ผบ.ทบ.กำชับกวาดล้างอาวุธ/กกต.เตรียมประชุมกรอบ150วันรวมวันประกาศผลเลือกตั้งหรือไม่

14 กันยายน 2560, 12:44น.


+++การกวาดล้างวัตถุระเบิด ภายหลังมีคนร้ายนำวัตถุระเบิดวางตู้เอทีเอ็มหน้าห้างสรรพสินค้า ซ.กรุงเทพกรีฑา 35 พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า มีกระบวนการในการติดตามกวาดล้าง ตามข้อมูลแหล่งข่าวที่มีอยู่ทั้งในส่วนของกลุ่มผู้มีอิทธิพล อาวุธสงครามและวัตถุระเบิดก็สามารถควบคุมได้มาส่วนหนึ่งแต่ในช่วงที่ผ่านมามีการสะสมลักลอบเก็บเอาไว้พอสมควร ขณะนี้ พยายามดำเนินการในเรื่องนี้อยู่ ซึ่งก็เข้าใจว่าเป็นความกังวลของสังคม พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีกำลังพล เข้าไปเกี่ยวข้องในสิ่งผิดกฎหมาย ถือเป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรีอยู่แล้วโดยเฉพาะในเรื่องบ่อนการพนัน มีการดำเนินการร่วมกันโดยตลอด ได้เน้นย้ำไปยังกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.)ที่เข้าไปเกี่ยวข้องมีกำลังพลไปพัวพันในเรื่องของการทุจริตหรือรับสินบน หากมีเบาะแสก็ให้แจ้งมาทันที ยินดีที่จะดำเนินการ เจ้าหน้าที่ทหาร รวมถึงเจ้าหน้าที่อื่นๆยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีกำลังพลเข้าไปเกี่ยวข้องและหาถ้ามีก็จะลงโทษตามกฎหมาย โดยในพื้นที่กทม.มีพล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่1 ดูแลอยู่แล้ว เชื่อว่าไม่ปล่อยปละละเลย



+++จากกรณีที่สื่อมวลชนเสนอข่าวว่า มีมิจฉาชีพหลอกขายรถยนต์ โดยอ้างว่าเป็นรถยนต์ที่มาจากการถูกยึด และคดีถึงที่สุดแล้ว จึงนำมาขายในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด นอกจากนี้ยังหลอกให้ผู้เสียหายชักชวนให้ผู้อื่นมาซื้อเพื่อที่จะได้รับส่วนแบ่งจากการขาย โดยใช้วิธีการส่งภาพรถให้ผู้เสียหายผ่านทางโทรศัพท์มือถือและพาไปดูรถยนต์ แต่เมื่อจ่ายเงินจองรถยนต์ไปแล้ว ทำทีว่าเอกสารไม่ครบถ้วน จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งยังได้แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งหนึ่ง หรือเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ



+++นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. เตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อการแอบอ้างเป็นอันขาด ขณะนี้ได้สั่งการให้ดำเนินการติดตามตรวจสอบผู้แอบอ้างรายดังกล่าวแล้ว พบว่ามีการกระทำความผิดลักษณะนี้ในหลายพื้นที่ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย นครราชสีมา นครสวรรค์ และจะดำเนินการติดตามอย่างเข้มงวดต่อไป โดยหากพบเห็นผู้กระทำความผิด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ป.ป.ส. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง



+++แนวทางการขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ที่กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จะต้องมีคำสั่งจากเลขาธิการ ป.ป.ส. ให้นำทรัพย์สินออกขายทอดตลาด ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ศาลมีคำสั่งให้ริบทรัพย์สินนั้นตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และเป็นทรัพย์สินที่ไม่เหมาะสมในการเก็บรักษา หรือเก็บไว้จะเป็นภาระแก่ทางราชการ เพื่อดำเนินการขายทอดตลาดต่อไป โดยต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขายทอดตลาดขึ้นเพื่อพิจารณา กำกับดูแล รวมถึงกำหนดราคาขั้นต่ำของทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาด โดยอาจจัดจ้างหรือมอบหมายหน่วยงานราชการ หรือบริษัทเอกชนให้เป็นผู้ดำเนินการขายทอดตลาดแทนก็ได้ และต้องกระทำโดยเปิดเผย มีการประกาศให้สาธารณชนรับรู้ และเข้าร่วมการประมูลเพื่อนำเงินและรายได้ดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ หรือสนับสนุนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดต่อไป



