงเทพมหานคร 19.41 ล้านคน 2. ลอนดอน 19.06 ล้านคน 3. ปารีส 15.45 ล้านคน 4. ดูไบ 14.87 ล้านคน 5. สิงคโปร์ 13.11 ล้านคน 6. นิวยอร์ก 12.70 ล้านคน 7. โซล 12.39 ล้านคน 8. กัวลาลัมเปอร์ 11.28 ล้านคน 9. โตเกียว 11.15 ล้านคน 10. อิสตันบูล 9.16 ล้านคน

ข่าวทั้งหมด

X