*โผครม.คสช./ข้าวเน่า3ล้านต้น/ยกเลิกกฎอัยการศึกหนุนท่องเที่ยว/โชว์เหรียญ10ปี 33*

13 สิงหาคม 2557, 08:16น.


*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.



+++การดูแลความปลอดภัยของครูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์สมาคมครูภาคใต้ เปิดเผยว่า ในทุกเดือนองค์กรครู และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จะประชุมร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อหารือถึงการดูแลความปลอดภัยของครู ซึ่งต้องชื่นชมว่าทหารให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นพิเศษ แม้ช่วงนี้ จะไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงกับครู แต่ฝ่ายความมั่นคงก็ห่วงใยครู เพราะครูเป็นเป้าหมายอ่อนแอที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ขอให้หน่วยงานของรัฐดูแลการเยียวยาครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้รายละ 4 ล้านบาท ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) สมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้วย เพราะจนบัดนี้ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เสียชีวิตในพื้นที่ดังกล่าวยังไม่ได้รับเงินเยียวยาดังกล่าวเลย



+++การเลือกนายกรัฐมนตรี  คาดว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะมีการเปิดประชุม สนช.เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ก่อนแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.) คาดว่าน่าจะเข้าบริหารประเทศได้ในต้นเดือน ก.ย.นี้ตามโรดแม็ป คสช.ระยะที่ 2สำหรับตำแหน่งนายกฯ ชัดเจนว่าสมาชิกสนช.ส่วนใหญ่จะสนับสนุนและเสนอชื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯคนที่ 29 ของประเทศไทย



+++ส่วนหน้าตาของครม.ชุดใหม่นั้น มีรายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากนี้นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ถูกวางตัวให้มาเป็นรมว.พลังงาน ภายใต้การสนับสนุนของม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญด้านพลังงาน โดยคาดว่านายณรงค์ชัยจะยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อมารับตำแหน่ง  ขณะที่นายพรชัย รุจิประภา ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าจะเข้ามารับตำแหน่งรมว.พลังงานนั้น จะถูกย้ายไปรับตำแหน่งรมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที)แทน   ส่วนพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผช.ผบ.ทบ. ในฐานะรองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ เดิมมีชื่อเป็นรมว.พลังงานเช่นกัน คาดว่าจะถูกโยกมานั่งรมว.พาณิชย์ หรือรมว.เกษตรและสหกรณ์



+++นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ถูกเสนอชื่อให้มาดำรงตำแหน่งรมว.ต่างประเทศ เพราะผลงานที่โดดเด่นในการแก้ปัญหาหรือมีการตอบโต้และชี้แจงการเข้าบริหารประเทศของคสช. ต่อสื่อมวลชน และทูตประเทศต่างๆ ประจำประเทศไทย ทำให้สถานการณ์ท่าทีของต่างประเทศที่มีต่อประเทศไทยเบาลง อกจากนี้ยังมีชื่อ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ นายแบงก์ใหญ่ อดีตกก.ผจก.ใหญ่ธนาคารกรุงไทย ซึ่งปัจจุบันเป็นกรรมการธนาคารไทยพาณิชย์ จะมานั่งเป็นรมว.คลัง



+++การตรวจสอบข้าวในโกดังรัฐ     นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมอนุกรรมการฯ ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตั้งขึ้นมาใหม่เป็นครั้งแรก โดยจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาติดตามข้อมูลการตรวจสต๊อกข้าวของ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อนำมาใช้ปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวที่ใช้เงินไป 8-9 แสนล้านบาท ในช่วงประมาณ 2 ปี ที่ผ่านมาแต่จะถึง ตามที่นักวิชาการประเมินไว้ที่สูงกว่า 5 แสนล้านบาทหรือไม่นั้น ยังคงไม่สามารถบอกได้ เนื่องจากต้องรอข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ล่าสุดมาคำนวณอีกครั้ง



+++แหล่งข่าวจาก คณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว กล่าวว่า จากการการตรวจสอบข้าวในสต็อกของรัฐบาล จากโครงการรับจำนำทั้งหมด 18 ล้านตัน หลังจากที่ได้ตรวจสอบโกดัง ร้อยละ 90  ของข้าวทั้งหมด คณะทำงานได้ประเมินข้าวที่มีมาตรฐานต่ำกว่าเกณฑ์ และเสื่อมคุณภาพแล้วประมาณ 3 ล้านตัน ซึ่งในส่วนของข้าวที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานก็ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการระบายข้าว โดยต้องยอมรับว่าข้าวดังกล่าวคงต้องขายในราคาต่ำ เพราะผู้ชนะประมูลต้องมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการปรับปรุงคุณภาพข้าว และอื่นๆ เฉลี่ย 2,500 – 3,000 บาทต่อตัน ทั้งนี้ตลาดที่สนใจข้าวประเภทนี้จะเป็นตลาดแอฟริกา



