+++พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศและบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เปิดเผยว่า การก่อสร้างพระเมรุมาศ คืบหน้าไปกว่าร้อยละ 90 กำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย. ซึ่งจะมีเวลาที่เหลืออีก 17 วัน ในการเก็บรายละเอียดเพื่อให้การดำเนินงานทุกด้านสมพระเกียรติยศที่สุด วันที่ 21 ก.ย. นายกฯ เป็นประธานในพิธีบวงสรวงราชรถและพระยานมาศที่ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์แล้วเสร็จ ก่อนจะอัญเชิญไปทำการซักซ้อมและใช้ในการพระราชพิธียังโรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร เวลา 14.00 น.
+++การจัดนิทรรศการภายหลังพระราชพิธี ชื่อนิทรรศการว่าพระผู้ทรงเป็นนิรันดร์ กำหนดเวลาเข้าชมตั้งแต่เวลา 07.00 -21.00 น. ตั้งแต่วันที่ 1-30 พ.ย. โดยจะมีรถรับส่ง 4 มุมเมือง 5-6 จุดพร้อมรับสมัครอาสาสมัครนำชมนิทรรศการพร้อมทั้งจัดมหรสพแสดงให้ประชาชนได้เข้าชมตั้งแต่เวลา 07.00-21.00 น. ทั้งบริเวณเวทีมหรสพ และภายในพระเมรุมาศที่จะบรรเลงเพลงปี่พาทย์ที่ใช้ในพระราชพิธีเพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสรับชมรับฟังด้วย
+++ เรื่องสภาพอากาศ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยสถานการณ์อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ เมื่อ 11 ก.ย. มีปริมาณน้ำในอ่างรวมกัน 53,131 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 71 ของความจุอ่าง รวมกันทั้งหมดมากกว่าปี 2559 รวม 12,813 ล้าน ลบ.ม. ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลักมีปริมาณน้ำรวมกัน 15,708 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 63 ของความจุอ่างรวมกันทั้งหมด ปริมาณน้ำมากกว่าปี 2559
+++นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 14-18 กันยายน 2560 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยจะมีกำลังแรงขึ้นลักษณะทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคเหนือ และภาคกลาง ซึ่งจะส่งผลให้มีน้ำท่าไหลหลากลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นนั้น กรมชลประทาน วางแผนการบริหารจัดการน้ำเพื่อลดยอดปริมาณน้ำหลากที่จะไหลลงสู่พื้นที่ตอนล่างเข้าไปเก็บไว้ในทุ่งแก้มลิง 12 ทุ่ง ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ จำนวน 1.15 ล้านไร่ มีการปรับปฏิทินการเพาะปลูกให้เร็วขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เพื่อให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ก่อนจะถึงฤดูน้ำหลากเดือนก.ย.-ต.ค. ปัจจุบันพบว่าภายในวันที่ 15 ก.ย. จะสามารถเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จในทุกพื้นที่ก่อนจะปรับพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีทั้งหมด 12 ทุ่ง ให้เป็นพื้นที่
+++ความคืบหน้าการไต่สวนคดีบริหารจัดการน้ำโดยมิชอบเมื่อปี 2554 พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติไม่ชี้มูล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีถูกกล่าวหาว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดการน้ำเมื่อปี 2554 จนทำให้เกิดอุทกภัยและความเสียหายกว่า 3.5 แสนล้านบาท โดยเห็นว่า การดำเนินการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำตามขั้นตอนของการบริหารราชการแผ่นดินแล้ว เรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ จึงไม่เข้าข่ายว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
+++กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะรัฐมนตรีรวม 34 ราย ถูกกล่าวหาว่า ใช้อำนาจโดยมิชอบในการจ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองระหว่างปี 2548-2553 พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า อยู่ระหว่างการไต่สวน องค์คณะไต่สวน (ประกอบด้วยคณะกรรมการ ป.ป.ช. 9 ราย) พิจารณา จะมีการประชุมอีกครั้งเร็วๆ นี้ คาดว่า จะมีความคืบหน้าอีกหลายคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดได้ภายในเดือนนี้
+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ รับฟังการแถลงยุทธศาสตร์ชาติ - ยุทธศาสตร์ทหาร ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ ชั้น 2 สโมสรทหารบก วิภาวดี
