สหรัฐรำลึก 16ปี11กันยายน/เออร์มาอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน/เมียนมาขอนานาชาติสนับสนุนแก้ปัญหาโรฮิงญา

12 กันยายน 2560, 06:10น.


ในวาระ 16 ปีของเหตุก่อการร้าย 11 กันยายน เมื่อผู้ก่อการร้ายกลุ่มอัลกออิดะห์ จี้เครื่องบินพุ่งชนอาคารแฝดเวิล์ดเทรด เซ็นเตอร์ และกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 3,000 ราย ซึ่งสหรัฐฯ มีการจัดเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์และไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตหลายแห่ง โดยที่ทำเนียบขาวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนางเมลาเนีย สุภาพสตรีหมายเลข 1 ร่วมด้วยคณะเจ้าหน้าที่เข้าร่วมการไว้อาลัยในงานเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 8.46 น ตามเวลาที่มีการโจมตีจุดแรก คือเวิล์ดเทรด เซ็นเตอร์ ในเขตแมนฮัตตัน จากนั้นเดินทางไปที่กระทรวงกลาโหม ในเขตอาร์ลิงตัน เคาน์ตี รัฐเวอร์จิเนีย และวางพวงมาลาที่อนุสรณ์สถาน จากนั้นกล่าวสุนทรพจน์แสดงความเสียใจต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น แต่ก็เตือนกลุ่มก่อการร้ายว่าจะถูกกำจัด พร้อมให้คำมั่นว่าสหรัฐฯ จะไม่ต้องพบกับความสูญเสียเช่นนี้อีก



ด้านพายุเฮอริเคนเออร์มา อ่อนกำลังลงกลายเป็นพายุโซนร้อนแล้วหลังจากที่ขึ้นฝั่งรัฐฟลอริดา แต่ก็ยังทำให้มีลมแรงและฝนตกหนัก รวมถึงคลื่นพายุซัดฝั่ง ประชาชนในพื้นที่ทางใต้ประมาณ 6 ล้านคนยังไม่มีไฟฟ้าใช้ น้ำท่วมสูง  ศูนย์บริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินของฟลอริดาเริ่มปฏิบัติการกู้ภัยและประเมินความเสียหาย แต่ยังไม่มีการสรุปความสูญเสียชีวิตของประชาชนในฟลอริดา หลังจากที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 38 รายขณะที่พายุเคลื่อนที่ผ่านทะเลแคริบเบียนสู่ฟลอริดา



โดยตั้งแต่ก่อนที่พายุจะขึ้นฝั่ง ทางการฟลอริดาสั่งอพยพประชาชน 6 ล้าน 5 แสนคนเพื่อหลบหนีพายุ แต่เมื่อพายุอ่อนกำลังลงก็ยังคงคำสั่งนี้ไว้ เพราะสภาพความเสียหายของอาคารบ้านเรือน ท่าอากาศยานนานาชาติเมืองไมอามี ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในสหรัฐฯ ประกาศระงับการให้บริการ



พายุเออร์มาเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือตามแนวชายฝั่งด้านอ่าวเม็กซิโก และอ่อนกำลังลงจนกลายเป็นพายุโซนร้อนเมื่อถึงด้านเหนือของฟลอริดาหรือด้านใต้ของรัฐจอร์เจียในช่วงค่ำวันเดียวกัน ทำให้มีฝนตกหนัก  ขณะที่สำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติ (NWS) รายงานว่าเมื่อวันอาทิตย์ ฟลอริดาถูกถล่มด้วยพายุหมุนทอร์นาโด 5 ลูก ซึ่งเกิดขึ้นจากแรงกระตุ้นของเออร์มา นอกจากนี้ NWS ยังเตือนภัยพายุโซนร้อนในพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐแอละแบมา จอร์เจีย และเซาท์แคโรไลนา



คาดว่าความเสียหายจากพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ และเฮอริเคนเออร์มา จะมีจำนวนรวมกันสูงถึง 290,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือร้อยละ 1.5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐ วาณิชธนกิจโกลด์แมน แซคส์ ลดคาดการณ์เศรษฐกิจไตรมาส 3 ของสหรัฐลงมาอยู่ที่ร้อยละ 0.8 เหลือร้อยละ 2 และอาจปรับลดมากถึงร้อยละ 1 หากภัยธรรมชาติรุนแรงมากขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 3 โดยการฟื้นฟูจากเฮอริเคน ซึ่งประกอบไปด้วยการบริโภคที่เพิ่มขึ้นและการใช้จ่ายกับอสังหาริมทรัพย์จะช่วยการขยายตัวในไตรมาส 4 ที่คาดว่าจะโตร้อยละ 2.7 และคาดว่าธุรกิจประกันอาจต้องจ่ายค่าประกันมากถึง 2-6 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ



ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้รับผลกระทบจากเฮอร์ริเคน 2 ลูก สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ ปิดที่ 48.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ ปิดที่ 53.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 259.58 จุด หรือร้อยละ 1.19 ปิดที่ 22,057.37 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 26.68 จุด หรือร้อยละ 1.08 ปิดที่ 2,488.11 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 72.07 จุด หรือร้อยละ 1.13 ปิดที่ 6,432.26 จุด



ด้านสถานการณ์พายุฝนและน้ำท่วมที่เมืองลีวอร์โน ตอนกลางของอิตาลี พบผู้เสียชีวิต 6 ราย ขณะที่กรุงโรมซึ่งประสบภัยแล้งมานาน 3 เดือน กำลังเผชิญกับพายุฝนและน้ำท่วมหนัก กับมีการประกาศเตือนประชาชนให้อยู่ในที่พักเพราะอาจมีลูกเห็บตก

กองกำลังอาวุธชาวเคิร์ดและอาหรับในซีเรียซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ โจมตีกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ในภาคตะวันออกของซีเรียตามแนวชายแดนติดต่อกับอิรัก ซึ่งในเวลาเดียวกันกองกำลังฝ่ายรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียและอิหร่าน กำลังเร่งโจมตีเพื่อยึดคืนจังหวัดเดอีร์ อัล-ซอร์



เกาหลีเหนือเตือนว่า อเมริกาจะต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างสาสมจากความผลักดันมาตรการลงโทษรอบใหม่ในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งเกาหลีเหนือเห็นว่าการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของตน ถือเป็นมาตรการป้องกันอันชอบธรรม โดยมีการเปิดเผยว่า สหรัฐฯ ยอมแก้ไขมาตรการบางข้ออาทิ การห้ามส่งน้ำมันให้เกาหลีเหนือ และการขึ้นบัญชีนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือเหลือเพียงการห้ามทำการต้าสิ่งทอเกาหลีเหนือ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่า จีนและรัสเซียจะออกเสียงคัดค้านหรือสนับสนุน ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ สนับสนุนเรื่องข้อห้ามการค้าน้ำมันให้เกาหลีเหนือ เพื่อกดดันให้ยอมเจรจ แต่ประธานาธิบดีรัสเซีย ไม่เห็นด้วยเพราะจะส่งผลกระทบต่อประชาชน



กระทรวงการต่างประเทศเมียนมาออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นานาประเทศให้ความช่วยเหลือ และสนับสนุนความพยายามของรัฐบาล ในการนำเสถียรภาพ สันติภาพ และการพัฒนากลับคืนสู่รัฐยะไข่ โดยระบุว่า กลุ่มโรฮิงญาแห่งอาระกัน หรือ เออาร์เอสเอพยายามในการบั่นทอนการทำงานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาความรุนแรง โดยความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม เมื่อกลุ่มเออาร์เอสเอ กระจายกำลังกันโจมตีสถานีตำรวจ ด่านรักษาความมั่นคง และค่ายทหาร ทำให้กองทัพตอบโต้อย่างหนักเพื่อกวาดล้างกลุ่มก่อการร้าย



องค์การเพื่อการย้ายถิ่นฐานระหว่างประเทศ หรือ ไอโอเอ็ม ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้องค์การสหประชาชาติ เปิดเผยว่า มีผู้อพยพชาวโรฮิงญาเดินทางมาถึงบังกลาเทศแล้ว 313,000 คน จึงเรียกร้องของบประมาณเพื่อช่วยเหลือจำนวน 26 ล้าน 1 แสนดอลลาร์เพื่อนำไปใช้ในการดูแลผู้อพยพในช่วง 3 เดือนข้างหน้า



นายไซอิด ราอัด อัล-ฮุสเซน หัวหน้าสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวประณามปฏิบัติการความมั่นคงในรัฐยะไข่ โดยเฉพาะการวางกับระเบิดตามพรมแดน



องค์ทะไลลามะองค์ที่ 14 ผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวทิเบต เรียกร้องให้ นางออง ซาน ซู จี ผู้นำเมียนมา เร่งหาหนทางยุติปัญหาด้วยจิตวิญญาณของความสันติและประนีประนอม



...

ข่าวทั้งหมด

X