แผ่นดินไหวเม็กซิโก เสียหายหนัก/ทรัมป์ประณามเกาหลีเหนือ กลางเวทีUN/จีนแนะแก้ปัญหาเกาหลีเหนือด้วยสันติวิธี

20 กันยายน 2560, 06:26น.


*ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30น.*



+++พบเหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.1 สั่นสะเทือนภาคกลางของเม็กซิโกในวันอังคารทำให้ บ้านเรือนพังถล่มเสียหายจำนวนมาก ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 93 ราย แต่คาดหมายว่าตัวเลขที่แท้จริงจะสูงกว่านี้  ประธานาธิบดีเอ็นริเก เปนญา เนียโต เผยว่าอาคารในกรุงเม็กซิโก ซิตี หนึ่งในเมืองใหญ่ที่สุดของโลก 27 แห่งพังถล่มลงมา แต่รายงานผู้เสียชีวิตชุดแรกๆมาจากพื้นที่โดยรอบ ในรัฐมอเรโลส ทางใต้กรุงเม็กซิโก มีผู้เสียชีวิต 42 คน จากการเปิดเผยของผู้ว่าการรัฐ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้รายงานพบผู้เสียชีวิตในรัฐปวยบลา 11 คนและรัฐเม็กซิโกที่อยู่ใกล้ๆกัน 8 คนต่อมา เจ้าหน้าที่ปรับเพิ่มยอดรวมผู้เสียชีวิตเป็น 93 ราย หลังในเม็กซิโก ซิตี รายงานพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามเกรงว่ายอดเหยื่ออาจพุ่งสูงกว่านี้ ในขณะที่หน่วยกู้ภัยและอาสาสมัครกำลังช่วยกันสอดส่องใต้ซากหักพังของอาคารที่พังถล่ม



แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมง หลังจากประชาชนจำนวนมากเพิ่งเข้าร่วมการซ้อมรับมือภัยพิบัติแผ่นดินไหวทั่วประเทศ ในวาระรอบรอบ 32 ปี โศกนาฏกรรมแผ่นดินไหวคร่าชีวิตผู้คนในกรุงเม็กซิโก ซืตี หลายพันศพในปี 1985



สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯวัดความรุนแรงของแผ่นดินไหวได้ 7.4 โดยมีศูนย์กลางห่างจากเมืองอาเต็นซินโก ในรัฐปวยบลา ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 8 กิโลเมตร ลึกลงไปใต้ดิน 51 กิโลเมตร ก่อนปรับลดมาเหลือ 7.1 ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน เพิ่งเกิดแผ่นดินไหวระดับ 8.1 สั่นสะเทือนเม็กซิโก คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 98 ศพ



+++มาเรีย เฮอร์ริเคนลูกใหญ่ลูกล่าสุดของมหาสมุทรแอตแลนติก ทวีความรุนแรงคืนสู่เฮอร์ริเคนระดับ 5 หลังซัดถล่มประเทศเกาะขนาดเล็ก "โดมินิกา" พังราบคาบในวันอังคาร (19 ก.ย.) ขณะที่เบื้องต้นมีรายงานพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 รายในกวาเดอลูป อาณานิคมโพ้นทะเลของฝรั่งเศส  ล่าสุดอ่อนกำลังลงสู่ระดับ 4 หลังจากก่อความเสียหายอย่างกว้างขวางบนเกาะโดมินิกา แต่ตอนนี้มันทวีความเร็วลมขึ้นสู่ระดับ 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอีกครั้ง พายุลูกนี้เคลื่อนไปในแนวเส้นทางเดียวกับเออร์มา เฮอร์ริเคนความรุนแรงระดับ 5 อีกลูก ที่เพิ่งเข้าทำลายหมู่เกาะต่างๆในแอตแลนติกเมื่อช่วงต้นเดือน คร่าชีวิตผู้คนนับสิบเวลานี้ มาเรีย กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่หมู่เกาะเวอร์จินและเปอร์โตริโก ทำให้ผู้ว่าการแห่งเครือรัฐของสหรัฐฯ ต้องแจ้งเตือนประชาชน 3.5 ล้านคนของเกาะให้หาที่หลบภัย ขณะเดียวกันมีรายงานว่าทางการหมู่เกาะบริติช เวอร์จิน ได้ประกาศเคอร์ฟิวเมื่อค่ำคืนวันจันทร์(18ก.ย.) และชาวบ้านถูกร้องขอให้อยู่แต่ภายในที่พักอาศัยจนกว่าพายุจะเคลื่อนผ่านพวกเจ้าหน้าที่หวั่นเกรงว่าซากหักพังจากอิทธิฤทธิ์ของเฮอร์ริเคนเออร์มา อาจก่ออันตรายใหญ่หลวงยามที่กระแสลมของมาเรียถาโถม 



