การต้อนรับรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น พร้อมคณะผู้บริหารนักลงทุนญี่ปุ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับนาย Hiroshige Seko รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม พร้อมด้วยหน่วยงานด้านเศรษฐกิจและคณะลงทุนรายใหญ่ กว่า 570 รายจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อผลักดันด้านเศรษฐกิจ รวมมือเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการเปิดเสรีการค้าและการลงทุน พัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายและผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือSMEs รวมไปถึงยกระดับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม EEC (Eastern Economic Corridor) เป็น EECi (Eastern Economic Corridor of Innovation)
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกยินดีเพราะเป็นการเยือนครั้งสำคัญโดย 130 ปีที่ผ่านมามีความร่วมมือกันทุกระดับ และจะต้องร่วมมืออีก130 ปีเป็นอย่างน้อยเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีไปจนถึงลูกหลานในอนาคต ซึ่งไทยได้ให้ความสำคัญกับประเทศญี่ปุ่นเสมอ ขอให้มั่นใจว่าตนเองจะทำทุกอย่างให้ไทยและญี่ปุ่นมีความไว้เนื้อเชื่อใจกันที่สุดเพื่อวันข้างหน้าและความเท่าเทียมความมั่นคงทางด้านการค้า การลงทุน ซึ่งญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่สนับสนุนให้ไทยเติบโตมาได้จนถึงทุกวันนี้ ยินดีที่มาลงทุนให้ญี่ป่นเข้ามาร่วมลงทุน ขณะเดียวกัน ไทยได้มีการกำหนดแผนพัฒนาประเทศ 20 ปีเอาไว้ ดังนั้นการพัฒนาทุกอย่างจะต้องยั่งยืน เพราะทุกรัฐบาลที่เข้ามาจะต้องดำเนินการต่อ พร้อมยืนยันว่าขณะนี้รัฐบาลมีเสถียรภาพมากที่สุดจึงขอให้มีความเชื่อมั่น
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า 4 โครงการหลักที่เอกชนให้ความสนใจมาร่วมปลายปีนี้ รัฐบาลจะเร่งดำเนินการให้เร็วขึ้นในการก่อสร้างทั้งโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้กลับไปและตัดสินใจลงทุนเลยเพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ พร้อมยืนยันด้วยว่าไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใดเข้ามาจะต้องสานต่อโครงการ EEC และเป็นกฎหมายที่บัญญัติไว้ในยุทธศาสตร์ชาติแล้วจึงขอให้มั่นใจในด้านความมั่นคงของโครงการ และขอยืนยันด้วยเกียรติยศของตัวเองที่เป็นนายกรัฐมนตรีและเคยเป็นทหาร ว่าไทยให้เกียรติกับประเทศญี่ปุ่นขอให้ไว้วางใจประเทศไทย พร้อมขอบคุณญี่ปุ่นที่ได้ศึกษาในเรื่องรถไฟความเร็วสูงและ east west corridor ซึ่งการลงทุนในช่วง 5 ปีแรกของไทยก็จะต้องมีส่วนนี้ด้วย จึงถือเป็นโอกาสของญี่ปุ่นในการที่จะลงทุนนอกเหนือจากธุรกิจที่จะร่วมลงทุนในเขตเศรษฐกิจอีกด้วย และย้ำว่าไทยได้ให้ความสำคัญในการพัฒนา SMEs อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีระบุด้วยว่าตัวเองชอบอาหารญี่ปุ่นทานง่าย อร่อย เป็นห่วงว่าญี่ป่นจะไม่มีเนื้อทานเพราะทุกคนนิยมทานเนื้อของญี่ปุ่นกันมาก นอกจากนี้ยังฝากผลไม้ไทยกับคนญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี
CR:คลังภาพ รัฐบาลไทย