+++สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯและประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้ ย้ำจุดยืนร่วมกันเรื่องการกดดันเกาหลีเหนือให้มากขึ้น ผู้นำทั้งสามคนจะประชุมกันในนครนิวยอร์ก สหรัฐฯในวันนี้ นอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่ของสหประชาชาติ(ยูเอ็น) นับเป็นการประชุมสุดยอดแบบไตรภาคีเป็นครั้งแรก นายอาเบะหวังจะกระชับความเป็นพันธมิตรของประเทศทั้งสามให้แน่นแฟ้นมากขึ้นหลังเกาหลีเหนือปล่อยขีปนาวุธข้ามน่านฟ้าของญี่ปุ่นมาแล้ว 2 ครั้งโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า และทดสอบนิวเคลียร์ล่าสุดคือครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 3 กันยายน นอกจากนี้นายอาเบะจะแยกมาประชุมสองฝ่ายกับนายทรัมป์ เพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะเรื่องวิธีการในการจัดการกับพฤติกรรมในเชิงยั่วยุทางทหารของเกาหลีเหนือต่อไป
+++สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสตอกโฮล์ม หรือ เอสไอพีอาร์ไอ กล่าวว่า การพัฒนาในโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงทางการเมืองระหว่างประเทศ และส่งผลกระทบร้ายแรงเป็นลูกโซ่ สหรัฐฯ รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน อินเดีย ปากีสถาน อิสราเอล และเกาหลีเหนือ รวมกันมีหัวรบนิวเคลียร์ประมาณ 14,935 ลูก ลดลงจาก 15,395 ลูกในปีก่อนหน้า แต่ดูเหมือนยังมี 4 ประเทศ ที่กำลังขยายจำนวนหัวรบนิวเคลียร์ในครอบครอง ประกอบด้วย จีน อินเดีย เกาหลีเหนือ และปากีสถาน
+++ไปที่ฟิลิปปินส์ นายเปาโล ดูเตอร์เต วัย 42 ปี รองนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา ทางภาคใต้ และบุตรชายคนโตของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ เข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมการของวุฒิสภา ในกรุงมะนิลา เพื่อปฏิเสธข้อกล่าวหาจากสมาชิกสภาคองเกรสรายหนึ่ง ซึ่งระบุว่านายเปาโลเป็นสมาชิกแก๊งอาชญากรรมชาวจีน ที่ช่วยลักลอบนำเข้ายาไอซ์จำนวนมหาศาลจากประเทศจีน ประธานาธิบดีดูเตอร์เต ไม่ได้เอ่ยถึงข้อกล่าวหาโดยตรง แต่กล่าวย้ำคำประกาศของเขา ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้วว่า ไม่มีลูกคนใดของเขาเกี่ยวพันกับยาเสพติด แต่ถ้าหากยุ่งเกี่ยวก็จะถูกลงโทษสถานหนักสุด และจะสั่งตำรวจยิงทิ้งลูกชายคนโตของตัวเองทันที หากเกี่ยวพันกับแก๊งค้ายาเสพติดจริงตามที่ถูกกล่าวหา และจะปกป้องตำรวจมือยิงไม่ให้ถูกดำเนินคดี
+++การติดตามจับกุมคนร้ายที่วางระเบิดรถไฟใต้ดินที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ บีบีซี รายงานอ้างนายดีน เฮย์ดอน หัวหน้าหน่วยปราบปรามก่อการร้าย สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลกรุงลอนดอน อังกฤษว่า ตำรวจได้จับกุมวัยรุ่นชายวัย 17 ปีคนหนึ่งในเมืองทอร์นตันฮีธ ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน เพื่อสอบสวนภายใต้กฏหมายปราบปรามก่อการร้าย ส่งผลให้ขณะนี้มีผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมเพื่อสอบสวนแล้วรวม 6 คน ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจค้นบ้านต้องสงสัยเพิ่มเติมอีกราว 5 จุด
+++องค์การการค้าโลก คาดการณ์การเติบโตของการค้าโลกในปีนี้ที่ร้อยละ 2.4 ปรับขึ้นเป็นร้อยละ 3.6 เนื่องจากการค้าฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยตัวเลขใหม่แสดงให้เห็นถึงสภาวะการณ์ที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังการเติบโตอย่างซบเซาเมื่อปี 2559 ที่ร้อยละ 1.3
