ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.
+++กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ วันนี้ ไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ สำหรับทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง
+++วันนี้ ยังคงต้องติดตามหันต่อ หลัง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิใช้แผนฉุกเฉินคลี่คลายสถานการณ์ เหตุต้องสงสัยมีระเบิดบนเครื่องของสายการบินเจ็ทแอร์เวย์ส โดยลำเลียงผู้โดยสาร 153 คนพร้อมลูกเรือ 8 คน ออกจากเครื่องบิน จากนั้นส่งหน่วย EOD ตรวจสอบสัมภาระ อย่างละเอียดเพื่อเร่งตรงจสอบข้อเท็จจริง นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยว่า วันที่ 20 กันยายน ช่วงเวลาประมาณ 20.20 น. ศูนย์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้รับแจ้งผ่านศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศว่า สายการบินเจ็ทแอร์เวย์ส เที่ยวบิน 9W 066 จากท่าอากาศยานเดลลี มายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (โดยมีกำหนดเครื่องลง เวลา 20.37 น. และขอให้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประกาศใช้แผนฉุกเฉินฯ โดยเบื้องต้น จากกรณีต้องสงสัยมีระเบิดบนเครื่องของสายการบินเจ็ทแอร์เวย์ส โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ดำเนินการตรวจค้นร่างกายและสัมภาระของผู้โดยสารทุกคน รวมทั้ง เจ้าหน้าที่หน่วยทำลายวัตถุระเบิด (Explosive Ordnance Disposal : EOD) เข้าดำเนินการตรวจสอบกระเป๋าทุกชิ้นที่บรรจุอยู่ใต้ท้องเครื่องและตรวจสอบอากาศยานอย่างละเอียดอีกครั้ง
+++สมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ เรื่อง ขอให้ปล่อยตัว พระมหาอภิชาต ปุณฺณจนฺโท โดยด่วน ระบุว่า การควบคุมตัวบุคคลไปเช่นนี้ เป็นการริดรอนสิทธิเสรีภาพของบุคคลตามรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2560 พระมหาอภิชาติ ปุณฺณจนฺโท แม้จะกล่าวด้วยถ้อยคำรุนแรง แต่ก็เป็นเหตุมาจากสถานการณ์ความรุนแรง แต่ต่อมาพระมหาอภิชาติได้เข้าทำการลาสิขา(สึก) แล้วที่พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.โดยมีพระราชกิตติเวที ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรฯ เป็นผู้สึกให้ และมีพระครูพิทักษ์รัตนวงศ์ ผู้ข่วยเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรฯ เจ้าคณะแขวงดุสิต เป็นพยาน หลังจากทำการสึกแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองปราบปรามได้ควบคุมตัวพระมหาอภิชาติไปกองปราบฯทันที ซึ่งเมื่อสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุเพียงว่าเป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคง สำหรับพระมหาอภิชาตินั้น เป็นพระวัดเบจมบพิตรฯ ทั้งเป็นพระนักเคลื่อนไหวที่มักแสดงความเห็นตอบโต้กลุ่มผู้ไม่หวังดีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ทำลายชาวพุทธในพื้นที่มาโดยตลอด แต่มีการใช้ถ้อยคำที่รุนแรงในเชิงปลุกระดม ส่งผลให้โดนเตือนจากทางมหาเถรสมาคม(มส.) และหน่วยงานความมั่นคงมาแล้วหลายครั้ง
+++หลังทันตแพทยภา มีมติสั่งถอนใบอนุญาต "ทพญ.ดลฤดี จำลองราษฎร์" หนีใช้ทุนรัฐบาล 24 ล้าน พร้อมตั้งอนุกรรมการเพิกถอนสมาชิกต่อทันที นายกทันตแพทยสภา ชี้หมดสิทธิ์ทำงานในไทย แต่ไม่มีผลในต่างประเทศ ขณะที่หนึ่งในผู้ค้ำ ระบุพอใจผลตัดสิน วอนแปลภาษาอังกฤษส่งต่อทันตแพทยสภาสหรัฐ-รัฐแมสซาซูเซตส์ ลั่นเดินหน้าฟ้องต่อในต่างประเทศ
