กรณีผลสำรวจความคิดเห็นความเชื่อมั่นนายกรัฐมนตรี ของสถาบันพระปกเกล้า นายวุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า การทำงานครั้งนี้ไม่ถือเป็นการทำโพล เพราะการทำโพลเป็นการสุ่มตัวอย่างและมีคำถามเพียงไม่กี่คำถาม แต่สำหรับสถาบันพระปกเกล้าเรียกว่าโครงการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับความพึงพอใจและบริการสาธารณะของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งทำมาตั้งแต่ปี 2545 อย่างไรก็ตาม ในปี 2560 ได้เก็บสุ่มตัวอย่าง 33,420 กลุ่มตัวอย่าง เป็นการสุ่มตัวอย่างทุกจังหวัด และลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็นบุคคลที่ให้สัมภาษณ์ ดังนั้น ตามระเบียบวิธีการสำรวจเชื่อว่าซับซ้อนและมั่นใจว่าเป็นตัวแทนที่แท้จริงของประชาชน ทั้งนี้ สิ่งที่เราสำรวจทุกปีเป็นการทำหน้าที่ในสถานะสถาบันทางวิชาการ ที่ต้องการสะท้อนว่าประชาชนมีความคิดเห็นอย่างไร และหวังว่าจะนำไปสู่ปรับปรุงแก้ไขเพื่อเป็นการสร้างสรรค์ต่อบ้านเมือง
ส่วนผลการสำรวจคะแนนนิยม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นำคะแนนนิยมของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายวุฒิสาร กล่าวว่า โพลดังกล่าวไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ แต่ถ้าจะโยงเมื่อไหร่จะเป็นการสร้างปัญหา คิดว่าปัญหาวันนี้ คือ สื่อมวลชนต้องเข้าใจหลักการและนำเสนอข้อเท็จจริง ไม่ใช่เสนอความคิดเห็น และที่สำคัญต้องนำเสนออย่างสร้างสรรค์ คำถามแบบนี้ทำให้เกิดปัญหาในบ้านเมือง สื่อต้องเข้าใจบริบทและฟังข้อเท็จจริง แต่ขณะนี้สื่อไม่ได้ฟัง และหยิบบางเรื่องเพื่อตั้งคำถาม และเกิดปัญหาใหม่ ดังนั้น เราต้องทบทวนกันทุกฝ่ายทำหน้าเพื่อบ้านเมือง ไม่ใช่ทำเพื่อสนุกและมันส์
ส่วนการที่ นายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. ระบุถึงงานวิจัยดังกล่าวว่าทำให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมือง นายวุฒิสาร ชี้แจงว่า ใครจะเข้าใจหรือแปลความอย่างไรเป็นสิทธิ์ของแต่ละคน และถ้าจะเป็นธรรมก็น่าจะเข้าไปดูข้อเท็จจริงในการแถลงข่าวและเนื้องานวิจัย
กรณี สปท.ด้านการเมือง เสนอให้ปฏิรูปสถาบันพระปกเกล้า คิดว่าในเวที สปท. เป็นเวทีพูดคุยกัน มีความเห็นที่หลากหลาย ส่วนตัวไม่ได้อยู่ในฐานะตอบโต้ เพราะไม่ได้เป็นสมาชิก สปท. จึงเป็นสิทธิ์แสดงความคิดเห็นส่วนบุคคล
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี