การประชุมติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุวางระเบิดตู้เอทีเอ็ม หน้าห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัสเอ็กเพรส ซอยกรุงเทพกรีฑา35 ก่อนจะชิงเงินกว่า3แสนบาทหลบหนีไป พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาติดตามความคืบหน้าที่สถานีตำรวจนครบาลประเวศ หลังการประชุมพลตำรวจโทศานิตย์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุตัวบุคคลและจุดปลายทางที่คนร้ายหลบหนีได้ ซึ่งอยู่ระหว่างไล่ตรวจสอบเส้นทางการหลบหนี และยังไม่ยืนยันชนิดระเบิดที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยจะต้องรอรายงานจากกองพิสูจน์หลักฐานก่อนว่า ตรวจพบร่องรอยวัตถุพยานชนิดใดบ้าง ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างการรอผลจากห้องปฏิบัติการ ทั้งนี้ได้เร่งให้ฝ่ายสืบสวนมีการจำลองเหตุการณ์ก ทั้งห้วงเวลาที่คนร้ายขับรถมาจอดและลงมือ ว่าใช้เวลานานแค่ไหน ก่อเหตุในลักษณะใดได้บ้าง โดยคดีนี้จำเป็นต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อใช้เป็นแนวทางการสืบสวนให้ครอบคลุม
และล่าสุดได้สอบปากคำพยานไปแล้วกว่า10ปาก ต่างยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุเป็นผู้ชาย ลงมือเพียงคนเดียว และยังคงตั้งประเด็นไปที่การประสงค์ต่อทรัพย์ แต่ในประเด็นอื่นๆ เช่น เรื่องส่วนตัว ก็ยังไม่ตัดทิ้ง สำหรับถังแก๊สที่พบ มีพยานที่เป็นเจ้าของร้านค้าใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ ให้การว่าเป็นของตนเองจริง แต่ปืนยิงแก๊สนั้น ไม่ใช่ ซึ่งก็ได้ให้ตำรวจเข้าไปเก็บดีเอ็นเอ เจ้าของร้านไว้ เพื่อเทียบเคียงกับข้อมูล
ส่วนรถจักรยานยนต์ ที่ใช้ในการลงมือขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจน เพราะหลักฐานจากกล้องวงจรปิด พบว่า รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และมีสภาพค่อนข้างเก่า จึงให้ฝ่ายสืบสวนเร่งตรวจสอบประเด็นนี้ มีรายงานจากที่ประชุมในวันนี้ว่า ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มอบหมายให้ ตำรวจตรวจสอบเส้นทางจากจุดเกิดเหตุออกไป หมู่บ้านสวนสน บางกะปิ เข้าย่านรามคำแหง ย่านหมู่บ้านพฤกษชาติ รวมทั้งถนนเลียบทางด่วนกาญจนาภิเษก เพื่อตรวจสอบว่า ผู้ก่อเหตุใช้เส้นทางใดบ้าง เพราะแต่ละจุดที่ต้องสงสัย มีความคาบเกี่ยวกับหลายท้องที่ แต่จากข้อมูลล่าสุดพบว่า ผู้ต้องสงสัย หายไปในพื้นที่หัวหมาก ดังนั้นจึงให้ตำรวจนครบาล 4 ระดมฝ่ายสืบสวนทั้งจากสถานีตำรวจนครบาลบางชัน บึงกุ่ม ลาดพร้าว และหัวหมาก เร่งตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้ และมอบหมายให้เร่งตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ เพื่อหาข้อมูลเบาะแสผู้ต้องสงสัยในช่วงเวลาเกิดเหตุด้วย