+++นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า หลังจากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกกต.มีผลใช้บังคับ ซึ่งเรื่องที่มีผลทันทีคือกกต.จังหวัด 14 จังหวัดที่เหลืออยู่จะพ้นสภาพทันที สำนักงานกกต.จังหวัดจะถูกบังคับบัญชาโดยตรงจากผู้อำนวยการกกต.จังหวัด ขณะที่กกต.ชุดปัจจุบันมีผลต้องพ้นสภาพไปเช่นกัน แต่ตามกฎหมายกำหนดให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีกกต.ชุดใหม่ ยอมรับว่ามีความเสี่ยงที่กระบวนการสรรหา กกต.ใหม่อาจจะล่าช้า เพราะรัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) สามารถลงมติไม่เห็นชอบรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาเสนอได้ ซึ่งไม่ว่าจะไม่เห็นชอบทั้งคณะหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง คณะกรรมการสรรหา ต้องเริ่มกระบวนการสรรหาบุคคลใหม่มาทดแทนบุคคลที่สนช.ไม่เห็นชอบ



+++ส่วนกำหนดการจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน นายสมชัย กล่าวว่า เป็นอีกโจทย์สำคัญที่ฝ่ายที่มีอำนาจต้องตัดสินใจว่า 150 วัน จะนับรวมวันประกาศผลการเลือกตั้งแล้วหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้กกต.ได้สอบถามไปยังกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แล้ว กรธ.ระบุว่า กรธ.มีหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญ ไม่มีหน้าที่ตีความรัฐธรรมนูญ ขณะที่คณะกรรมการกฤษฎีกาก็ไม่ตอบคำถาม ในวันอังคารที่ 19 ก.ย.นี้ กกต.จะประชุมเพื่อพูดคุยกันว่าจำเป็นต้องสอบถามศาลรัฐธรรมนูญในเวลานี้หรือไม่เรื่องการตีความว่าการจัดการเลือกตั้งภายใน 150 วัน รวมถึงวันประกาศผลการเลือกตั้งหรือไม่ และจะหารือกันด้วยว่ากกต.จะยังทำคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเรื่องพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกกต.ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เรื่องการตัดอำนาจการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น และอำนาจ กกต.1 คนในการระงับยังยั้บหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่ แต่ยืนยันว่าจะไม่ยื่นคำร้องเรื่องการเซ็ตซีโร่กกต.แล้ว เพราะกกต.เห็นตรงกันว่าจะไม่ยื่นเรื่องดังกล่าว 



+++ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น  ที่อัยการคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายศุภชัย ศรีศุภอักษร  อายุ 59 ปี  อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เป็นจำเลยฐานยักยอกทรัพย์ และจัดการทรัพย์สินผู้อื่นโดยทุจริต ในฐานะเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน ศาลพิเคราะห์ถึงข้ออุทธรณ์แล้วเห็นว่า คดีนี้โจทก์มีอำนาจในการฟ้องจำเลยตามชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งพฤติการณ์ของจำเลยมีผลกระทบต่อกิจการของสหกรณ์ฯ อย่างร้ายแรง แต่อย่างไรก็ตามจำเลยได้ชดใช้เงินกว่า 27.6 ล้านบาท ให้กับโจทก์ไปแล้ว จึงเห็นสมควรลดอัตราโทษลง จึงพิพากษาแก้ให้จำคุกแต่ละกระทง รวม 14 ปี แต่เนี่องจากจำเลยให้การรับสารภาพเป็นเหตุให้บรรเทาโทษ คงเหลือ 7 ปี ไม่รอลงอาญา นอกนั้นให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 32 ปี  รับสารภาพลดกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 16 ปี



+++กรณีนี้เกิดขึ้น ระหว่างวันที่ 10 เมษายน - 8 ตุลาคม 2556 นายศุภชัย จำเลยขณะนั้นเป็นประธานสหกรณ์ฯยูเนี่ยนคลองจั่น ให้เจ้าหน้าที่บัญชี เบิกเงินสดของสหกรณ์ฯคลองจั่น ผู้เสียหาย หลายครั้งรวม 22,132,000 บาท เข้าบัญชีของจำเลย หรือบุคคลที่ 3 โดยทุจริต ทั้งนี้ นายวันชัย บุนนาค ทนายความของนายศุภชัย จะขอคัดคำพิพากษาเพื่อกลับไปพิจารณาต่อสู้ในชั้นฎีกาต่อไป



แฟ้มภาพ



 



 

ข่าวทั้งหมด

X