กำลังพลในริ้วขบวนพระอิสริยยศ ภาคภูมิใจถวายงานในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

28 กันยายน 2560, 13:11น.


ความภาคภูมิใจของการได้เป็นกำลังพลในริ้วขบวนพระอิสริยยศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยภายหลังการฝึกซ้อมริ้วขบวนงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ บริเวณกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ บางเขน





จ่าสิบเอกระดับชาติ ไร่ดี พลฉุดชักพระมหาพิชัยราชรถ งานถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 กล่าวว่า ตัวเองรับราชการมา 12 ปี โดยครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่ได้เป็นกำลังพลฉุดชักราชรถในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งมาจากการเปิดรับตามความสมัครใจของหน่วยต้นสังกัด และได้สมัครเข้ามา ผ่านการคัดตัว วัดมวลกาย น้ำหนัก ส่วนสูง จาก 500-600 คน เหลือ 200 คน ส่วนตัวมีความศรัทธา มีความเชื่อว่าพระองค์จะเห็นความตั้งใจ และทุกครั้งที่อยู่ในช่วงคัดตัว ได้นึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ผ่านเหรียญของพระองค์ที่ติดกระเป๋าเสื้อปฏิบัติงานเสมอว่าหากมีบุญวาสนา ขอให้มีโอกาสทำงานถวายพระองค์ เพราะเป็นความฝันมานานก่อนที่พระองค์จะสวรรคตว่าอยากเข้าถวายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 สักครั้งในชีวิต และในเมื่อพระองค์ไม่ได้อยู่กับพวกเราแล้ว ก็อยากมีส่วนที่จะถวายงานอย่างใกล้ชิด ขณะที่ทางบ้านหลังทราบเรื่องแม่ก็ดีใจจนน้ำตาไหล ถือเป็นเกียรติประวัติกับครอบครัว ของการได้มาเป็นกำลังพลฉุดชักในครั้งนี้ ที่จะต้องเสียสละหลายๆ ด้าน เพื่อทำงานในหน้าที่ และงานในพระราชพิธี ที่ได้รับมอบหมายอย่างดีที่สุด



 





ด้านนายปธานิน สุนทรวาทะ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย หนึ่งในกำลังพลริ้วขบวนที่ 3  กล่าวว่า การได้ร่วมเป็นกำลังพลในริ้วขบวนงานพระราชพิธีครั้งนี้ เกิดจากที่โรงเรียนเปิดรับสมัครตามความสมัครใจ ซึ่งตัวเองคิดว่าการได้มาอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้  ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ทรงสถาปนาขึ้น และมีพระเมตตารักนักเรียนทุกคนเหมือนลูก ก็เป็นหน้าที่ของลูกที่จะต้องทำเพื่อแผ่นดิน เพื่อพระมหากษัตริย์  แม้ในวันพระราชพิธีจริงหรือแม้แต่ช่วงฝึกซ้อม จะต้องอยู่ท่ามกลางแดดร้อนเป็นเวลานาน แต่ก็จะทำเต็มที่และอดทน เพราะการได้เกิดมาทั้งที และมีโอกาสที่จะได้ทำเพื่อส่วนรวม เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี โดยหลังจากที่ทางครอบครัวทราบทุกคนต่างดีใจ เพราะถือว่าได้รับเกียรติอย่างมาก ในการเข้าร่วมพระราชพิธีครั้งนี้ ส่วนสภาพร่างกาย ก็ไม่ได้มีความกังวล เพราะโดยปกติแล้ว โรงเรียนมีการฝึกซ้อมความแข็งแรงของร่างกายนักเรียนเป็นประจำอยู่แล้ว แต่อาจมีการฝึกเรื่องของระเบียบวินัยความพร้อมเพิ่มเติม





ส่วนความรู้สึก ในฐานะของนักเรียนโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย แม้ว่าการกระทำครั้งนี้ อาจจะไม่สามารถทดแทนพระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับโอกาสจากการได้เข้าเรียนโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย แต่ก็เป็นการแสดงถึงความจงรักภักดี และดีใจที่ได้ทำเพื่อพ่อ



 





 



ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม 

ข่าวทั้งหมด

X