หุ้นไทย ทำนิวไฮท์มีแรงหนุนเชิงบวก/กรธ.เร่งยกร่างกฎหมายลูก/สร้อยเพชร พบตร.แสดงความบริสุทธิ์ไม่ได้หลอกแต่งงาน

07 กันยายน 2560, 19:05น.


+++สภาพอากาศในช่วงนี้ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำ สภาวะอากาศและปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) พบว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 6 – 10 ก.ย. ปภ.จึงได้ประสาน 33 จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยแยกเป็น ภาคเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร และพิษณุโลก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ภาคตะวันออก 7 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ 6 จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล รวมถึงศูนย์ปภ.เขต สำนักงานปภ.จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย และจังหวัดในพื้นที่ใกล้เคียง เตรียมพร้อม



+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 3 โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า หลายประเด็นที่หารือร่วมกันไว้จะได้เร่งรัดติดตามความก้าวหน้า ในฐานะที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านกัน เราสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่ต้องเกรงใจ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศมีความเข้าอกเข้าใจกันอยู่แล้ว ไม่มีอะไรต้องปิดบังกัน จะได้ปลดล็อกกันให้ได้ โดยจะไม่สร้างปัญหาให้วันข้างหน้า อีกทั้งสถานการณ์ทางการเมืองของทั้งสองประเทศก็อ่อนไหวด้วยกันทั้งคู่ จึงฝากให้ทำความเข้าใจตรงนี้ ก็จะเดินหน้าต่อไปได้ในทุกเรื่อง และต้องร่วมกันแก้ปัญหาที่มีอยู่ โดยไม่สร้างปัญหาในวันข้างหน้า และหวังว่าการประชุมร่วมในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสอันดีสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและกระชับความร่วมมือของประเทศทั้งสอง



+++ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวให้ข้อคิดเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงว่า การเมืองและความมั่นคงระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา มีความร่วมมือระหว่างกันอย่างดียิ่ง ในทุกระดับ โดยทำงานอย่างบูรณาการเสริมสร้างพื้นที่ชายแดนให้มีความสงบสุข สองประเทศมีเสถียรภาพ ดังนั้นขอให้ทั้งสองฝ่ายเร่งจัดทำรายชื่อผู้ประสานงาน สำหรับช่องทางการสื่อสารเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนหรือฮอตไลน์ในทุกระดับ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนได้อย่างทันท่วงที



+++ด้านสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แถลงว่า การหารือกันครั้งนี้ถือเป็นเข็มทิศชี้ทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกัมพูชา และ ไทย อย่างไรก็ตามเกือบทุกบริบทที่หยิบยกมาหารือ และเห็นชอบร่วมกันนั้น โดยทางด้านเศรษฐกิจ ทั้ง 2 ประเทศ มุ่งเน้นเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน ซึ่งไทยตกลังรับซื้อสินค้าเกษตรกรมากขึ้น ขณะที่ การเชื่อมโยงระหว่างกันเป็นประเด็นหลัก และเห็นชอบเปิดด่านถาวร อีก 4 แห่ง ส่วนปัญหายาเสพติดและการค้ามนุษย์ก็เป็นประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายหยิบยกมาหารือ กัน ทั้งนี้ อยากให้คนงานกัมพูชา เข้าทำงานในไทยอย่างถูกกฎหมาย โดยไม่ถูกหลอก ขณะเดียวกันริเริ่มให้มีหมู่บ้านสีขาว ปลอดยาเสพติด



+++นายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การลงนามในคำสั่งมอบหมายงานให้ผู้ตรวจราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) ที่มีคำสั่งโยกย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้รับผิดชอบเขตตรวจราชการพื้นที่ 5 จังหวัด คือ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา สตูล ว่า ได้ลงนามคำสั่งดังกล่าวเพื่อแบ่งงานให้ผู้ตรวจราชการใหม่ที่เพิ่งมีคำสั่งโยกย้ายมา ซึ่งแต่เดิมนายสุรศักดิ์ เรียงเครือ ผู้ตรวจราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรีดูแลตรวจราชการพื้นที่จังหวัดทั้ง 2 เขต คือ เขต 16 ( เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ )กับ เขต 8 ( นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา สตูล ) มานานกว่า 3 ปี ได้ขอถอดเขตตรวจราชการออกหนึ่งเขต จึงเซ็นแบ่งงานให้กับผู้ตรวจราชการที่มาใหม่รับผิดชอบเขต 8 ซึ่งเป็นเขตที่ว่างอยู่ เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะเขตดังกล่าวก็เคยรับผิดชอบตรวจราชการพื้นที่มาแล้ว