นายโรแบร์โต อาเซเวโด ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก กล่าวว่า แนวโน้มภาพรวมการค้าโลกดีขึ้น ถือเป็นข่าวดี แต่ยังมีความเสี่ยงที่อาจจะมีผลต่อเศรษฐกิจโลก และอาจทำลายการฟื้นตัวของการค้าได้ โดยความเสี่ยงเหล่านี้รวมถึง เรื่องการจำกัดทางการค้า และความสูญเสียเพิ่มมากขึ้นทางเศรษฐกิจจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ
+++เฮอร์ริเคนมาเรีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ราว 18 ศพตามเกาะต่างๆในทะเลแคริบเบียน ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของสาธารณรัฐโดมินิกัน พายุลมแรงทำให้เกิดไฟฟ้าดับเกือบทุกพื้นที่ทางเหนือ และหลังคาของบ้านบางหลังถูกซัดปลิวหายไป
พายุมาเรีย มีความเร็วลมสูงสุด 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระหว่างที่เคลื่อนออกจากสาธารณรัฐโดมินิกัน ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ บนเส้นทางที่น่าจะเฉียดหมู่เกาะเติกส์และเคคอส และทางตะวันออกเฉียงใต้ของบาฮามาสเมื่อคืนวันพฤหัสบดี และวันนี้
+++เม็กซิโกใช้ความพยายามจนเวลาย่างเข้าเช้าวันพฤหัสบดี เพื่อช่วยเหลือเด็กหญิงคนหนึ่งจากข้างใต้กองซากหักพังของโรงเรียนแห่งหนึ่งกลางเมืองหลวง เจ้าหน้าที่กู้ภัย พบว่ามีเด็กหญิงวัย 12 ปีคนหนึ่งที่ทราบชื่อภายหลังว่า ฟรีดา โซเฟีย ซึ่งถูกฝังอยู่ใต้กองซากปรักหักพังจากแผ่นดินไหวขนาด 7.1 กระดิกนิ้วตอบเมื่อเจ้าหน้าที่ตะโกนถามว่า ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ยังสามารถติดต่อสนทนากับเธอได้ด้วย ขณะที่พบผู้เสียชีวิตอีก 4 คน และเชื่อว่าอาจยังมีอีก 4 คนติดอยู่ใกล้ๆ กับเด็กหญิง แต่ไม่แน่ใจว่า คนเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ยิ่งเวลาเนิ่นนานออกไป โอกาสที่จะพบผู้ที่รอดชีวิตและอยู่ในสภาพร่างกายแข็งแรงก็ยิ่งน้อยลงทุกที
+++เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครใช้สุนัขดมกลิ่น กล้อง อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและความร้อน เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากอาคารยอดผู้เสียชีวิตถูกปรับเพิ่มเป็นอย่างน้อย 245 ศพ เฉพาะในเมืองหลวงเพิ่มจาก 100 ศพเป็น 115 ศพ ประธานาธิบดีเอ็นริเก เปนญา เนียโต ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน แต่ขอให้เจ้าหน้าที่มุ่งมั่นช่วยเหลือผู้ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง รวมทั้งรักษาผู้บาดเจ็บต่อไป
+++ขณะเดียวกัน ระบบไฟฟ้าในบางพื้นที่ของเม็กซิโกซิตี้ ได้รับการซ่อมแซมให้ใช้ได้อีกครั้ง หลังจากชาวเมืองต้องทนอยู่ในความมืด นอกจากนี้ระบบรถไฟใต้ดินยังให้บริการได้เกือบทั้งหมด
+++ด้านชาติละตินอเมริกาอย่างน้อย 9 ประเทศประกาศส่งทีมค้นหาและกู้ภัย หรือความช่วยเหลือด้านเทคนิคให้แก่เม็กซิโก และมีทีมกู้ภัยจากปานามา เอลซัลวาดอร์ อเมริกา ญี่ปุ่น สเปน และอิสราเอล เดินทางถึงเม็กซิโกแล้ว
+++การจัดส่งความช่วยเหลือของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ที่มุ่งไปยังพื้นที่ตอนเหนือของรัฐยะไข่ เมียนมา หลังจากที่เกิดเหตุรุนแรงระหว่างชาวพุทธและชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่คุกรุ่นมานานหลายปี ส่งผลให้ชาวมุสลิมโรฮิงญามากกว่า 4 แสน 20,000 คน หลบหนีไปบังกลาเทศ ทางการเมียนมา ระบุว่ามีชาวเมียนมาหลายร้อยคนพยายามที่จะสกัดขัดขวางเรือซึ่งบรรทุกความช่วยเหลือราว 50 ตัน ที่ท่าเรือในเมืองสิตตะเว รัฐยะไข่ ผู้ชุมนุมประท้วงบางรายพกพาอาวุธทั้งไม้และแท่งเหล็ก และขว้างระเบิดขวด ก่อนที่ตำรวจราว 200 นาย จะเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวด้วยการยิงปืนขึ้นฟ้า ตามการบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่ง และตามการรายงานของสำนักงานข้อมูลข่าวสารของรัฐบาลระบุว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ถูกจับกุมตัว 8 คน
แฟ้มภาพ AFP