ชวนเที่ยวจ.ตรัง ชิมอาหารสารพัดเมนู เน้นเอกลักษณ์ วัฒนธรรมยาวนานกว่า100ปี

09 กันยายน 2560, 12:56น.


จังหวัดตรัง เป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานกว่า 100 ปี อดีตเป็นเมืองท่าเรือเก่าแก่ มีการติดต่อซื้อขายกับนานาประเทศทั่วโลก มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมมากมาย หนึ่งในนั้น คือ วัฒนธรรมอาหารการกิน จังหวัดตรังจึงจัดงานเทศกาลอาหารอร่อย หมูย่างและขนมเค้ก เมืองตรัง ปี 2560 ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ศาลากลางจังหวัดตรัง โดยงานจะมีตั้งแต่วันที่ 8-10 กันยายน 2560 นางสาวกรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตรัง เปิดเผยว่า ตรังขึ้นชื่อเรื่องอาหารการกินมาก ได้ชื่อว่ามาตรังต้องกินวันละ 9 มื้อ หากชมว่าอาหารอร่อย คนในเมืองตรังจะภูมิใจมาก อาหารขึ้นชื่อของที่นี่จะเป็นหมูย่างและขนมเค้กเมืองตรัง





จังหวัดตรัง เดิมเคยเป็นเมืองท่าเรือ มีชาวจีนมาขึ้นฝั่งจำนวนมาก นำวัฒนธรรมการกินเข้ามาด้วย ชาวจีนได้ชื่อว่าอาหารการกินเป็นสิ่งที่เชิดหน้าชูตา โดยเฉพาะหมูย่าง ที่เป็นเอกลักษณ์ เนื่องจากชาวจีนนำหมูขี้พร้า ซึ่งเป็นหมูที่มีมันน้อย เข้ามาเลี้ยงในจังหวัดตรัง เวลานำมาย่างจะมีความมันน้อยและอร่อย สูตรหมูย่างที่จังหวัดตรังจะหมักด้วยเครื่องยาจีน โดยผงยาจีนที่หมักจะมาจากร้านเดียวกัน แต่รสชาติ สูตรการปรุงรสจะแตกต่างกัน การหมัก จะเริ่มหมักตั้งแต่15.00น. พอหมักได้ 3 ชั่วโมงจะใส่เครื่องเทศเพิ่ม ใช้เวลาหมักรวมประมาณ 6-7 ชั่วโมง ส่วนขั้นตอนการย่าง จะเริ่มย่างตั้งแต่02.00น.เตาย่างจะเป็นหลุม ต้องห่อหมูให้กลมและห้อยหัวหมูลงไปในเตา ใช้เวลาย่างประมาณ 4 ชั่วโมง ก่อนจะนำมาขายในช่วงเช้า หมูย่างที่นี่จึงมีเอกลักษณ์เป็นความกรอบนอก และนุ่มใน เนื้อในจะชุ่มเครื่องเทศ หอมกรุ่น





นางสาวกรุณา ยังเล่าถึงเมนู ขนมเค้ก ของหวานที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน ว่า ขนมเค้กที่ตรังจะแตกต่างจากจังหวัดอื่นตรงที่มีรูตรงกลาง มีที่มาที่ไปตอนที่ตรังเป็นเมืองท่าเรือ มีการค้าขายกับฝรั่ง นำวัฒนธรรมการกินของฝรั่งเข้ามา และมีชาวจีนคนแรกที่ชื่อ "ขุกมิ่ง" ทดลองทำขนมเค้ก แต่พอลองทำแล้วด้านในไม่สุก จึงเจาะรูตรงกลาง และใช้เตาโบราณ มีไฟด้านล่างและด้านบน ความร้อนเข้ามาตรงกลางจึงทำให้สุกทั่วทั้งก้อน จึงเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดตรัง มีรสวนิลาเป็นรสชาติดั้งดิม ช่วงหลังจะเป็นเค้กส้ม เค้กกาแฟ ปัจจุบันมีเค้กอินทผาลัม ล่าสุดมีเค้กหมูย่าง ที่นำเนื้อหมูล้วน ไม่ติดมันมาบดให้ละเอียด รสชาติอร่อย กลมกล่อม ใครที่ลองชิมแล้วจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยมาก นอกจากนี้ ยังมีเค้กรสชาติตามฤดูกาล เช่น เค้กจำปาดะ เค้กทุเรียน ที่สามารถหารับประทานได้เฉพาะบางฤดูเท่านั้น





ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตรัง เล่าอีกว่า คนในจังหวัดตรัง เป็นคนที่ชื่นชอบรับประทานมาก จึงคิดค้นเมนูอาหารใหม่ๆ ในงานเทศกาลอาหารปีนี้ มีการนำเสนอเมนูอาหารใหม่ๆ ล่าสุดมีการทำอาหารเม็กซิกันโดยใช้หมูย่าง และผัดไทหมูย่าง น้ำพริกหมูย่าง หรือ น้ำพริกข้างเขียง ที่นำเนื้อหมูชิ้นเล็กที่เหลือจากการสับมาทำน้ำพริก แกงขมิ้นหมูย่าง ที่จะต้องใช้มือตำขมิ้นเท่านั้น ไม่มีการใช้เครื่อง หมูย่างต้มส้มป่อย และยังมีเมนู "หมี่หน่ำเหลี่ยว" หรือเส้นหมี่ฮกเกี้ยน ใช้น้ำราดคล้ายราดหน้า มีน้ำจิ้มซีฟู้ดเป็นเครื่องปรุง ทั้ง ปู กุ้ง ปลาหมึก โดยหมี่ดังกล่าวคนตรังจะให้ความสำคัญ ถือว่าเป็นหมี่มงคล ในวันสุดท้ายของงานศพ จะเลี้ยงหมี่หน่ำเหลี่ยว เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูต่อผู้วายชนม์ สร้างความเจริญรุ่งเรืองสืบทอดยาวไปเหมือนเส้นหมี่ เป็นเมนูที่หารับประทานได้ยาก แต่เนื่องจากขณะนี้มีการโปโมท มีขายอยู่ 3-4 ร้าน เป็นร้านที่อร่อยมาก ภายในงานยังมีเมนูชุมชนอีกกว่า 40 เมนู ของ 12 ชุมชนสีเขียว เที่ยวได้ทั้งปี ที่เป็นเมนูของปู่ ย่า ตา ยาย ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น ปลอดสารพิษ และเป็นอาหารสุขภาพ เช่น หมึกผัดดำ บุกต้มกะทิ เป็นต้น และอาหารขึ้นชื่อ คือ ราดหน้าซุปเปอร์  เมนูต้องห้ามพลาดเมื่อมาเยือนตรัง





สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวในจังหวัดตรัง นางสาวกรุณา ระบุว่า นักท่องเที่ยวในตรังร้อยละ 90 จะเป็นคนไทย ส่วนอีกร้อยละ 10 จะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาจเป็นเพราะอาหารการกินถูกปากคนไทย คนไทยส่วนใหญ่จึงเที่ยวในเมือง ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเน้นเรื่องความสวยงามของธรรมชาติ จึงออกไปเที่ยวตามเกาะต่างๆ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวจังหวัดตรัง จะนึกถึงทะเล แต่ว่าทะเลจะมีช่วงมรสุม 4 เดือน ที่ไม่สามารถเที่ยวได้ ทะเลจะปิด ตั้งแต่ 1 มิถุนายน-30 กันยายน ของทุกปี โดยแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลจะอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม มีการจำกัดนักท่องเที่ยว และเน้นการดูแลความปลอดภัยเป็นอันดับแรก หากมีมรสุมจะแจ้งเตือนผ่านการประชาสัมพันธ์ ติดต่อประสานงานกันตลอดเวลา อย่างไรก็ตามช่วงมรสุมจังหวัดตรังมีแหล่งท่องเที่ยวชดเชย คือ ล่องเรือแคนูเขาหลัก ชิมเมนูไก่ดำ ล่องเรือในถ้ำเขากอบ เป็นต้น



ผู้สื่อข่าว:ปภาดา พูลสุข



 

ข่าวทั้งหมด

X