+++กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ระบุจะเลือกตั้งได้ในเดือนสิงหาคม 2561 นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า การกำหนดวันเลือกตั้ง จะชัดเจนได้เมื่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้งฉบับสุดท้ายประกาศใช้ แต่ขณะนี้ร่างดังกล่าวยังยกร่างไม่เสร็จ  กรธ.กำลังอยู่ระหว่างจัดทำร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ซึ่งมีเนื้อหารายละเอียดมาก และต้องใช้เวลาในการจัดทำ เพราะเป็นร่างกฎหมายสำคัญที่จะทำให้รัฐธรรมนูญบรรลุเป้าหมาย



+++นายมีชัย กล่าวว่า ตั้งใจว่าเมื่อยกร่างเสร็จแล้ว จะเหลือเวลาประมาณ 45 วันยกร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. ซึ่งเป็น 2 ฉบับสุดท้าย ยอมรับว่าหนักใจเรื่องระยะเวลาที่เหลือน้อยและจวนเจียนในการทำงาน โดยอาจเหลือเวลายกร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับสุดท้ายเพียง 30 วัน ซึ่งอาจจะต้องประชุมช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ด้วย แต่มั่นใจว่าจะส่งร่างพ.ร.ป.ดังกล่าวได้ภายในกรอบเวลา 240 วัน โดยจะส่งก่อน 2-3 วัน เผื่อมีอะไรต้องปรับแก้ และแม้ส่งร่างพ.ร.ป.ไปแล้วยังมีอีกหลายขั้นตอนก่อนจะประกาศใช้ จึงยากคาดเดา



+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย มีความคึกคัก หลังจากที่ครึ่งเช้าดัชนีเพิ่มขึ้น 4.07 จุด จากแรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน สื่อสาร ธนาคาร ตามตลาดภูมิภาคที่แกว่งตัวในเชิงบวก หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ สามารถตกลงกับแกนนำของสภาคองเกรสเรื่องการขยายเพดานหนี้ออกไปจนถึง 15 ธ.ค. ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี และอายุเฮอร์ริเคน เออร์มา ที่คาดว่าจะพัดเข้าถลมชายฝั่งรัฐฟลอริดาในวันเสาร์นี้ และยังติดตามการประชุมธนาคารกลางสหภาพยุโรป (อีซีบี) คืนนี้ ขณะที่ภาคบ่าย ก็ยังขึ้นต่อได้อย่างร้อนแรง ถือว่าได้ขึ้นมาทำ จุดสูงสุด (นิว ไฮท์) ในรอบ 2 ปีกว่า ทำให้มีแรงหนุนเชิงบวกในทางเทคนิค อีกทั้ง มีการปรับประมาณการแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้น หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์และปิโตรเคมีปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงธุรกิจการท่องเที่ยวและสื่อสารที่ฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้ปิดตลาดที่จุด1,632.66 จุด เพิ่มขึ้น 11.36 จุด มูลค่าการซื้อขายล้านบาท



+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียวญี่ปุ่น ปิดบวก 38.55 จุด  ที่ 19,396.52 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส่ง ฮ่องกง ลดลง 90.84 จุด ปิดวันนี้ที่ 27,522.92 จุด

+++การติดตามน.ส.จริยาภรณ์ บัวใหญ่ หญิงสาวที่ก่อเหตุหลอกลวงให้ไปแต่งงาน และหลอกเอาเงินค่าสินสอดหลบหนี โดยผู้เสียหายถูกหลอกเงินตั้งแต่คนละ 1 แสนบาท ถึง 5 แสนบาท นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นำเจ้าบ่าวผู้เสียหายจำนวน 4 คนจากทั้งหมด 13 คน ที่ถูกหลอก เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เพื่อขอให้ ปปง.ยึดทรัพย์สินของ น.ส.จริยาภรณ์ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดรวม 4 คน ในมูลฐานที่ ปปง.มีอำนาจอายัดและยึดทรัพย์สินของผู้ต้องหาทั้งหมดได้ หากได้มาจากการกระทำผิด โดยมี ร้อยตำรวจเอกไพรัตน์ เทศพานิช เลขานุการ สำนักงาน ปปง. เป็นตัวแทนรับเรื่อง