+++เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่าเมื่อเวลา 21.00 น ตามเวลาวันนี้ของประเทศไทย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯขึ้นเวทีปราศรัยต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ของสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ในนครนิวยอร์ก เป็นครั้งแรกในวันนี้ เริ่มต้นโดยกล่าวว่าเขารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เป็นตัวแทนตัวชาวอเมริกันจากบ้านเกิดคือรัฐนิวยอร์ก เพื่อขึ้นเวทีปราศรัยในโอกาสนี้ เขาขอบคุณผู้นำทั่วโลกที่เสนอความช่วยเหลือและแสดงความเห็นใจรัฐบาลและพลเมืองสหรัฐฯหลังประสบภัยพิบัติจากพายุเฮอร์ริเคนเออร์มาเมื่อไม่นานมานี้  เขากล่าวถึงสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงนี้ว่าแข็งแกร่งดีและแข็งแกร่งมากกว่าช่วงใดๆในรอบหลายปีมานี้ มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นและล่าสุดสว.สหรัฐฯเพิ่งจะอนุมัติงบประมาณด้านกลาโหมเพิ่มขึ้นเป็น 7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กองทัพสหรัฐฯจะได้รับการพัฒนาให้มีแสนยานุภาพทางทหารที่เกรียงไกรและยิ่งใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เขาย้ำว่าในยามที่ประเทศชาติมีความสงบ ประเทศสมาชิกยูเอ็นควรจะดำเนินนโยบายต่างๆเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเองอย่างอิสระ แต่เมื่อถึงคราวที่ต้องเผชิญกับภัยคุกคามความมั่นคงต่อความมั่นคงของโลก โดยเฉพาะเกาหลีเหนือที่พัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์ ผู้นำสหรัฐฯกล่าวถึงภัยคุกคามอื่นๆเช่น อิหร่าน กลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย กลุ่มอัลกออิดะห์และกลุ่มตอลีบันในอัฟกานิสถาน สมาชิกยูเอ็นก็ควรจะแสดงจุดยืนร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหานี้โดยพร้อมเพรียงกัน นอกจากนี้ผู้นำสหรัฐฯกล่าวถึงภาวะไร้เสถียรภาพในเวเนซุเอลา เขาเรียกร้องให้รัฐบาลเวเนซุเอลาแก้ปัญหาวิกฤติการเมืองตามระบบประชาธิปไตย



