คลังเรียกร้องกนง.ลดดอกเบี้ยนโยบาย/หนี้สถาบันการเงินเพิ่มสูง

25 กันยายน 2560, 08:17น.


ในวันที่ 27 กันยายนนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาการทำนโยบายการเงิน ขณะที่ภาคธุรกิจและกระทรวงการคลังเรียกร้องให้ กนง.ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและลดแรงกดดันจากเงินทุนไหลเข้า แต่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ เชื่อว่า กนง.จะตัดสินใจคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.5 เช่นเดิม เพราะอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีทิศทางสูงขึ้น และช่วงครึ่งหลังของปีหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL โดยเฉพาะในธุรกิจขนาดเล็กที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ จีดีพีที่ปรับลดลงอาจไม่ได้สะท้อนกระบวนการลดภาระหนี้ (deleveraging) ที่แท้จริง



นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รายงานตัวเลขยอดสินเชื่อคงค้างในระบบของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ณ พฤษภาคม 2560 มียอดรวม 4 ล้าน 9 แสน 7 หมื่นล้านบาท ส่วนยอดเอ็นพีแอล เฉพาะสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่รับเงินฝาก 8 แห่ง อยู่ที่ 2 แสน 4 หมื่น 6 พันล้านบาท ในจำนวนนี้มีเอ็นพีแอลที่เกิดใหม่ประมาณ 35,000 ล้านบาท และกลุ่มที่ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้แล้วกลับมาเป็นเอ็นพีแอลอีก 1 แสน 5 หมื่น 4 พันล้านบาท  โดยเอ็นพีแอลส่วนใหญ่เกิดจากการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล



ในเดือนนี้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. จะเสนอให้คณะกรรมการธนาคารอนุมัติขายหนี้เอ็นพีแอล 6,900 ล้านบาท จากยอดทั้งหมด 9,6 00 ล้านบาท ให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) ไปบริหาร ซึ่งจะทำให้สิ้นปี 2560 ยอดเอ็นพีแอลของธนาคารปรับลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 4.86 จากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 5.34



ในสัปดาห์นี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จะประชุมเพื่อสรุปแนวทางการจ่ายเงินผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย โดยจะเปิดทางให้ผู้สูงอายุที่มีฐานะดีบริจาคเงินเข้ากองทุนผู้สูงอายุ เพื่อมาปันจ่ายเพิ่มเติมให้กับผู้ที่มีรายได้น้อย จากนั้นจะเสนอให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีคลังเห็นชอบคาดว่าจะเริ่มบริจาคได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้



ส่วนการยุติธรรม ยังต้องติดตามวันที่ 27 กันยายน จะทราบผลคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีรับจำนำข้าว ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นจำเลย ซึ่งประเมินว่าน่าจะเป็นการอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย เพราะตำรวจไม่สามารถคุมตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์มาส่งศาลฎีกาฯ ตามหมายจับที่ออกไปเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม นอกจากนี้ยังต้องติดตามการสืบสวนสอบสวนเจ้าหน้าที่รัฐ ตำรวจ ที่ช่วยเหลือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนี และหมายจับจะมีผลเริ่มตั้งแต่วันที่ศาลออกหมายจับ จนถึงวันที่ 27 กันยายนซึ่งเป็นวันที่ศาลนัดอ่านคำพิพากษาลับหลัง ถ้าหลังจากวันที่ 27 กันยายน ศาลพิพากษาลงโทษ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ศาลก็จะออกหมายจับฉบับใหม่ ซึ่งเป็นหมายจับที่ให้นำตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์จำเลยมาลงโทษตามคำพิพากษาของศาล แต่ถ้ายกฟ้องหมายจับที่เคยออกไว้เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ที่ให้นำตัวมาฟังคำพิพากษาก็จะถูกยกเลิกไป



ส่วนโครงการจัดซื้อรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ 7 ขบวน วงเงินราว 4 พันล้านบาท นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการแทนผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่ายังไม่สามารถเสนอให้บอร์ดพิจารณาได้ เพราะต้องรอให้ผลการศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินคือ สนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และสนามบินอู่ตะเภา แล้วเสร็จก่อน จึงจะมีการตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่



ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก วันนี้ศาลนัดตรวจหลักฐานคดีอัยการฟ้องนายไซซะนะ แก้วพิมพาและเครือข่ายฐานร่วมกันสมคบลักลอบนำยาบ้า 2,381,400 เม็ด จาก สปป.ลาว เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อส่งให้เอเย่นต์ทางภาคใต้ และประเทศมาเลเซีย



และศาลนัดตรวจหลักฐานคดีอัยการฟ้อง นายสวัสดิ์ แสงบางปลา อดีตประธานดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ ฉ้อโกงด้วยการชักชวนให้ลงทุนสลากกินแบ่งรัฐบาล มูลค่าความเสียหายมากกว่า 183 ล้านบาท



ที่ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ ศาลนัดอ่านคำพิพากษา ในคดีที่นายสมชัย สุวรรณบรรณ กับพวกรวม 6 คน เป็นโจทก์ฟ้ององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย กับพวกรวม  3 คน ในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง ฟ้องว่ามติเลิกจ้างผู้ฟ้องคดีไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้ชดใช้ค่าเสียหาย



ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ส่วนผู้ประกอบการเคเบิ้ลที่ได้รับความเสียหายจากการเข้าร่วมโครงข่ายกับ CTH จะร่วมกันยื่นขอความเป็นธรรมในความเสียหายที่เกิดขึ้น



และที่สำนักงาน ปปง. สะพานหัวช้าง นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) จะไปยื่นเรื่องให้ดำเนินคดีตามกฎหมายฐานฟอกเงิน กับผู้กระทำความผิดอีกกว่า 140 ราย โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ เพื่อนำเงินที่เสียหายกลับคืนแผ่นดิน



..



 

ข่าวทั้งหมด

X