ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ได้นัดฟังคำสั่งศาลฎีกาในคดีที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พร้อมด้วยแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) รวม 13 คน ยื่นขออนุญาตฎีกาคดีที่ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาสั่งให้ 13 แกนนำพธม. ชดใช้เงินกว่า 522 ล้านบาทให้บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. จากกรณีนำมวลชนปิดสนามบินในการชุมนุมเมื่อปี 2551
ศาลแพ่ง ได้อ่านคำสั่งศาลฎีกา โดยศาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ที่ศาลชั้นและศาลอุทธรณ์ พิจารณายกคำร้องของจำเลยนั้นชอบแล้วตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ทั้งนี้ เมื่อศาลฎีกายกคำร้องขอขยายเวลาฎีกาของจำเลยแล้ว ผลแห่งคดีจึงถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ชดใช้เงินจำนวนดังกล่าว
หลังจากศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแล้ว ปรากฏว่า ทนายความของแกนนำทั้ง 13 คน ไม่ได้ยื่นขออุทธรณ์ภายในกำหนด 30 วัน ทำให้คดีถึงที่สุด จนต้องมาทำเรื่องขอฎีกาในภายหลัง ทนายได้อ้างเหตุสุดวิสัยการปิดหมายแจ้งคดีต่อศาลแพ่งที่เป็นศาลชั้นต้นปรากฏว่า ศาลยกคำร้อง ขณะที่ศาลอุทธรณ์ก็มีคำสั่งเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2559 โดยเห็นว่า ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีร่วมกันปิดสนามบินโดยชอบ
คดีนี้ ทอท. ได้ฟ้องให้จำเลยทั้งหมดชดใช้ค่าเสียหาย กรณีระหว่างวันที่ 24 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2551 ได้ร่วมกันนำผู้ชุมนุมบุกยึดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง ประท้วงขับไล่รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ซึ่งส่งผลให้การให้บริการต่างๆ ภายในท่าอากาศยานทั้ง 2 ต้องหยุดชะงัก โดยศาลแพ่งมีคำพิพากษาวันที่ 25 มีนาคม 2554 ให้จำเลยทั้ง 13 คน ร่วมกันชดใช้เงิน 522,160,947.31 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2551 จนกว่าจะชำระเสร็จ โดยแกนนำทั้ง 13 คน ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสุริยะใส กตะศิลา นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายอมร อมรรัตนานนท์ นายศรัณยู วงศ์กระจ่าง นายสำราญ รอดเพชร นายศิริชัย ไม้งาม นางมาลีรัตน์ แก้วก่า และ นายเทิดภูมิ ใจดี
แฟ้มภาพ วิกิพีเดีย