+++รอยเตอร์รายงานอ้างการสัมภาษณ์พิเศษนายกรัฐมนตรีชีค ฮาซีนาของบังกลาเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่ของสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ในนครนิวยอร์ก สหรัฐฯในสัปดาห์นี้ว่าเธอได้พูดคุยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯเมื่อวานนี้ในเรื่องการที่ผู้อพยพชาวมุสลิมโรฮิงญาหลบหนีเหตุรุนแรงในเมียนมาร์ข้ามชายแดนเข้าไปยังบังกลาเทศจำนวนมาก แต่เธอยอมรับระหว่างการให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ในวันนี้ว่าเธอไม่คาดหวังการช่วยเหลือจากผู้นำสหรัฐฯมากนักเนื่องจากที่ผ่านมานายทรัมป์มีทัศนะที่ชัดเจนว่าเขารู้สึกอย่างไรต่อประเด็นปัญหาเรื่องผู้อพยพ นายทรัมป์ถามเธอว่า สถานการณ์ในบังกลาเทศเป็นอย่างไรบ้าง เธอตอบผู้นำสหรัฐฯว่าก็ปกติดี แต่ขณะนี้มีปัญหาเรื่องเดียวคือเรื่องผู้อพยพจากเมียนมาร์ แต่ผู้นำสหรัฐฯไม่ได้แสดงความเห็นใดๆในเรื่องนี้ สำหรับนางฮาซินาจะขึ้นเวทีปราศรัยต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นในวันพฤหัสบดีนี้ก่อนหน้านี้กองทัพเมียนมาร์ได้ตอบโต้กลุ่มก่อการร้ายหลังเกิดเหตุลอบโจมตีด่านตรวจในรัฐยะไข่ทางภาคตะวันตกของเมียนมาร์เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นสืบต่อมาส่งผลให้ชาวโรฮิงญากว่า 410,000 คนหลบหนีเหตุรุนแรงในเมียนมาร์เข้าไปยังบังกลาเทศ เพื่อนบ้าน มีคนเสียชีวิตแล้วราว 400 ศพ



+++วุฒิสมาชิก จอห์น แม็คเคน ประธานคณะกรรมาธิการด้านการทหารของวุฒิสภาสหรัฐฯว่าที่ประชุมสว.สหรัฐฯโหวตด้วยเสียงส่วนใหญ่ 89 ต่อ 8 เสียง สนับสนุนร่างกฏหมายว่าด้วยการเพิ่มงบประมาณด้านการทหารจำนวน 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯสำหรับปีงบประมาณ 2561 ซึ่งเป็นไปตามข้อเสนอจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้กองทัพสหรัฐฯมีความยิ่งใหญ่และเข็มแข็งมากขึ้น รอยเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่าการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมของสหรัฐฯภายใต้ร่างกฎหมายใหม่นี้นับว่า สูงมาก เมื่อเทียบกับงบประมาณ 6 แสน 1 หมื่น 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่สภาคองเกรสอนุมัติเมื่อปีที่แล้ว



+++น้ำมันขยับลงสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนตุลาคม ลดลง 43 เซนต์ ปิดที่ 49.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 34 เซนต์ ปิดที่ 55.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(19ก.ย.) แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง จากแรงหนุนของกลุ่มการเงิน หนึ่งวันก่อนหน้าที่เฟดจะออกถ้อยแถลงสรุปจากที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 39.45 จุด ปิดที่ 22,370.80 จุด คาดหมายกันว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะลดถือครองพันธบัตร แต่ไม่คิดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ความเคลื่อนไหวที่คึกคักในตลาดทุน ฉุดให้ราคาทองคำ ในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ปิดลบ 3 วันติดในวันอังคาร(19ก.ย.) โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 1,310.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์



+++นายหวัง ยี่ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนบอกกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียระหว่างการหารือกันนอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่ของสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ในนครนิวยอร์ก สหรัฐฯเมื่อวานนี้ว่า ปัญหานิวเคลียร์เกาหลีเหนือจะต้องได้รับการแก้ไขโดยใช้สันติวิธี โดยนายหวังย้ำว่ารัฐบาลจีนจะทำตามมติการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นอย่างเคร่งครัดและเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่างๆเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างมีความรับผิดชอบ ระบุว่าทุกฝายที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมกันพิจารณาสาเหตุที่ให้เกิดวงจรอุบาทของปัญหาวิกฤติบนคาบสมุทรเกาหลีและแก้ไขให้หมดไป

ข่าวทั้งหมด

X