+++นายสงกานต์  กล่าวว่า จากการตรวจสอบหลักฐานทางการเงินที่ น.ส.จริยาภรณ์ เปิดบัญชีธนาคารที่ใช้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินมาให้พบว่าใช้ชื่อบุคคลอื่น คือ น.ส.สร้อยเพ็ชร พาลีวัลย์ รวมทั้งในการ์ดแต่งงาน และพ่อแม่ของ น.ส.จริยาภรณ์ ก็หลอกใช้นามสกุล พาลีวัลย์ ด้วย ล่าสุด น.ส.สร้อยเพ็ชร ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน จากข้อมูลในทางลับพบว่ามีผู้ที่โดน น.ส.จริยาภรณ์ หลอกในลักษณะเช่นนี้มีแจ้งเบาะแสเข้ามาเรื่อยๆ เชื่อว่าไม่ใช่แค่ 13 คน แต่น่าจะมีมากกว่า 20 รายอย่างแน่นอน ขณะนี้ได้แจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.จริยาภรณ์ ไปแล้วรวม 9 คดี และในอดีตพบว่า ยังมีหมายจับในคดีต่างๆโดยเฉพาะฉ้อโกงรวมอีกกว่า 30 คดี



+++น.ส.จริยาภรณ์ บัวใหญ่ หรือ น.ส.น้ำมนต์ สาวแสบหลอกผู้ชายนับสิบแต่งงาน ได้นำบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ของนางสาวสร้อยเพ็ชร มาลีวัลย์ ที่เป็นญาติ สวมรอยเปิดบัญชีในชื่อของสร้อยเพ็ชรหลอกให้อดีตเจ้าบ่าวโอนเงิน สร้างความเสียหายอย่างมาก น.ส.สร้อยเพชร พาลีวัลย์ ได้เดินทางเข้าพบร.ต.อ.ศรสุพรรณ อดทนศรัอนันต์ พนง.(สอบสวน) 1 กก.2บก.ป. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินในบัญชีที่เป็นชื่องน.ส.สร้อยเพชร พาลีวัลย์ ยอมรับว่ารู้จักกับ น.ส.จริยาภรณ์ เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว เนื่องจากมีศักดิ์เป็นญาติใกล้ชิดกัน อาจเป็นไปได้ว่า น.ส.จริยาภรณ์ อาจจะเคยนำบัตรประชาชนของตัวเองไปใช้ในการเปิดบัญชีธนาคารขึ้นมาใหม่ หรือทำธุรกรรมทางการเงิน เนื่องจากเมื่อหลายปีก่อน น.ส.จริยาภรณ์ เคยมาขอยืมบัตรประชาชนของตัวเองไปใช้ในการสมัครงานแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยอ้างว่าตัวเองมีอายุเกินกำหนดที่จะสมัครงานจึงจำเป็นต้องใช้บัตรประชาชนของตัวเองในการสมัครงานแทนและไม่คืนให้จนต้องทำบัตรใหม่



+++ความรุนแรงของพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา พัดถล่มหมู่เกาะหลายแห่งในแถบทะเลแคริบเบียน รวมถึงเกาะแอนติกาและเกาะบาร์บูดา,เกาะแซ็ง-มาร์แต็งและเกาะแซ็ง-บาร์เตเลมี อาณาเขตของฝรั่งเศส และเกาะเปอร์โตริโก อาณาเขตสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ สำนักข่าวเอพี รายงานอ้างนายกรัฐมนตรีแกสตัน บราวน์ ของประเทศแอนติกาและบาร์บูดา ซึ่งมีประชากรราว 1,400 คนว่า อิทธิพลของพายุทำให้มีลมแรง ฝนตกหนัก บ้านเรือนเสียหาย ร้อยละ 60 ของประชากรบนเกาะแอนติกาและเกาะบาร์บูดาไร้ที่อยู่อาศัย ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง เสาสัญญาณไฟฟ้าหักโค่น ทำให้การสื่อสารเพื่อติดตามสถานการณ์ล่าสุดทำได้ลำบาก



+++ด้านศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐฯคาดว่า พายุจ่อถล่มจุดต่อไปคือโดมินิกันและเฮติในช่วงเช้ามืดของวันพรุ่งนี้



+++เอพี รายงานอ้างนายเจอร์ราด โคลลอมบ์ รัฐมนตรีความมั่นคงภายในของฝรั่งเศสว่า มีคนเสียชีวิตเพิ่มจาก 7 ศพเป็น 9 ศพ และมีคนบาดเจ็บ 23 คน หลังพายุพัดถล่มเกาะแซ็ง-มาร์แต็งและเกาะแซ็ง-บาร์เตเลมี อาณาเขตของฝรั่งเศสเมื่อคืนนี้ด้วยความแรงลมระดับ 5 คือ 298 กม.ต่อชม.เขาให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุฟรานซ์ อินโฟของฝรั่งเศสในวันนี้ คาดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากทีมกู้ภัยยังลงพื้นที่สำรวจความเสียหายบนเกาะทั้งสองยังไม่ครบทุกพื้นที่ เจ้าหน้าที่จะเริ่มลงพื้นที่สำรวจสภาพความเสียหายในพื้นที่ต่างๆ ช่วงเช้าวันนี้



แฟ้มภาพ 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X