พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 3 โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า หลายประเด็นที่หารือร่วมกันไว้จะได้เร่งรัดติดตามความก้าวหน้า ในฐานะที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านกัน เราสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่ต้องเกรงใจ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศมีความเข้าอกเข้าใจกันอยู่แล้ว ไม่มีอะไรต้องปิดบังกัน จะได้ปลดล็อกกันให้ได้ โดยจะไม่สร้างปัญหาให้วันข้างหน้า อีกทั้งสถานการณ์ทางการเมืองของทั้งสองประเทศก็อ่อนไหวด้วยกันทั้งคู่ จึงฝากให้ทำความเข้าใจตรงนี้ ก็จะเดินหน้าต่อไปได้ในทุกเรื่อง และต้องร่วมกันแก้ปัญหาที่มีอยู่ โดยไม่สร้างปัญหาในวันข้างหน้า และหวังว่าการประชุมร่วมในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสอันดีสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและกระชับความร่วมมือของประเทศทั้งสอง
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวให้ข้อคิดเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงว่า การเมืองและความมั่นคงระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา มีความร่วมมือระหว่างกันอย่างดียิ่ง ในทุกระดับ โดยทำงานอย่างบูรณาการเสริมสร้างพื้นที่ชายแดนให้มีความสงบสุข สองประเทศมีเสถียรภาพ ดังนั้นขอให้ทั้งสองฝ่ายเร่งจัดทำรายชื่อผู้ประสานงาน สำหรับช่องทางการสื่อสารเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนหรือฮอตไลน์ในทุกระดับ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนได้อย่างทันท่วงที
นายกรัฐมนตรี ทั้ง 2 เป็นสักขีพยาน การลงนามเอกสาร 2 ฉบับ ประกอบด้วย แถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 3 และความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนไทย – กัมพูชา ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ภาคเอกชนของทั้งสองฝ่าย และส่งเสริมการลงทุนระหว่างกันต่อไป
ด้านสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แถลงว่า การหารือกันครั้งนี้ถือเป็นเข็มทิศชี้ทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกัมพูชา และ ไทย อย่างไรก็ตามเกือบทุกบริบทที่หยิบยกมาหารือ และเห็นชอบร่วมกันนั้น โดยทางด้านเศรษฐกิจ ทั้ง 2 ประเทศ มุ่งเน้นเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน ซึ่งไทยตกลังรับซื้อสินค้าเกษตรกรมากขึ้น ขณะที่การเชื่อมโยงระหว่างกันเป็นประเด็นหลัก และเห็นชอบเปิดด่านถาวร อีก 4 แห่ง ส่วนปัญหายาเสพติดและการค้ามนุษย์ก็เป็นประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายหยิบยกมาหารือ กัน ทั้งนี้ อยากให้คนงานกัมพูชา เข้าทำงานในไทยอย่างถูกกฎหมาย โดยไม่ถูกหลอก ขณะเดียวกันริเริ่มให้มีหมู่บ้านสีขาว ปลอดยาเสพติด
CR:รัฐบาลไทย