กองทัพปลดปล่อยโรฮิงญาแห่งอาระกันออกแถลงการณ์ประกาศหยุดยิงชั่วคราว 1 เดือน นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อเปิดโอกาสให้องค์กรด้านมนุษยธรรมเข้าช่วยเหลือผู้คนในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมียนมา ซึ่งกำลังเผชิญกระแสแห่งความหิวโหย นอกเหนือจากความรุนแรง ซึ่งทำให้ชาวมุสลิมโรฮิงญาเกือบ 300,000 คนต้องอพยพหลบหนีเข้าไปยังฝั่งบังกลาเทศ ส่วนผู้ที่มิได้เป็นชาวมุสลิมราว 30,000 คนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น อันเนื่องจากกองทัพเมียนมาเดินหน้ากวาดล้างชาวมุสลิมโรฮิงญาอย่างหนักหน่วง ทั้งการสังหารหมู่ ทรมาน ข่มขืน และเผาทำลายบ้านเรือน หลังกองทัพปลดปล่อยโรฮิงญาแห่งอาระกัน ซึ่งรัฐบาลเมียนมาประกาศเป็นองค์กรก่อการร้าย โจมตีด่านตำรวจและฐานทัพอย่างต่อเนื่องเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมโดยกองทัพปลดปล่อยโรฮิงญาแห่งอาระกันได้กระตุ้นให้องค์กรต่างๆ กลับมาช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรม โดยไม่คำนึงถึงชาติพันธุ์ ศาสนาในระหว่างประกาศหยุดยิง ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้กองทัพเมียนมาวางอาวุธเช่นกัน
เจ้าหน้าที่สหประชาชาติในบังกลาเทศประเมินตัวเลขผู้ลี้ภัยที่อพยพหนีตายข้ามฝั่งมายังบังกลาเทศเป็นจำนวน 290,000 คน โดยพบว่ามีเด็กเล็กและสตรีพยายามเข้าล้อมยานพาหนะทุกคันที่แล่นผ่าน เพื่อขอทาน เนื่องจากไม่มีอาหารมาตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมแล้ว ขณะที่โครงการอาหารโลก หรือ WFP ก็ไม่สามารถจัดเตรียมอาหารและเงินช่วยเหลือได้ หลังรัฐบาลเมียนมาระบุว่า หน่วยงานของสหประชาชาติให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏ ทำให้สหประชาชาติต้องอพยพเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีความจำเป็นออกนอกพื้นที่ เนื่องจากเกรงความไม่ปลอดภัย
…
(0740 F171)