+++นอนคุกคืนที่ 2 แล้ว หลังถูกจับ น.ส.อาเมเรีย หรือ เอมี่ จาคอป อายุ 28 ปี มิสทีนไทยแลนด์ ปี 2006 อดีตนางเอกละคร "ธิดาวานร"และนายปุณยวัจน์ หิรัณย์เตชะ อายุ 40 ปี แฟนหนุ่ม พร้อมของกลางยาไอซ์ 70 กรัม ยาอี 16 เม็ด ว่า ตลอดคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำ เอมี่ ต่อหน้าทนายความ พ่อและแม่กว่า 1 ชั่วโมงช่วงเวลา 22.00 น.จากนั้นนางเอกสาว ก็เข้านอนในห้องควบคุมผู้ต้องหาของสน.สายไหมตามปกติโดยมีผู้หญิงอยู่รวมกัน 3 คนส่วนแฟนหนุ่มอยูรวมกับผู้ต้องหารวม 9 คน โดยนางเอกสาวเริ่มกินอาหารได้ รวมทั้งนอนหลับได้ดีขึ้นกว่าคืนแรก นอกจากนี้นางเอกสาวมีสีหน้าผ่อนคลาย มีพูดคุยกับเพื่อนผู้ต้องหา ซึ่งต่างเป็นผู้ต้องหายาเสพติดด้วยกันทั้งสามคนจึงดูไม่เครียดเหมือนคืนแรก โดยพนักงานสอบสวนจะเร่งทำสำนวนพร้อมนำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดมีนบุรีภายในวันนี้ ส่วนตำรวจจะใช้มาตรการสมคบเอาผิดเอมี่กับพวก พร้อมตรวจสอบไปยังกลุ่มศิลปินดารานักแสดงที่มีรายชื่ออยู่ในแบล็คลิสต์ยาเสพติดหากพบเชื่อมโยงกลุ่มผู้ต้องหา จะเรียกมาสอบทันที
+++หลัง ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "เจ๊ยา ใหญ่มาก" ได้โพสต์รูปภาพจำนวน 6 รูป โดยเผยให้เห็นรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีดำถูกละเลงด้วยสีน้ำมันสีส้มจนเลอะเทอะ ทั้งคันและยังถูกไม้ตีที่บ้ายทะเบียนอีก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายใน จังหวัด สมุทรปราการ โดยที่นาย พิสัย สุวรรณาศัย ผู้เป็นเจ้าของรถเก๋ง โตโยต้า วีออส ได้นำรถเก๋งของตนไปจอดบริเวณใกล้สำนักงาน เพื่อจะนำคนงานต่างด้าวไปลงทะเบียน แต่กลับกลายเป็นว่าไปจอดขวางทางเข้าบ้านของ นาย ขาว แสงจันทร์ หลังจากที่นาย พิสัย กลับมาจากทำธุระเรื่องแรงงานต่างด้าวเรียบร้อย ก็ได้เห็นรถเก๋ง ของตนเองถูกละเลงด้วยสีน้ำมันทั่วคัน ซึ่งเป็นฝีมือของนาย ขาว แสงจันทร์ เหตุเพราะ โมโหที่นาย พิสัย นำรถมาจอดขวางหน้าบ้าน ทั้งที่มีป้ายแขวนไว้ว่า "ห้ามจอดรถขวางทางเข้าออก"
+++นาย พิสัย ได้เข้าแจ้งความกับ ร้อยตำรวจเอก ปภาสุต บวรพลภัทร รอง สว. สอบสวน สภ.สำโรงเหนือ จากเหตุการณ์ที่ถูกกระทำพร้อมเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 60,000 บาท แต่ก็ตกลงกันไม่ได้ ด้านนายขาว ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุเอง เพราะไม่พอใจ ทั้งที่ได้ติดป้ายห้ามจอดรถขวางทางเข้า-ออกไว้แล้ว และยืนยันว่า นายพิสัย ไม่ได้นำรถมาจอดแค่ 10 กว่านาที แต่เป็นเวลานานเกือบ 2 ชั่วโมง จึงทำให้ตนเองโกรธและกระทำการดังกล่าวออกไป ตำรวจได้แจ้งข้อหากับนาย ขาว แสงจันทร์ ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ โทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และชดใช้ค่าเสียหายให้กับนายพิสัย แต่สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเกลี้ยกล่อมทั้ง 2 คน จนสามารถยอมความกันได้ โดยที่นาย ขาว จะต้องเสียค่าชดเชยที่จำนวนเงิน 32,000 บาท จากทีแรกที่ 60,000 บาท
+++หลังนำคณะเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายในและกรมสรรพสามิต ลงพื้นที่ตรวจสอบสต๊อกสินค้าในร้านค้าส่งสุราและยาสูบ ที่ร้านเสริมทรัพย์ และร้านอั้งอี้เส็ง ใน จ.นนทบุ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบไม่พบการปฏิเสธการจำหน่ายหรือกักตุนสินค้า โดยร้านค้ายังมีการจำหน่ายตามปกติ และเจ้าของร้านได้ยืนยันว่า ยังคงจำหน่ายสุราและยาสูบในราคาเดิม ไม่มีการปรับขึ้น เพราะเป็นสินค้าสต๊อกเก่า และทางผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายยังไม่ได้แจ้งการปรับขึ้นราคามา กรณี จำหน่ายในราคาที่สูงกว่าราคาที่แสดงไว้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และหากจงใจที่จะทำให้ราคาสูงเกินสมควรหรือทำให้เกิดการปั่นป่วนซึ่งราคา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