เอเอฟพีรายงานว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียแถลงทางโทรทัศน์ของรัฐบาลรัสเซียในวันนี้ว่า รัสเซียได้ทำลายอาวุธเคมีชุดสุดท้ายที่เหลืออยู่ในคลังอาวุธคิซเนอร์ในสาธารณรัฐอุดมูร์เชีย ทางภาคใต้ของประเทศเสร็จแล้วเมื่อวานนี้ ผู้นำรัสเซียชื่นชมการกำจัดอาวุธเคมีของรัสเซียว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่งของโลกในแง่ของการช่วยให้โลกสมัยใหม่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และตำหนิรัฐบาลสหรัฐฯที่ไม่ทำตามอย่างรัสเซียในเรื่องนี้และกล่าวหารัฐบาลสหรัฐฯว่าเลื่อนแผนการกำจัดอาวุธเคมีมาแล้ว 3 ครั้ง
ผู้นำรัสเซียเพิ่มเติมว่า อาวุธเคมีของรัสเซียซึ่งนับว่ามีปริมาณมหาศาลเป็นอาวุธที่สืบทอดมาจากยุคอดีตสหภาพโซเวียต ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายคนประเมินว่ามีปริมาณมากพอที่จะทำลายล้างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตจำนวนมากให้สูญสิ้นไปจากโลก ก่อนหน้านี้รัสเซียได้ทำลายอาวุธเคมีและปิดทำการโรงผลิตอาวุธเคมีอื่นๆรวม 6 แห่งระหว่างปี 2548-2558 ด้านนายอาห์เหม็ด ยูซุมคู ผู้อำนวยการองค์การห้ามอาวุธเคมี องค์กรที่เข้าตรวจสอบอาวุธเคมีระหว่างประเทศ ชื่นชมรัสเซียว่าทำตามข้อผูกพันที่ให้คำมั่นไว้กับนานาชาติ และนับว่าเป็นคืบหน้าครั้งสำคัญที่จะให้บรรลุเป้าหมายอนุสัญญาห้ามใช้อาวุธเคมี
ในปัจจุบันร้อยละ 96 ของคลังอาวุธเคมีทั่วโลกถูกทำลายไปหมดแล้ว อาวุธเคมีที่ยังเหลืออยู่ส่วนใหญ่เป็นของ 2 มหาอำนาจของโลกคือรัสเซียและสหรัฐฯที่สั่งสมอาวุธเคมีไว้จำนวนมากระหว่างยุคสงครามเย็น ก่อนหน้านี้ประเทศทั้งสองตกลงจะทำลายอาวุธเคมีให้หมดไปภายในเดือนเมษายน 2555 แต่ก็เลื่อนเวลาเรื่อยมา ต่อมาสหรัฐฯระบุว่าจะกำจัดอาวุธเคมีให้หมดไปภายในปี 2566