+++ความคืบหน้าพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมิน ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประชาชนเดินทางมาจำนวนมาก ต้องดูแลเรื่องการจัดแถว ที่พักคอย และอาหารให้เพียงพอ ถูกสุขลักษณะ ส่วนเรื่องสุขา จะมีการเพิ่มรถสุขาเคลื่อนที่ เพื่อให้เพียงพอกับประชาชน รวมถึงแพทย์ที่ดูแลประชาชนที่เจ็บป่วยในขณะรอ เช่น โรคทางเดินหายใจ ปวดหัว เหนื่อยล้า
+++ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยหลังเป็นประธานบรรยายพิเศษในงานศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์ ว่า วันที่ 26 ต.ค. นพ.ประสิทธิ์ และรศ.นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผอ.ร.พ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ขอเป็นสองมือที่เป็นตัวแทนของคนไทยกว่า60 ล้านคน ประคองพระบรมโกศในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช เสด็จสู่สวรรคาลัย เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งได้ฝึกซ้อมอย่างเต็มที่เพื่อหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้แล้ว ขณะที่กิจกรรมต่างๆ ของโรงพยาบาลศิริราช จากนี้ จะน้อมนำเอาคำสอนของในหลวงรัชกาลที่9 มาทำงานเพื่อคนไทยทุกคน จะคอยทยอยเสนอกิจกรรมต่างๆ เป็นระยะให้คนไทยยังคงนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์เสมอ
+++ก่อนหน้านี้ เพจเฟซบุ๊ก มเหนทรบรรพต เผยแพร่ภาพความคืบหน้าพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ โดยมีภาพ รศ.นพ.ประดิษฐ์ และ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ ฝึกซ้อมในตำแหน่งผู้ประคองพระบรมโกศ ทั้งนี้ ช่วงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ประทับรักษาพระอาการประชวรที่โรงพยาบาลศิริราช รศ.นพ.ประดิษฐ์ เป็นผู้ถวายงานเข็นพระเก้าอี้เลื่อนทุกครั้งที่เสด็จฯลงจากที่ประทับ โดย รศ.นพ.ประดิษฐ์ เข้าเฝ้าฯ ถวายงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 ในฐานะแพทย์เวรประจำ ทำหน้าที่ทีมถวายการรักษาพระหทัย
+++เช้านี้ มีการฝึกซ้อมริ้วขบวนพระราชอิสริยยศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ บริเวณกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ บางเขน ส่วนช่วงบ่าย เวลา 15.30 น. นายกฯ เป็นประธานการประชุมจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล
+++เรื่องเงินทอนวัด หลังจากที่เจ้าหน้าที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติ มิชอบ(บก.ปปป.) ลุยตรวจสอบคดีทุจริตเงินทอนวัด โดยล็อตแรก เป็นการทุจริตงบอุดหนุน บูรณปฏิสังขรณ์และพัฒนาวัด 12 วัด ตั้งแต่ ปี 2555-2559 มูลค่าความเสียหายประมาณ 60 ล้านบาท มีผู้ต้องหา 10 ราย ส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด ต่อมาตำรวจ ปปป. ขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านบุคคลต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัดล็อตที่ 2 รวม 14 จุด ใน 7 จังหวัด เพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงขบวนการ พบการทุจริตงบประมาณอุดหนุน 3 ประเภท จำนวน 23 วัด ตั้งแต่ปี 2555-2560 เสียหายประมาณ 140 ล้านบาท ผู้ต้องหา 19 ราย ส่งป.ป.ช.ดำเนินการ
+++พ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ รองผบก.ปปป. เปิดเผยว่า ทำสำนวนส่ง ป.ป.ช. ไป 21 สำนวนขาดอีก 2 สำนวน คือคดีของวัดราชสิทธารามราชวรวิหาร เนื่องจากพระวิสุทธิวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส 1 ในรายชื่อผู้ต้องหาได้ติดต่อขอรับทราบข้อกล่าวหา จึงเห็นควรถอนสำนวนออกมาเพื่อรอการสอบปากคำก่อน และเมื่อวันอังคาร พระวิสุทธิวัฒนกิจ ได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
+++กรณีที่มติครม. ให้พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ กลับไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา(พศ.)ตามเดิม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พ.ต.ท.พงศ์พร ถือว่าไม่เคยเป็นผู้ตรวจราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพราะรัฐบาลยังไม่ได้นำเรื่องนี้ขึ้นกราบบังคมทูล ส่วนนายมานัส ทารัตน์ใจ ที่ครม.เคยมีมติให้โยกย้ายจากอธิบดีกรมการศาสนาไปเป็น ผอ.พศ.นั้น ตอนนี้ไม่ต้องไปตำแหน่งใหม่แล้ว
+++ส่วนที่นายกฯสั่งให้พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี มาทำหน้าที่แทน นายออมสิน เรื่องนี้มีการหารือกันมาประมาณ 1 เดือน เป็นการอุดรอยรั่วเพราะงานของพศ. กับงานของกรมการศาสนา ควรไปด้วยกัน พล.อ.ธนะศักดิ์ ดูแลกรมการศาสนาอยู่แล้วกำกับพศ.ด้วย จึงทำให้มี 2 สถานะ และไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นเผือกร้อนเพราะทุกอย่างเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ
+++ด้านนายออมสิน กล่าวว่า ไม่คิดว่าเป็นปัญหาอยู่ตรงไหนก็ทำงานได้ ทุกคนตั้งใจทำงานตามวัตถุประสงค์เดียวกัน
+++ปัญหาร้องเรียนกับโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ใต้ร่มบารมี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้อธิบดีกรมวิชาการเกษตรและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อร้องเรียนทั้งหมด 14 จังหวัดอีกครั้ง และให้นำมารายงานภายในวันที่ 29 ก.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบยังไม่พบการทุจริตของโครงการและยังไม่พบเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับการทุจริต
+++นายสมชาย ชาญณรงค์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากการร้องเรียนทั้งหมด 14 จังหวัด ดำเนินการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว 6 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา อุตรดิตถ์ สงขลา และแม่ฮ่องสอน ไม่พบหลักฐานการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่และไม่พบข้อเท็จจริงตามที่ร้องเรียน ซึ่งทุกโครงการผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการทั้งระดับชุมชนและระดับอำเภอ รวม 22 ชุมชน และทุกขั้นตอนทำตามคู่มือของกระทรวง
+++สำหรับจังหวัดที่ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบมีทั้งสิ้น 8 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง แพร่ กาญจนบุรี สระแก้ว เชียงราย สุพรรณบุรี สตูล พระนครศรีอยุธยา และลำปาง โดยจังหวัดที่มีปัญหาคือ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เสนอโครงการส่งเสริมการใช้สารชีวภัณฑ์ หรือผลิตภัณฑ์ป้องกันกำจัดศัตรูพืช ซึ่งมีการจัดซื้อเครื่องพ่นยามาในราคา 13,000 บาท ซึ่งชุมชนมองว่าเป็นราคาที่แพงกว่าตลาดอยู่ที่ 6,000 บาท ทำให้เกษตรกรในชุมชนไม่ยอมรับ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางภาครัฐต้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
แฟ้มภาพ