+++ส่วนข้าวที่เสื่อมคุณภาพนั้นอาจไม่สามารถที่จะระบายได้ทันที แม้ว่าจะมีหลายหน่วยงานมีความสนใจที่จะซื้อข้าวประเภทนี้ เช่น ปตท. และ บางจาก ที่จะนำไปเป็นส่วนผลิตเอทานอล เพราะคงต้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และเจ้าของโกดัง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายก่อน



สำหรับ  ต้นทุนข้าวสารในโครงการรับจำนำข้าวเฉลี่ยอยู่ที่ 2.7-2.8 หมื่นบาท/ตันหากมีการนำข้าวเสื่อมสภาพไปประมูลขาย เอกชนน่าจะเสนอราคาต่ำกว่าราคาตลาด เพราะหากนำข้าวไปปรับปรุงเพื่อให้บริโภคได้จะมีต้นทุนค่าปรับปรุงสภาพข้าว 3,000 บาท/ตัน ดังนั้น หากขายข้าวเสื่อมสภาพ 3 ล้านตัน จะทำให้รัฐเสียหาย 5.1 หมื่นล้านบาท



+++เปิดตลาดหุ้นวันแรก  นักลงทุน รอสัญญาณดี หลังมีสภานิติบัญญัติ แห่งชาติ (สนช.) จะส่งผลให้การตั้งรัฐบาล เฉพาะกาลจะเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจยกเลิกกฎอัยการศึกเร็วที่สุดในช่วงกลางเดือนส.ค.นี้ ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของ นักลงทุนต่างชาติที่จะเข้าลงทุนในตลาดทุนไทยมากขึ้น ที่ผ่านมาเงินทุนต่างชาติเรียกได้ว่าแทบไม่ไหลเข้าประเทศไทยเลย แม้ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาจะมีเงินทุนต่างชาติเข้ามา 10,000-20,000 ล้านบาท แต่หากเทียบกับช่วงที่ต่างชาติขายในช่วงปี 2556 ประมาณ 250,000 ล้านบาท ถือว่าเงินทุนต่างชาติยังไม่กลับเข้าไทย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักลงทุนสถาบันต่างประเทศที่มีกฎระเบียบว่าจะไม่ลงทุนในประเทศที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก



+++นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร นายกสมาคม โรงแรมไทย(ทีเอชเอ) กล่าวว่า แม้ว่าภาพลักษณ์ ของไทยจะดีขึ้น ต่างชาติที่เป็นคู่ค้าเข้าใจสถานการณ์ในไทยมากขึ้นแต่อุปสรรคสำคัญที่ทำให้นักธุรกิจยังไม่สามารถเดินหน้า ทำแผนตลาดได้เต็มที่ การที่ไทยยังอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก มีผลโดยตรงในแง่กฎหมายทำให้รัฐบาลประเทศต่างๆ ราว 40 ประเทศ ยังประกาศเตือนการเดินทางมาไทย ส่งผลให้บริษัทประกันภัยไม่สามารถให้ความคุ้มครองนักท่องเที่ยวที่จะมาเดินทางเข้าไทยได้



+++โดยเฉพาะในเดือนนี้ นักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายหลัก โดยเฉพาะจากยุโรปต้องตัดสินใจจองแพ็คเกจทัวร์หรือที่พักโรงแรมล่วงหน้าแล้ว แต่หากยังไม่มีการยกเลิกกฎอัยการศึก อาจทำให้นักท่องเที่ยวต้องปรับเส้นทางไปที่อื่นแทนไทย  "การจะคงหรือยกเลิกกฎอัยการศึกต้องรีบตัดสินใจ  หากยังต้องการฟื้นฟูบรรยากาศให้ทันไฮซีซัน เพราะหากไปยกเลิกในเดือน พ.ย.-ธ.ค.คงจะไม่ทัน เนื่องจากนักท่องเที่ยวต้องวางแผนการเดินทางล่วงหน้า คาดว่า ปีนี้อัตราเข้าพักเฉลี่ยทั่วประเทศน่าจะอยู่ราว 50%  แม้ว่าในช่วงไฮซีซัน3 เดือนสุดท้ายปีนี้ อัตราเข้าพักอาจกระเตื้องขึ้นมาอยู่ที่ 70-80% แต่ก็ผลักดันได้เฉพาะเชิงปริมาณเท่านั้น ส่วนราคาห้องพักเฉลี่ยปีนี้จะลดลงอย่างมาก 



