*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา08.30น.*

11 สิงหาคม 2557, 08:59น.


+++การติดตามจับผู้ต้องหาคดีอาวุธสงครามในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 29 คน ส่วนใหญ่จับกุมได้แล้ว เหลือเพียง 7-8 คน ที่ยังจับกุมไม่ได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นมี น.ส.กริชสุดา คุณะแสน รวมอยู่ด้วย สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยง เป็นขบวนการเดียวกัน เพียงแต่ใครจะทำหน้าที่ อะไรเท่านั้น อย่างกรณีนายยงยุทธ หรือชินจัง บุญดี อายุ 26 ปี ให้การว่ารู้จักกับ น.ส.กริชสุดา ในพื้นที่ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงด้วย ซึ่งการติดตามตัว น.ส.กริชสุดา เชื่อว่าได้หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศแล้ว แต่จะเป็นประเทศใดนั้นยังไม่สามารถยืนยันได้ แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้เมื่อศาลอนุมัติหมายจับแล้ว ตำรวจก็จะให้กองการต่างประเทศ แปลหมายจับเป็นภาษาอังกฤษ ก่อนส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดดำเนินการยื่นเรื่องส่งตัว น.ส.กริชสุดา มาดำเนินคดีในประเทศไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป



 +++ พล.ต.อ.สมยศ พร้อมด้วย พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รรท.ผบช.น. พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (รอง ผบก.น.2) และพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน คุมตัว นายยงยุทธ ผู้ต้องหายิงอาวุธสงครามระเบิดเอ็ม 79 ใส่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2557 ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ วันเกิดเหตุนายยงยุทธ พร้อมพวกขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้ายาริส สีขาว มาจากถนนหอวัง มุ่งหน้าถนนวิภาวดีรังสิต ก่อนมาจอดรถชิดตรงเกาะกลางถนนหอวังก่อนออกถนนวิภาวดีรังสิต จากนั้นนายยงยุทธซึ่งนั่งมาที่บริเวณเบาะหลังด้านขวาใช้เครื่องยิงลูกระเบิดชนิดเอ็ม 79 ยิงใส่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ในระหว่างช่วงการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ก่อนหลบหนีไป



+++พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า นายยงยุทธ ถูกจับตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี คดีร่วมกับพวกยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ใส่อาคารสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.)  ถนนสนามบินน้ำ และถูกทหารควบคุมตัวได้ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม จากการสอบสวนขยายผล นายยงยุทธ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ที่ลงมือคดียิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ใส่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ซึ่งเป็นเพียงจุดเดียวที่ได้ลงมือเอง ส่วนจุดอื่นนายยงยุทธ แค่มีส่วนรู้เห็นเท่านั้น  นายยงยุทธ สารภาพว่าร่วมกับพวกยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ใส่เวที กปปส. แจ้งวัฒนะ และยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ใส่บริเวณใกล้ห้างโลตัส สาขาแจ้งวัฒนะ และสำนักงาน ป.ป.ช.



+++ความคืบหน้าคดีคนร้ายยิง "เอ็กซ์" จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย เสียชีวิต ปากซอยรามคำแหง 166 ถนนรามคำแหง แขวงและเขตมีนบุรี กทม. เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 1 คน ซึ่งทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เปิดเผยผลการจับกุม นายธวัชชัย หรืออ้น เพชรโชติ อายุ 33 ปี ภูมิลำเนา อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2556 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ถือเป็นการปิดคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมนายธวัชชัยได้ที่ อ.จะนะ จ.สงขลา พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า คดีนี้ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ครบทุกรายแล้ว โดยคดีอยู่ในชั้นศาล หลังจากนี้ขอเวลาเจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูล แล้วจะนำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้ และส่งสำนวนให้อัยการพิพากษาต่อไป ยืนยันได้ว่าเป็นผู้กระทำความผิดจริง ไม่ใช่แพะ โดยมาจากปัญหาความขัดแย้งในครอบครัว อย่างไรก็ตาม แจ้งข้อหาสามีภรรยาที่ให้ที่พักกับนายธวัชชัยด้วย