+++นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันที่ 15 ก.ย.นี้ กรมบัญชีกลาง จะเปิดผลตรวจสอบผู้ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จากจำนวนที่ลงทะเบียนทั้งหมด 14.1 ล้านคน ผลปรากฏว่า มีประชาชนผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ 11,431,681 คน และไม่ผ่านคุณสมบัติ 2,744,489 คน โดยเหตุผลหลักที่ถูกตัดสิทธิ์ คือมีทรัพย์สินที่ดินเกินกว่าที่กำหนด 1.6 ล้านคน เงินฝากเกินกว่า 100,000 บาท จำนวน 680,000 ราย และมีรายได้เกินกว่า 100,000 บาทต่อปี จำนวน 400,000 ราย เป็นต้น โดยสามารถรับบัตรสวัสดิการได้ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย.เป็นต้นไป และจะเริ่มใช้วันที่ 1 ต.ค.เป็นวันแรก
+++กรณีที่มีประชาชนแจ้งว่า สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีเอก หรือด็อกเตอร์ โดยได้ลงทะเบียนไว้ 500 คน จากการตรวจสอบโดยโทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลจำนวน 100 คน พบว่า สำเร็จการศึกษาปริญญาเอกเพียง 5 คน หรือ 5% เท่านั้น อีก 95 คน ระบุว่า เขียนเล่นๆ หรือเขียนกวนๆไป ไม่ได้สำเร็จการศึกษาปริญญาเอก
+++นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า กรณีที่ประชาชนลงทะเบียนแล้ว ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติสามารถขออุทธรณ์เพื่อให้มีการตรวจสอบคุณสมบัติใหม่ได้ ภายในวันที่ 29 ก.ย.2560 หลังจากนั้น กระทรวงการคลังประกาศผลการอุทธรณ์วันที่ 24 ต.ค. ผ่าน 2 ช่องทางคือ www.epayment.go.th และสายด่วนของธนาคารพันธมิตรทุกแห่ง
+++วันนี้ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดกับการจัดทำร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ เพื่อรองรับการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เช่น กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง กรมการค้าภายใน กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกองพาณิชย์ภูมิภาค เพื่อหารือแนวทางผลักดันร้านธงฟ้าประชารัฐ ให้ได้ตามแผนที่จะต้องมีการติดตั้งเครื่องรูดบัตร (อีดีซี) ให้ได้อย่างน้อยร้านละ 1 ตำบล และให้เร่งรัดผู้ประกอบการสินค้าส่งสินค้าเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้น
+++นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ภาษีบุหรี่ใหม่ที่มีผลวันที่ 16 ก.ย. 2560 ยอมรับว่าเป็นการปรับขึ้นภาษีมากกว่าเดิม แต่คงไม่ถึง 30 บาทต่อซองอย่างที่เป็นข่าวออกมา การปรับขึ้นภาษีบุหรี่ครั้งนี้เป็นไปตามข้อเสนอจากกระทรวงสาธารณสุข ที่ไม่ต้องการให้บุหรี่มีราคาต่ำมาก ดังนั้นจำเป็นต้องมีการปรับอัตราภาษีให้สอดคล้องกับนโยบายดูแลสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขที่ไม่ต้องการให้บุหรี่ราคาถูกนัก ส่วนภาษีสุรา-เบียร์ แชร์ในโลกออนไลน์ถึงภาระภาษีปรับขึ้น 100-200 บาท บางชนิดเพิ่มเป็น 1,000 บาทต่อขวด เป็นข้อมูลที่แชร์กันมั่ว ยืนยันว่าอัตราที่แชร์กันนั้นไม่ใช่อัตราที่กรมจะจัดเก็บแน่นอน กรมสรรพสามิต จะแถลงให้ทราบทันทีหากอัตราภาษีประกาศในราชกิจจานุเบกษา
+++ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ ปิดที่ 55.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในรายงานประจำเดือน ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร โอเปก เปิดเผยว่า กำลังการผลิตในเดือนสิงหาคม ลดลงเหลือ 32.76 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากกำลังผลิตที่ลดลงในลิเบีย, กาบอง, เวเนซุเอลา และอิรัก
+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเล็กน้อย ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ จากแรงหนุนหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับภาคปิโตรเลียม หลังราคาน้ำมันขยับขึ้นแรง
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 39.32 จุด ปิดที่ 22,158.18 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.89 จุด ปิดที่ 2,498.37 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 5.91 จุด ปิดที่ 6,460.19 จุด
นอกจากนี้แล้วหุ้นวอลล์สตรีท ยังได้แรงหนุนจากภาคค้าปลีก ตามข่าว ทาร์เก็ต บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐฯ มีแผนจ้างงานตามฤดูกาล 1 แสนอัตรา ก่อนเข้าสู่ฤดูกาลช็อปปิ้งช่วงคริสต์มาส โดย ทาร์เก็ต ปิดบวกร้อยละ 2.8 ขณะที่เบสต์บาย ปิดบวกร้อยละ 3.2
+++ราคาทองคำ ปิดลบเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน แตะระดับต่ำสุดในรอบเดือน จากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 4.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,328.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แฟ้มภาพ