ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาลับหลังจำเลยในคดีปล่อยปละเลยให้มีการทุจริต โครงการรับจำนำข้าว ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยศาลได้พิพากษาเห็นว่าตามพฤติการณ์ของจำเลยแสดงให้เห็นว่าจำเลยทราบว่าสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่ไม่ระงับยับยั้งปล่อยให้มีการส่งมอบข้าวตามสัญญาให้รัฐวิสาหกิจจีน ต่อไปอีก เป็นการแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับผู้อื่น การกระทำของจำเลยจึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เดิม และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ.2542 ม.123/1 ให้ลงโทษจำคุก 5 ปีโดยไม่รอลงอาญา และออกหมายจับให้มารับโทษตามกฎหมาย
ส่วนความเสียหายหลายประการเช่นการสวมสิทธิ์การรับจำนำข้าวการนำข้าว จากต่างประเทศมาสวมสิทธิ์ ข้าวสูญหายการออกใบประทวนอันเป็นเท็จ การใช้เอกสารปลอมการโกงความชื้นและน้ำหนักเพื่อกดราคารับซื้อข้าวชาวนา ข้าวสูญหายจากโกดัง ข้าวเสื่อมสภาพข้าวเน่า เป็นความผิดที่เกิดจากฝ่ายปฏิบัติ จำเลยในฐานะประธานกคสชได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการป้องกันความเสียหายไวตั้งแต่ตอนเริ่มโครงการ อีกครั้งเมื่อพบความเสียหายดังกล่าวในขณะดำเนินโครงการก็ได้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเป็นระยะ เพื่อป้องกันความเสียหายแล้ว กรณีความเสียหายในส่วนนี้ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตหรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ
ด้านนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง พร้อมทีมทนายความนางสาวยิ่งลักษณ์ เปิดเผยภายหลังศาลมีคำพิพากษาว่า จะต้องดูคำพิพากษาฉบับเต็มก่อนว่าจะมีแนวทางอย่างไรในการดำเนินการต่อไป ส่วนการอุทธรณ์ก็จะต้องดูในรายละเอียดข้อกฏหมายว่าจะสามารถทำอย่างไรได้บ้าง ส่วนในการติดต่อแจ้งผลการพิจารณาคดี ก็คาดว่านางสาวยิ่งลักษณ์ จะฟังจากสื่อมวลชนอยู่แล้วเนื่องจากก็ไม่สามารถติดต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ได้
ขณะที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ก็ไม่ได้ติดต่อมาตั้งแต่วันที่หายตัวไปเล่นเดียวกัน ซึ่งในฐานะทนายก็ทำเต็มที่แล้วอย่างไรก็ตามในการพิจารณาในวันนี้ศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษา กว่า 4 ชั่วโมง โดยได้เริ่มอ่านคำพิพากษาตั้งแต่เวลา 11.20 น. - เวลาประมาน 15.00 น.
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี
แฟ้มภาพ