หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพบบุคคลที่ให้การช่วยเหลือพานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลบหนีการฟังคำพิพากษาในคดีจำนำข้าว เป็นนายตำรวจ3นาย
ล่าสุดพลตำรวจตรีมงคล วรุณโณ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 มีคำสั่งให้พันตำรวจเอกชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล5 ช่วยราชการ ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจนครบาล5 กองบังคับการตำรวจนครบาล5 หลังมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า แคมรี่ ที่ตำรวจตรวจยึดได้ พร้อมมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ถึงกรณีดังกล่าว โดยตั้งให้ พันตำรวจเอก เกียรติพงษ์ นาลา รอง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล5 เป็นประธานการสอบสวน หากพบมีมูลความผิดให้รายงานกลับมาให้ทราบโดยเร็ว
ด้านพลตำรวจตรีอิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม มีคำสั่งให้พันตำรวจโทสามิตร ไชยอิ่นคำ สารวัตรกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดนครปฐม และดาบตำรวจพรพิพัฒน์ มากบุญงาม ผู้บังคับหมู่ ฝ่ายอำนวยการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ไปปฏิบัติราชการที่ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด้วย
จากการสอบปากคำตำรวจทั้ง3นาย พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังมีการสอบปากคำอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวานนี้พร้อมเรียกไฟแนนซ์ที่มีชื่อเป็นผู้ครอบครองตัวถังและคัชซีรถยนต์ แคมรี่ มาสอบปากคำด้วย เบื้องต้นพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวผู้ครอบครองเครื่องยนต์เป็นหญิงสาว มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยจะมีการติดตามจับกุมตัว เนื่องจากยังพบว่ามีประวัติถูกศาลออกกมายจับในคดีฉ้อโกงอีก 5หมาย
มีรายงานจากชุดสอบสวนว่า เมื่อวันที่23 สิงหาคม 2560 นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้สวมหมวกสีดำใช้หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า พร้อมเลขาส่วนตัว นั่งรถยนต์เมอสิเดสเบนซ์ ออกจากบ้านพัก หลังนัดพบกับ พันตำรวจเอกชัยฤทธิ์ ที่ขับรถยนต์ โตโยต้า อัลติส ตราโล่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มารอพบที่บริเวณ ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาวัชรพล ใช้เวลาเพียงเล็กน้อย ก่อนรถทั้งสองคันก็ได้มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านชัยพฤกษ์ บริเวณใกล้เคียงกัน ก่อนที่รถทั้งสองคันจะหายเข้าไปภายในบ้านพัก ของพันตำรวจเอกชัยฤทธิ์
ต่อมาพบว่านางสาวยิ่งลักษณ์ พร้อมเลขาส่วนตัวและพลตำรวจเอกชัยฤทธิ์ ได้ขับรถยนต์โตโยต้าแคมรี่ที่ตรวจยึดได้ที่จังหวัดนครปฐม ออกจากหมู่บ้าน มุ่งหน้าไปทาง มีนบุรี ก่อนใช้ถนนสุวินทวงศ์ มุ่งหน้าไปจังหวัดฉะเชิงเทรา พนมสารคาม เขาหินซ้อน ก่อนถึงอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ในเวลาประมาณ22.00น. จากนั้นรถคันดังกล่าวได้ไปจอดในที่มืดใกล้เคียงสถานีรถไฟอรัญประเทศ โดยมีรถกระบะสีทึบสี่ประตูเปิดฉุกเฉินรอ ก่อนที่จะมีชายรูปร่างสูงใหญ่ลงจากรถมาพูดคุยกับคนภายในรถยนต์แคมรี่
จากนั้นนำตัวนางสาวยิ่งลักษณ์ พร้อมเลขา ขึ้นรถกระบะ ออกจากจุดนัดพบไป ต่อมาพันตำรวจเอกชัยฤทธิ์ ก็ขับรถยนต์แคมรี่กลับกรุงเทพมหานคร จนกระทั่งวันที่ 28สิงหาคม 2560 พันตำรวจเอกชัยฤทธิ์ ได้ขับรถยนต์แคมรี่ ไปให้ดาบตำรวจพรพิพัฒน์ มากบุญงาม ที่จังหวัดนครปฐม เพื่อทำลายทิ้ง ซึ่งดาบตำรวจพรพิพัฒน์ ได้นำรถยนต์คันดังกล่าวไปฝากไว้ให้กับ พันตำรวจโทสามิตร ไชยอิ่นคำ เพื่อทำลายทิ้ง เนื่องจากทั้งสามคนมีความสนิทสนมในฐานะเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนพลตำรวจและผู้ใต้บังคับบัญชาที่เคยร่วมงามกันสมัยสังกัดอยู่ที่กองบังคับการปราบปราม
นอกจากนี้ การสอบสวนยังพบว่า ตำรวจทั้ง3นายมีความเชื่อมโยงกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ยศระดับ พลตำรวจเอก อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว และยังมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีมากกว่า10คนที่ร่วมขบวนการช่วยเหลือการหลบหนีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ยืนยันว่าภายหลังที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษา รับหลังจำเลย ในวันที่ 27กันยายน 2560 จะมีปฏิบัติการครั้งยิ่งใหญ่ด้วย