หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ที่มหาวิทยาลัยราชภัยพระนครศรีอยุธยา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การพูดคุยสันติสุข หลังทางกลุ่มมาราปาตานี ออกมาระบุว่า ยังไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องเซฟตี้โซน และอ้างว่าเป็นเพราะไทยไม่ยอมรับในเงื่อนไข นายกรัฐมนตรียืนยันว่า เรื่องการพูดคุยสันติสุข ยังต้องดำเนินการต่อ แต่กลุ่มที่พูดคุยอาจจะยังมาไม่ครบ และบางกลุ่มที่ยังไม่เข้าร่วมก็ต้องพยายามเชิญชวนให้เข้ามา แต่ส่วนตัวต้องการให้มองว่าเหตุการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ไม่เหมือนกลุ่มใดในโลก เพราะเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรง ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย ที่ไม่มีจุดรวมพล และไม่เปิดเผยกำลัง อีกทั้งยังใช้เทคนิคที่ทำให้การตรวจสอบและจับกุมได้ยาก รัฐบาลจึงต้องแก้ด้วยการใช้ พรก.ฉุกเฉิน หรือกฎหมายปกติเพื่อป้องกันการก่อเหตุ
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ปล่อยปะละเลย แต่ด่านตรวจในประเทศไทยไม่สามารถตรวจรถทุกคันได้ เพราะจำนวนรถมีมากมายหลายหมื่นคันต่อวัน ดังนั้นคนที่ออกมาวิจารณ์รัฐบาล อยากให้มาตั้งด่านตรวจเองว่าทำได้หรือไม่ โดยยืนยันหากวิจารณ์ในเชิงสร้างสรรค์ตนเองก็สามารถรับได้ ไม่ใช่วิจารณ์เหมือนรัฐบาลไม่ทำอะไร
นายกรัฐมนตรี ยังอยากขอให้สื่อมวลชนเสนอเข้ามาว่าจะทำอย่างไร เพราะแค่ใช้การสอบสวนดำเนินคดี ก็ถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิ จึงอยากให้คิดซะใหม่สำหรับคนวิจารณ์ที่ไม่มีข้อมูลและไม่มีความรู้ เพราะตนเองก็สามารถวิจารณ์สื่อมวลชนได้ถึง 3 วันเช่นกัน แต่ก็ไม่อยากวิจารณ์ จึงอยากขอร้องนักวิชาการ และสื่อมวลชนที่เจตนาดีแต่ไม่เข้าใจการทำงานของรัฐบาลหยุดวิพากษ์วิจารณ์ เพราะสิ่งเหล่านั้นทำให้ประเทศเสียหายได้ นายกรัฐมนตรีระบุด้วยว่า ตนเองต้องอดทนกับเรื่องนี้ เพื่อคนกว่า 70 ล้านคน และยืนยันว่าเรื่องการพูดคุยไม่ใช่เรื่องที่ต้องปกปิด เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังตำหนิสื่อมวลชนที่ตั้งคำถามกว่า 10 คำถามแต่ไม่ถามเกี่ยวกับการประชุมครม.ในวันนี้ และชอบตั้งคำถามเรื่องการหนีคดี ซึ่งไม่ได้อะไรขึ้นมา เพราะเจ้าหน้าที่ยังไงก็ต้องจับตัวมาให้ได้ และตนเองเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็เข้ามาแก้ปัญหาถึงร้อยละ 90 แต่ก็ถูกสื่อตำหนิอยู่เรื่อยไป ทั้งที่เป็นเรื่องเก่า ที่ไม่เคยได้รับการแก้ไข
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเองมีอารมณ์รุนแรงตั้งแต่ในที่ประชุมครม. และกล่าวว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นเมืองประวัติศาสตร์ ที่คนไทยอยู่ได้เพราะบรรพบุรุษรักษาเอาไว้ จึงขออย่าทำลายแผ่นดิน หากมีแต่ผู้ติไม่มีผู้ก่อ ประเทศไทยจะอยู่ไม่ได้ อย่างไรก็ตามหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนายกรัฐมนตรีได้พบปะกับประชาชนจำนวน 1,000 คนที่มารอต้อนรับ หลังจากนั้นจะเดินทางไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สถานเจ้าสามพระยา ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร