นายกฯขอความร่วมมือสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและเศรษฐกิจ/สตง.รับตรวจสอบจัดซื้อเรือเหาะตรวจการณ์

19 กันยายน 2560, 07:23น.


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ลงพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี และพระนครศรีอยุธยา โดยวันนี้ จะประชุมที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีวาระพิจารณาสำคัญคืองบสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำ 2 แห่ง เพื่อประโยชน์ในการระบายน้ำ และกักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง รวมทั้งโครงข่ายโลจิสติกส์



โดยในการลงพื้นที่วันแรกเมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่าแม้การแก้ปัญหาเศรษฐกิจจะไม่ดีมากนักแต่เชื่อว่าในอนาคตทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างแน่นอน และขอให้ทุกคนนึกถึงวิกฤติที่ผ่านมา เพื่อร่วมมือกันสร้างความเปลี่ยนแปลงและกล่าวกับแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีว่า รัฐบาลไม่ได้เลือกข้างและดีใจที่พบนักการเมืองขอให้ทุกคนสัญญาจะทำให้ประเทศดีขึ้น และนักการเมืองต้องไม่ผิดสัญญา จากนั้นกล่าวว่านี่คือบรรยากาศเลือกตั้ง แต่การเลือกตั้งครั้งหน้าจะต้องได้คนดี



ส่วนที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เมื่อวานนี้นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยเดินทางเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบโครงการจัดซื้อจัดหาเรือเหาะตรวจการณ์ของกองทัพบกมูลค่า 350 ล้านบาทในปี 2552 ในช่วงที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)



นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการ สตง. เปิดเผยว่า จะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน เพื่อตรวจสอบการจัดซื้อ และการใช้งานส่วนกรณีการจัดซื้อเครื่องมือตรวจวัตถุระเบิดจีที 200 ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งหนังสือตอบกลับมาว่าได้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดเตรียมฟ้องเอาผิดผู้ผลิตและผู้นำเข้าแล้ว โดยกรณีของจีที 200 เป็นเรื่องลวงโลกที่มีหลายประเทศที่ถูกหลอกขาย



ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้แจงว่า ในปี 2558 ป.ป.ช. เคยตรวจสอบการจัดซื้อเรือเหาะ และมีมติว่าไม่มีมูลความผิด ดังนั้นหากมีการส่งเรื่องให้ไต่สวนอีกครั้ง ผู้ร้องเรียนต้องมีหลักฐานใหม่ ขณะที่กรณีของจีที 200 ที่ประชุมเห็นว่ามีประเด็นที่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม โดย ป.ป.ช. ได้รับคำพิพากษาจากศาลสหราชอาณาจักร ที่พิพากษายึดทรัพย์อดีตนักธุรกิจที่จำหน่ายเครื่อง จีที 200 แล้วขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการแปลคำพิพากษาและตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติม



ส่วนที่ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น เข้ายื่นหนังสือที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายฟอกเงินกับผู้กระทำความผิดทุกรายโดยไม่เลือกปฏิบัติ ในคดีทุจริตธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ บริษัทในเครือกฤษดามหานคร มิเช่นนั้นอาจอาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งก่อนหน้านี้อธิบดีดีเอสไอ ส่งหนังสือถึงเลขาธิการ ปปง. ขอให้ส่งผู้แทนเข้าให้ปากคำ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนายพานทองแท้ ชินวัตร และพวกเมื่อวานนี้ แต่ผู้แทน ปปง. ขอเลื่อนการให้ปากคำ เนื่องจากมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนในบางประเด็น



ยังมีกรณีที่ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช. ปี 2553 ยื่นหนังสือที่สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อขอให้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.รื้อฟื้นคดีสลายชุมนุมปี 2553 ภายหลังศาลฎีกายกฟ้อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งทางสำนักงานอัยการสูงสุดรับจะนำหนังสือเสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการตามกฎหมายเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยเร็ว



 ..

ข่าวทั้งหมด

X