*กรมราชทัณฑ์ปล่อยตัวนักโทษกว่า700คน/สตช.ประชุมคดีอุ้มบุญ/ช่วยคนติดซากตึกถล่ม*

*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.

+++วันนี้ วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ .สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย กำหนดจัดงานวันแม่แห่งชาติ 12 ส.ค. เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และเผยแพร่พระเกียรติคุณในด้านต่างๆ พร้อมมอบรางวัลแม่ดีเด่นแห่งชาติ และรางวัลลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูง โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จแทนพระองค์ไปทรงเปิดงานณอาคารใหม่ สวนอัมพร

+++ส่วนในเวลา 8.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. นำ ผบ.เหล่าทัพ-ข้าราชการ-นายทหารระดับสูง เข้าถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ณ ศาลาลูกขุน @ พระบรมมหาราชวัง  โดยประชาชนสามารถร่วมลงนามถวายพระพร ได้

จากนั้นในช่วงค่ำ พล.อ.ประยุทธ์ จะป็นประธานในพิธีจุดเทียนถวายพระพร "12 สิงหา พระบรมราชินีนาถ" ที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง

+++10.00 น.กรมราชทัณฑ์ จะปล่อยตัวผู้ต้องขังกว่า700 คน เนื่องในวโรกาศวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ  ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง จ.ปมุมธานี  มี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เป็นประธานทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง จ.ปทุมธานี

+++คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีมติให้ความเห็นชอบเสนอร่างกฎหมายเร่งด่วน ส่งไปรอการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นอกจากร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ที่ถูกกำหนดให้เข้าสู่สนช. เป็นลำดับแรก ยังมีกฎหมายอื่นอีก 38 ฉบับ ร่างพ.ร.บ.การคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง สาระสำคัญคือกำหนดให้มีคณะกรรมการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ให้จัดตั้งสถานคุ้มครอง เพื่อให้ความช่วยเหลือบุคคลซึ่งไร้ที่อยู่อาศัยและไม่มีรายได้เพียงพอแก่การยังชีพ ร่างพ.ร.บ.การกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2494  สาระคือให้ข้าราชการซึ่งเป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการและผู้รับบำนาญ ทหารกองหนุน มีเบี้ยหวัด รับราชการก่อนวันที่ 27 มี.ค.2540 สามารถกลับไปใช้สิทธิตามพ.ร.บ. บำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2494 ร่างพ.ร.บ.ประกันสังคม เป็นการขยายขอบเขตการบังคับใช้ให้ครอบคลุมลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการ รวมทั้งเพิ่มหลักเกณฑ์และอัตราเงินสมทบที่รัฐ จะออกให้กับผู้ประกันตน

+++ความเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ภายหลังเดินทางกลับจากพักผ่อนส่วนตัวที่ต่างประเทศ และมาถึงประเทศไทย เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 10 ส.ค. ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ปรากฏตัวพร้อมคนใกล้ชิด โดยเดินทางมาซื้อของที่ห้างย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา ใช้เวลาเดินซื้อสินค้าประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนเดินทางกลับบ้านพักซอยโยธินพัฒนา 3 เขตลาดพร้าว และได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า คงไม่ต้องรายงานคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่ากลับมาแล้ว เพราะได้แจ้งว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 10 ส.ค. ซึ่งรักษากำหนดการเดิมทุกอย่าง

+++แหล่งข่าวจาก คสช. กล่าวยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ต้องมาแสดงตัวหรือรายงานตัวต่อ คสช. เพราะเดินทางกลับประเทศไทยตามกำหนดการที่ได้ขออนุญาตกับ คสช. ไว้ สำหรับกรณีมีภาพถ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับประทานอาหารกลางวันร่วมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ในร้านอาหารประเทศสิงคโปร์ ถือเป็นการเดินทางออกนอกเส้นทาง ตามที่แจ้งขออนุญาต คสช. ไว้ แต่ก็จะเป็นข้อมูลให้คณะกรรมการพิจารณาครั้งต่อไป หากมีการขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศอีกในครั้งหน้า

+++พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมทีมสอบสวนคดีอุ้มบุญ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อรวบรวมข้อมูลของคดี และปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย ขณะที่ นายรัฐประธาน ตุลาธร ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายมิตซูโตกิ ชิเกตะ  อายุ 24 ปี นักธุรกิจผู้ร่ำรวยชาวญี่ปุ่น พ่ออุ้มบุญของเด็กทั้ง 9 ราย ไม่มาตามนัด กรณีจะนำสูติบัตรหนูน้อยทั้ง 9 ราย

++++มีรายงานจากฝ่ายสืบสวน แจ้งว่า ขณะนี้ในส่วนการทำงานของตำรวจชุดคลี่คลายคดีโดยเฉพาะของ กก.สส.บก.น.4 ทำให้ทราบว่า สถานพยาบาลในย่านลาดพร้าว รามคำแหง รวมถึงสุขุมวิทนั้น มีสถานพยาบาลเอกชนชื่อดังเข้ามาเกี่ยวข้องในลักษณะของการอุ้มบุญถึง 7 แห่ง โดยส่วนใหญ่สถานพยาบาลเหล่านี้จะระบุว่าให้คำปรึกษาภาวะมีบุตรยาก โดยอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลว่า มีส่วนในคดีอุ้มบุญที่เกิดขึ้นจนเป็นที่โด่งดังหรือไม่

+++ฝั่งเว็บไซต์หนังสือพิมพ์จีน "เซาท์ไชนา มอร์นิ่ง โพสต์" รายงานจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีนว่า นายมิตซูโตกิ พ่ออุ้มบุญเด็ก ที่เกิดจากหญิงไทย มีส่วนร่วมในการสร้างแอพพลิเคชั่น "ฟามิโลเน็ต" ที่มีบริษัทตั้งอยู่ในเมืองฮัมบูร์ก เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศเยอรมนี โดยแอพนี้เป็นแอพที่สามารถช่วยส่งสัญญาณเตือนผู้ปกครอง สามารถระบุพิกัดและความเคลื่อน ไหวของบุตรหลานของตนเองได้ โดยมีนายมิตซูโตกิ ถือหุ้นของบริษัทร้อยละ 4 และเป็นผู้ร่วมคิดค้นแต่ไม่มีข้อมูลระบุแน่ชัดว่า แอพดังกล่าวเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ ทั้งนี้ทางเซาท์ไชนา มอร์นิ่ง โพสต์ ได้ทำการติดต่อบริษัทผู้ผลิตแอพนี้แล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด เพียงแต่นำรูปของนายมิตซูโตกิ ออกจากหน้าเพจเฟซบุ๊กของบริษัทเท่านั้น นอกจากนี้ตามโปรไฟล์ของเจ้าของบริษัทแอ็พฯฟามิโลเน็ต ตามที่สื่อจีนตาม สืบ ปรากฏว่าเขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหงในกรุงเทพฯ ของประเทศไทย อีกด้วย

+++สำหรับ  นายมิตซูโตกิ เป็นชาวญี่ปุ่น ที่ทำธุรกิจอยู่ในฮ่องกง มีอพาร์ตเมนต์อยู่ที่ถนนโซโห ซึ่งเป็นย่านท่องเที่ยวชื่อดังในฮ่องกง และกำลังถูกตำรวจไทยติดตามตัวมาสอบปากคำ สื่อญี่ปุ่นหลายรายได้เดินทางไปฮ่องกงเพื่อดักรอนายมิตซูโตกิ ที่บ้านพักแล้ว โดยตำรวจไทยตั้งข้อสงสัยว่า นายมิตซูโตกิ อาจเกี่ยวพันแก๊งค้ามนุษย์ที่ต้องการให้มีแม่อุ้มบุญคลอดเด็กให้กับตนเอง เพื่อนำเด็กไปขายต่อ อย่างไรก็ตาม ทนายชาวไทยของนายมิตซูโตกิเปิดเผยว่า เขาไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ โดยนายมิตซูโตกิต้องเลี้ยงเด็กทั้งหมด ด้วยค่าใช้จ่าย 50,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือเป็นเงินไทย  205,000 บาทต่อเดือน

+++ น.ส.ภัทรมน (สงวนนามสกุล) แม่น้องแกรมมี่  ปัดตอบโต้ หลัง นายเดวิด และนางเวนดี ฟาร์เนล สองสามีภรรยาชาว ออสเตรเลียให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์ของออสเตรเลีย ตอบโต้ข่าวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ปฏิเสธไม่ได้ทอดทิ้ง รวมทั้งยกลูกให้แม่ อุ้มบุญ แต่ที่เป็นไปเช่นนี้นั้น อ้างเป็นเพราะสถานการณ์บังคับ สาเหตุที่ทางแม่อุ้มบุญชาวไทย ตัดสินใจไม่แถลงข่าวโต้ตอบ เพราะต้องการให้เรื่องจบลงด้วยดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ยินยอมที่จะคืนน้องแกมมี่ ให้กับสองสามีภรรยาชาวออสเตรเลียด้วย