+++เรื่องของเศรษฐกิจ ติดตามประเด็นการผ่าตัดเร่งด่วนใน 6 รัฐวิสาหกิจที่กำลังร้อนแรง ซึ่งซูเปอร์บอร์ดจะเคาะวันที่ 15 ส.ค.นี้ว่าจะมีแนวทางแก้ไขอย่างไร นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ส่งแผนฟื้นฟูกิจการมาให้กระทรวงคมนาคมแล้ว คาดว่าจะพิจารณาในสัปดาห์นี้ จากนั้นจะเสนอให้คณะอนุกรรมการพิจารณาและกลั่นกรองแผนการแก้ไขปัญหาของรัฐวิสาหกิจพิจารณา เพื่อนำเสนอคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือซุปเปอร์บอร์ดต่อไป          +++นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ร.ฟ.ท.ส่งแผนฟื้นฟูกิจการให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้ว หลังจากนำกลับมาจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม



+++สำหรับแผนฟื้นฟูการบินไทย มีรายงานว่า จะลดรายจ่ายให้ได้ 4,000 ล้านบาท และเพิ่มรายได้อีก 3,000 ล้านบาท โดยมาตรการลดรายจ่ายจะปรับลดเที่ยวบินระยะทางบินมากกว่า 8 ชั่วโมง ที่มีจำนวนผู้โดยสารน้อย การจัดทำโครงการเกษียณอายุงานก่อนกำหนด (เออร์ลี่รีไทร์) เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ปัจจุบันการบินไทยมีพนักงานประมาณ 26,000 คน มีเป้าหมายจะเจรจาพนักงานที่ไม่มีหน้าที่ประจำ รวมถึงพนักงานที่ป่วยให้เข้าร่วมโครงการก่อนอันดับแรก เบื้องต้นกำหนดปีแรกไว้ที่ประมาณ 900 คน  ส่วนการเพิ่มรายได้ ได้ย้ายสายการบินไทยสมายล์ บริษัทลูกของการบินไทยจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปท่าอากาศยานดอนเมือง ที่ดำนินการไปแล้ว โดยจะให้ความสำคัญกับเส้นทางบินในภูมิภาคเป็นหลัก โดยเฉพาะตลาดจีนและญี่ปุ่น ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูง โดยจะเพิ่มความถี่เที่ยวบินเส้นทางที่มีผู้โดยสารหนาแน่น



+++ส่วนสถานการณ์ตลาดหุ้นไทย ในวันพุธที่เปิดทำการซื้อขาย นักวิเคราะห์ มองว่า สถานการณ์นอกประเทศมีเรื่องที่จะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นต่างประเทศ และสะท้อนมาถึงการปรับตัวของตลาดหุ้นไทยที่จะเปิดตลาดวันที่ 13 ส.ค. โดยสถานการณ์ในอิรักและยูเครนจากสัปดาห์ก่อนมีปัญหาการสู้รบในหลายพื้นที่ยังรุนแรงทั้งในลิเบีย อิรัก ซีเรีย อิสราเอล รวมทั้งรัสเซียที่ส่งกองกำลังเข้าประชิดชายแดนยูเครนจนนำไปสู่การขยายมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและชาติตะวันตก ซึ่งรัสเซียเองก็ได้ตอบโต้ด้วยการคว่ำบาตรทางการค้ากลับ นอกจากนั้นยังมีการผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 13 ปีของรัฐบาลอาร์เจนตินาความอ่อนแอของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยุโรป เมื่ออิตาลีเผชิญความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้สถานการณ์โรคอีโบลาที่รุนแรง สร้างความหวาดหวั่นให้กับผู้คนอยู่มิใช่น้อย



