2ใน 19 เจ้าหน้าที่พศ.รับทราบข้อกล่าวหาทุจริตเงินทอนวัด ส่งต่อปปช.ชี้มูลความผิด -ฟ้องศาล

22 กันยายน 2560, 15:56น.


หลังเจ้าหน้าที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) .นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านบุคคลต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัดล็อตที่ 2 รวม 14 จุด ใน 7 จังหวัด เพื่อหาหลักฐานเชื่อมและพบว่าเป็นการทุจริตงบประมาสอุดหนุน 3 ประเภท คือ 1.อุดหนุนบูรณะปฎิสังขรณ์วัดและพัฒนาวัด 2.อุดหนุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และ 3.อุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา-แผนกธรรม-แผนกบาลี จำนวน 23 วัด ตั้งแต่ปี 55-60 ความเสียหายประมาณ 141 ล้านบาท จนมีหลักฐานความผิดถึงตัวผู้ต้องหาจำนวน 19 ราย และกำลังออกหมายเรียกและหมายจับ ล่าสุด  นายฉัตรชัย ชูเชื้อ ผอ.กองพุทธศาสนสถาน พศ. และนายพยงค์ สีเหลือง นายช่างโยธา ชำนาญงาน พศ.เดินทางมารับทราบข้อกล่าว โดย พ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ รอง ผบก.ปปป. ดำเนินการให้พนักงานสอบสอบสวนแยกตัวกันสอบปากคำ ซึ่งสื่อมวลชนไม่สามารถเข้าไปถ่ายภาพได้ซึ่ง นายฉัตรชัย ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนโดยมีฉากกั้นปิดหน้าระบุว่า ตนขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ข้าราชการ พระชั้นผู้ใหญ่ ในการทุจริต และที่ผ่านมาตั้งแต่รับตำแหน่ง ตนพยายามที่จะปรับเปลี่ยนระบบขององค์กรให้โปร่งใสที่สุด



ด้าน พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เปิดเผยภายหลังเข้าไปสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง2คนว่า เบื้องต้น ทั้งนายฉัตรชัย และนายพยงค์ ต่างให้การปฏิเสธว่ามีส่วนรู้เห็นในกระบวนการให้เงินงบประมาณวัด และเรียกรับเงินกลับคืน แต่เจ้าหน้าที่มั่นใจในพยานหลักฐานที่ได้รวบรวมมา โดยพนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งสอง คือมาตรา 147 มาตรา 157  ดังนั้นจากผู้ต้องทั้งหมด 19 คน เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 5 คน ส่วนที่เหลืออีก 14 คน ซึ่งเป็นพระ 4 รูปอย่างไรก็ตามจะพยายามให้เจ้าหน้าที่ทำสำนวนส่งทาง ปปช.ภายในวันที่ 26 ก.ย.นี้ เพื่อให้ปปช.ชี้มูลความผิด และส่งฟ้องศาล เพื่อออกหมายเรียกและหมายจับตามขั้นตอนได้ ด้านพระ 4 รูปนั้น เท่าที่ทราบยังอยู่ในประเทศไทย ทาง บก.ปปป.ก็ต้องดำเนินการตามหลักฐาน ซึ่งไม่รู้สึกลำบากใจ หากทางพระที่มีลูกศิษย์จำนวนมาก เพราะเป็นไปตามพยานหลักฐาน ส่วนการดำเนินการในคดีเงินทอนวัดครั้งนี้จบ ไม่ได้หมายความว่าจะมีผู้ต้องหาแค่นี้ หลังจากนี้จะมีการสอบสวน และขยายผลเพิ่มตามพยานหลักฐาน ส่วนทรัพย์สินที่อายัดไว้ได้ส่งให้สำนักงาน ปปง.ดำเนินการตรวจสอบ หากเกี่ยวข้องกับคดีก็ให้ดำเนินข้อหาตาม พ.ร.บ.ฟอกเงินตามขั้นตอนต่อไป



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายชื่อ 19 คน  เป็นข้าราชการ 13 คน พระ 4 รูป และประชาชนไม่ใช่ข้าราชการอีก 2 คน ประกอบด้วย



1.นายพนม ศรศิลป์ อดีต ผอ.พศ.



2.นายณรงค์เดช ชัยเนตร ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) สิงห์บุรี



3.นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี นักวิชาการ พศ.



4.นายบุญเลิศ โสภา อดีต ผอ.กองพุทธศาสนศึกษา เป็นผู้อำนวยการสำนักงาน พระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ลำปาง



5.นางพรเพ็ญ กิตติธรางกูร ผอ.กลุ่มการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ พศ.



6.นายฉัตรชัย ชูเชื้อ ผอ.กองพุทธศาสนสถาน พศ.



7.นายพยงค์ สีเหลือง นายช่างโยธา ชำนาญงาน พศ.



8.นายวิโรจน์ อุ่นทรัพย์ ผู้ตรวจ ราชการ พศ.



9.นายแก้ว ชิดตะขบ ผอ.การสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดสมุทรสงคราม



10.นายไพฑูรย์ กรรณโม (ไม่ทราบตำแหน่ง )



ส่วนผู้ต้องหาอีก 5 คน เคยตกเป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริตเงินทอนวัดล็อตแรก และมีชื่อในล็อตที่สองด้วย คือ



11.นายนพรัตน์ เบญจวัฒนะ อดีต ผอ.พศ.(ปัจจุบันหนีไปต่างประเทศ)



12.นายวสวัสดิ์ กิตติธีระสิทธิ์ ผอ.ส่วนบูรณะพัฒนาวัดและการศาสนสงเคราะห์ พศ.



13.นางประนอม คงพิกุล รอง ผอ.พศ.



14.นางณัฐฐาวดี ตันตยาวิสาส นักวิชาการ พศ.



15.นายศิวโรจน์ ปิยรัตน์เสรี (ไม่ใช่ข้าราชการ)



ส่วนอีก 4 ราย เป็นพระ ทางเจ้าหน้าที่ฯ ยังไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ



 

ข่าวทั้งหมด

X