นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่าใน ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีฝนตกชุก ทำให้อากาศมีความชื้นสูง ผู้ที่มีสุขภาพไม่แข็งแรงหรือมีภูมิต้านทานน้อย อาจป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจได้ง่าย โดยโรคที่พบบ่อยและมีอันตรายสูงคือโรคปอดบวม ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของโรคติดเชื้อทั้งหมด พบมากในกลุ่มผู้สูงอายุและเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำ และผู้สูงอายุมักจะมีโรคประจำตัว
รายการการเฝ้าระวังโรคปอดบวม โดยสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 21 ก.ค.57 พบผู้ป่วยทุกจังหวัดรวม 102,194 ราย เสียชีวิต 521 ราย กลุ่มที่ป่วยมากที่สุด คืออายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป พบร้อยละ 35 รองลงมาคืออายุ 55-64 ปี และกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี ตามลำดับ จังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากร 1 แสนคนสูงสุดคือ อ่างทอง รองลงมาคือ พะเยา ศรีสะเกษ เพชรบุรี และอุบลราชธานี จึงกำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขทุกจังหวัด เร่งประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนประชาชนในการดูแลสุขภาพ ควรสวมใส่เสื้อผ้าให้ความอบอุ่นร่างกายอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี หญิงตั้งครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย มะเร็งที่กำลังให้เคมีบำบัดและเบาหวาน ให้ไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้ฟรีที่โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคปอดบวมเป็นโรคที่มีความรุนแรงสูง มีรายงานผู้เสียชีวิตมากที่สุด ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอ หายใจหอบเหนื่อย อาการมักจะเกิดตามหลังป่วยเป็นไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และอาการไข้อื่นๆ ที่มีภาวะแทรกซ้อนหรือได้รับการรักษาที่ไม่เหมาะสม โดยไข้จะไม่ลด ผู้ป่วยจะไอ มีเสมหะมาก เจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย บางครั้งการป่วยในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ อาการที่กล่าวมาข้างต้นอาจไม่ชัดเจนหรือไม่ครบทุกอย่าง ในผู้สูงอายุอาจจะมีไข้ต่ำหรือตัวอุ่น ๆ และซึมลง ส่วนในเด็กเล็ก อาจจะมีไข้สูง ซึมลง ไม่กินน้ำ กินนม หายใจหอบเร็วหรือหายใจมีเสียงดังหวีด หรือหายใจแรงจนชายโครงบุ๋ม จมูกบานเวลาหายใจเข้า หากมีอาการที่กล่าวมา ขอให้รีบพาไปพบแพทย์ทันที จะช่วยลดการเสียชีวิตลงได้
น.พ.โสภณ กล่าวต่อว่า โรคนี้ติดต่อกันง่ายทางการไอจามรดกัน หรือติดทางการสัมผัสน้ำมูกน้ำลายผู้ป่วย จึงไม่ควรคลุกคลีกับผู้ป่วย ใช้ช้อนกลางเมื่อรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น ล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อย ๆ และหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่คนแออัด ที่สำคัญถ้าเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ควรหยุดเรียน หยุดทำงาน ควรใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูกเวลาไอหรือจาม ไม่ซื้อยากินเอง โดยเฉพาะยาแก้ไอให้เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบอย่างเด็ดขาด เนื่องจากในยาแก้ไอจะมีฤทธิ์กดอาการไอ ทำให้เสมหะและเชื้อโรคที่อยู่ในเสมหะคั่งอยู่ในถุงลมปอด ทำให้อาการรุนแรงยิ่งขึ้น วิธีที่ดีที่สุด คือให้ผู้ป่วยจิบน้ำอุ่นบ่อย ๆ จะช่วยให้เสมหะอ่อนตัว และขับออกมาง่าย และเป็นการลดปริมาณเชื้อโรคในปอดได้ด้วย.