+++เรื่องอุ้มบุญ หลังจากข่าวสาวไทยรับจ้างอุ้มบุญให้กับชาวต่างชาติ จากการสัมภาษณ์ในรายการ 60 มินิท ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ของประเทศออสเตรเลีย นายเดวิด และนางเวนดี ฟาร์เนล พ่อแม่น้องแกมมี่ ออกมาเปิดใจปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ต้องการให้ทำแท้งหลังพบว่าน้องแกมมี่มีอาการผิดปกติ อีกทั้งไม่เคยมีการตกลงกับเอเจนซี ว่า จะแก้ปัญหาดังกล่าว โดยการยกเด็กให้แม่อุ้มบุญดูแล เนื่องจากพวกเขายินดีอย่างยิ่งที่จะดูแลเด็กทั้งสองคน รวมถึงเรื่องการรักษาอาการป่วยของแกมมี่ด้วย ไม่เคยบอกว่าจะยกเด็กให้สาวอุ้มบุญ แต่ม่อุ้มบุญขู่ว่า หากจะนำเด็กผู้ชายไป เธอจะไปแจ้งตำรวจ



+++ความคืบหน้าหนุ่มชาวญี่ปุ่นชื่อ นายชิเกตะ มิตซูโตกิ อายุ 24 ปี ซึ่งตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าเป็นทายาทมหาเศรษฐีญี่ปุ่นรวยติดอันดับโลก ได้จ้างหญิงไทยอุ้มท้องเด็กมากกว่า 13 คน และนำเด็กบางส่วนออกจากประเทศไทยไปแล้วนั้น พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น.เปิดเผยว่า ในส่วนของทนายความของชาวญี่ปุ่นรับปากว่าจะนำตัวเพื่อให้มาพบเจ้าหน้าที่ โดยกำชับว่าให้นำเด็กทั้ง 3 คน ที่ออกจากประเทศไปมายืนยันด้วยว่าเด็กยังปกติดี มีรายงานว่า ช่วงบ่ายนี้ ทนายความของชาวญี่ปุ่น จะนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนที่ สน.วังทองหลาง



+++ขณะนี้ที่เกาะฮ่องกง ได้มีสื่อมวลชนจำนวนมาก มารอถ่ายภาพสัมภาษณ์นายชิเกตะ พ่อชาวญี่ปุ่นที่ตึก เคนทาวเวอร์ บนถนนอบาดี เกาะฮ่องกง อันเป็นที่ตั้งของบริษัท โกบอล แมนเนกเม้นท์พาร์ทเนอร์ จำกัด ซึ่งเป็นสถานที่พักในขณะนี้ที่ฮ่องกง โดยมีผู้พบเห็นว่านายชิเกตะ เดินทางมาหลายวันแล้วแต่จนถึงขณะนี้ผู้สื่อข่าวยังไม่พบตัว



+++ ด้าน นพ.ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้อำนวยการกองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวกรณีนาย สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยหลังหารือทวิภาคีกับ นางจูลี บิชอป รมว.ต่างประเทศออสเตรเลีย ในระหว่างประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ 47 ที่ประเทศพม่า ว่ายังมีชาวออสเตรเลียเข้ามาจ้างคนไทยอุ้มบุญและเด็กยังอยู่ในท้องอีกประมาณ 100 ราย ว่า อาจเป็นการทำอุ้มบุญจากคลินิกแห่งเดียวกับที่ทำอุ้มบุญน้องแกมมี่ เพราะจากที่เข้าตรวจสอบคลินิกก่อนหน้านี้ พบประวัติการทำลักษณะเดียวกับน้องแกมมี่ และกรณีอื่นๆ อีก รวมกว่า 100 ราย ตอนนี้ สบส.ได้ตรวจสอบข้อมูลเพื่อคัดแยกว่ากรณีใดเข้าข่ายกระทำที่ผิด



 



 



 



 



 



 



 



 



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X