+++นายโทนี่ เฟอร์นานเดส  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย กล่าวว่า ไทยควรจะยกเลิกกฎอัยการศึกให้เร็วที่สุด  เพราะมีผลโดยตรงต่อการประกันภัยด้านเดินทางของต่างชาติที่ไม่ครอบคลุม  หากปลดล็อกได้ เชื่อมั่นว่าการท่องเที่ยวไทยมีโอกาสฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว



+++ แอปเปิลจะเปิดตัวและวางจำหน่าย ไอโฟน 6 ทั่วโลก ในเดือนกันยายนนั้น ล่าสุด นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้โพสต์ทวิตเตอร์ผ่าน @TakornNBTC: ว่า สำนักงาน กสทช. ผ่านรับรองมาตรฐานไอโฟน 6 เพื่ออนุญาตให้จำหน่ายในไทยแล้ว ทำให้ สาวก ไอโฟนในไทย มั่นใจว่า แอปเปิ้ลจะเปิดขายในประเทศไทย เป็น 1 ในประเทศวางขายกลุ่มแรก พร้อม ๆกับสหรัฐ ที่แอปเปิ้ลจะเปิดตัวในวันที่ 9 กันยายน คาดว่าจะเริ่มวางในประเทศกลุ่มแรก 19 ก.ย.



+++หลังประกาศรับซื้อเหรียญ 10 บาท ที่ผลิตปี 2533 ในราคา 100,000 บาท ล่าสุด ร้านประกาศยุติการรับซื้อเหรียญ 10 บาทปี 2533 แล้ว นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า จากรายงานที่กรมธนารักษ์ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด เป็นไปตามที่เคยชี้แจงก่อนหน้านี้คือในปี 2533 กรมฯเข้าร่วมการประชุม มิ้น ไดเรคเตอร์ คอนเฟอเรนซ์ ครั้งที่ 16 ที่ประเทศอังกฤษ จึงผลิตเหรียญกษาปณ์ชนิดราคา 10 บาทขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบเป็นที่ระลึกแก่ผู้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวทุกส่วนจะเป็นจำนวน 100 เหรียญหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง



นอกจากนั้น ปี 2533 กรมธนารักษ์สั่งซื้อเหรียญตัวเปล่า 10 บาท จาก บริษัท โอลิบัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในจำนวน 50 ล้านเหรียญ เพื่อนำมาตีตราเป็นเหรียญสำเร็จรูป แต่พบเหรียญ 10 บาทที่สั่งซื้อนำเข้ามาในปี 2532 ประชาชนไม่นิยมแลกไปใช้ เพราะยังมีธนบัตรราคา 10 บาทใช้อยู่ กรมฯจึงไม่ได้ผลิตเหรียญชนิดราคา 10 บาทเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศในปี 2533 ขณะนี้ให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่อง เหรียญ ตรวจสอบว่ามีเหรียญ 10 บาทปี 2533 อยู่กี่เหรียญและตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่แจ้งมาแล้วว่ามีอยู่จำนวนหนึ่ง ทางกรมธนารักษ์จะนำออกแสดงให้ประชาชนได้เห็นกัน



+++ด้านนายอรรณพ แก้วปทุมทิพย์ สถาปนิกและนักสะสมเหรียญ หนึ่งในผู้ถือครองเหรียญ 10 บาท สองสี พ.ศ. 2533 เปิดเผย จนประมาณปี 2543 มีพ่อค้าหยิบเหรียญ 10 บาท ปี 2533 ให้ดูและเล่าข้อมูลให้ฟัง ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า ถ้าเอาเหรียญนี้ไปก็จะถ่ายทอดข้อมูลได้โดยไม่ต้องไปจากที่อื่น ตนเลยตัดใจซื้อมา ซึ่งช่วงนั้นราคาที่ซื้อมาก็เป็นหลักแสนแล้วประเมินว่า ถ้าเอาไปแล้วแจกสักครึ่งหนึ่ง หรืออาจแจกให้ ผู้ติดตามก็น่าจะร่วมร้อย เชื่อว่าน่าจะเหลือ กลับมาเมืองไทย หรืออยู่ในเมืองไทยประมาณ 30 เหรียญ น่าจะวนเวียนอยู่แถวนี้ไม่มากนัก แม้ว่าการปลอมเหรียญในช่วงนั้น จะทำได้ไม่เหมือน และมองออกว่า เป็นเหรียญจริงหรือปลอม จุดที่นักสะสมกังวลคือจุดเลขปีพ.ศ.ผลิต ซึ่งอาจมีการตัดหางเลข 7 (๗) แบบไทยให้กลายเป็นเลข 3 (๓) ข้อเท็จจริงคือหัวของเลข ๓ กับเลข ๗ แบบที่ถูกตัดหางไปก็แตกต่างกันอยู่ดี แม้ว่าจะตัดหางได้เนียนแค่ไหน 

ข่าวทั้งหมด

X