การจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดผ่านทางโซเชียลมีเดีย พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม ขบวนการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดหรือกัญชา ที่จำหน่ายให้ลูกค้าผ่านเฟซบุ๊คชื่อ SLW420 และแอพพลิเคชั่นไลน์ชื่อ SLW420W ที่มีการจัดส่งผ่านทางพัสดุไปรษณีย์ โดยการจับกุมครั้งนี้ขยายผลมาจากที่ตำรวจได้ล่อซื้อกัญชาจำนวน2ครั้งจากทางไปรษณีย์ จากการสืบสวน ทราบว่า ผู้ที่นำกัญชามาส่งไปรษณีย์ คือ นายอภิศักดิ์ เทพานนท์ และนายสุมิตร เจริญธนสุข จึงได้ออกหมายจับและจับกุมได้ และสืบทราบว่าในวันที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้จัดส่งกัญชาให้ตำรวจแล้ว ยังส่งกัญชาให้ลูกค้าคนอื่นๆอีก21กล่อง จึงได้ประสานตำรวจท้องที่ปลายทางของพัสดุ จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก8ราย พร้อมของกลางกัญชาที่สั่งซื้อ
จากการสอบปากคำนายอภิศักดิ์และนายสุมิตร ทราบว่าเป็นพนักงานขนส่งจากบริษัทเอกชน(ลาล่ามูฟ) ที่คอยให้บริการส่งสินค้าให้กับลูกค้าผ่านมาแอพพลิเคชั่น ซึ่งทั้ง2รายให้การต่อว่า ได้รับพัสดุที่บรรจุกัญชาจากลูกค้าชื่อนางสาวณัฐธิดา ลำดับจุด ที่เรียกใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น เพื่อให้ไปส่งพัสดุดังกล่าวที่ไปรษณีย์
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ข้อหา มีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผลจับกุมนางสาวณัฐธิดา พร้อมของกลางเป็นกัญชา น้ำหนักประมาณ 3 กก. อุปกรณ์การตัดแบ่งกัญชาและอุปกรณ์การแพ็คกล่องพัสดุ ตาชั่ง สมุดบัญชีธนาคารและสมุดบัญชีลูกค้า ได้ที่อพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่งภายในซอยรามอินทรา 39 และจากการสอบสวนทราบว่า นางสาวณัฐธิดา เป็นผู้ดูแลเฟสบุ๊กและไลน์ดังกล่าว เพื่อติดต่อกับลูกค้าที่สั่งซื้อ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 5(กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
หลังจากที่จับกุมตัวนางสาวณัฐธิดา แล้ว ยังขยายผลจับกุมนายพรชัย รักการ พร้อมของกลางกัญชาน้ำหนักรวมประมาณ 33.5 กิโลกรัม รถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ 1 คัน อุปกรณ์การตัดแบ่งกัญชาและอุปกรณ์การแพ็คกล่องพัสดุ โดยจับกุมได้บริเวณริมถนนริมคลองรังสิต-นครนายก จังหวัดปทุมธานี และยอมรับว่าตนเองเป็นผู้ดูแลเฟซบุ๊คและไลน์เดียวกับนางสาวณัฐธิดา เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 5(กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหา ได้รับกัญชามาจากประเทศเพื่อนบ้านโดยจะจัดส่งกระจายไปยังทั่วประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาได้เน้นย้ำกับบริษัทขนส่งต่างๆว่า ให้สังเกตน้ำหนักของพัสดุที่ได้รับ ว่าเป็นยาเสพติดหรืออาวุธหรือไม่ พร้อมกำชับให้เพิ่มความเข้มงวดให้การตรวจสอบด้วย ขณะที่นายพรชัย 1ในผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้จำหน่ายกัญชามาประมาณ1ปีกว่าแล้ว โดยจะนำเงินที่ได้มาไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ยืนยันว่าไม่ได้นำเงินไปเล่นการพนัน หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำนายพรชัยไปดำเนินคดีและทำการขยายผลเพื่อติดตามจับกุมส่วนที่เหลือต่อไป